หลักฐานชิ้นสุดท้ายในการเป็นนะบีของมุฮัมมัด
เหตุใดยุคมืด ( ญฺาฮีลียะอ์ ) เมื่อกว่า 1,400 ปี พ่อค้าและนักเลี้ยงสัตว์ชาวอาหรับผู้ไร้การศึกษาจะสามารถมีสติปัญญา ความรู้ กำลัง ความสามรถ และคุณธรรมความดีอันสูงส่งได้
กล่าวได้ว่า ไม่มีสิ่งใดแปลกใหม่สำหรับเรื่องที่ท่านนะบี นำมาสอน ถ้าสิ่งที่ท่านสอนนั้นเป็นเรื่องที่คิดขึ้นเองแล้ว ท่านก็ควรจะประกาศตนเป็นพระผู้เป็นเจ้าเสียเอง และถ้าท่านประกาศตัวเองเป็นพระผู้เป็นเจ้าในขณะนั้นแล้ว ก็จะเป็นดังเช่นที่ชนทั้งหลายได้เรียกพระกฤษณะและพระพุทธเจ้าว่าเป็นพระเจ้า และเรียกเยซู เป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าตามความคิดเห็นของพวกเขา ผู้ซึ่งขาดสติสัมปชัญญะบูชาแม้กระทั่งอำนาจแห่งธรรมชาติ เช่น น้ำ ไฟ และอากาศ จะต้องยอมรับอย่างทันทีว่า บุรุษวิเศษผู้นี้คือพระผู้เป็นเจ้านั่นเอง
แต่เปล่าเลย คำยืนยันกลับเป็นตรงกันข้ามเพราะท่านนะบี ได้ประกาศว่า
ข้าพเจ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนกับพวกท่าน ข้าพเจ้ามิได้นำสิ่งที่คิดค้นขึ้นเองนั้นมาเผยแผ่แก่ท่านทั้งหลาย ความจริงพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงลงโองการ (วะฮียฺ) ให้ข้าพเจ้าทราบ ทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าครอบครองอยู่นี้เป็นของพระผู้เป็นเจ้า ข้อความทั้งหลายซึ่งไม่มีมนุษย์ผู้ใดจะคิดค้นได้เหมือนดำรัสของพระองค์ มิใช่คิดขึ้นเพราะความคิดเห็นของข้าพเจ้า ทุกๆคำคือสิ่งที่บัญชามาจากพระผู้เป็นเจ้า และการสรรเสริญทั้งมวลเป็นของพระองค์ผู้ซึ่งเป็นผู้มอบสารนั้น สิ่งต่าง ๆ ซึ่งข้าพเจ้าทำสำเร็จและก่อให้เกิดความเชื่อถือ กฎต่าง ๆ ซึ่งข้าพเจ้าได้วางไว้และได้สั่งสอน ทุกสิ่งมิได้มาจากความสามารถและสติปัญญาของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าไม่อาจจะสร้างสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นได้เลย ข้าพเจ้าต้องดำเนินการทุกอย่างตามบัญชา สิ่งใดที่พระองค์ประสงค์ข้าพเจ้าปฏิบัติ สิ่งใดที่พระองค์บัญชาข้าพเจ้าจึงประกาศ
ช่างเป็นตัวอย่างของความซื่อสัตย์ มั่นคงและมีเกียรติอย่างยิ่ง ถ้าเป็นผู้โป้ปดและพวกกลับกลอกจะต้องหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองเพื่อความเชื่อถือในการกระทำที่เป็นของผู้อื่น ถึงแม้การหลอกลวงจะถูกพิสูจน์ได้อย่างง่ายดาย แต่ทว่าสำหรับมหาบุรุษผู้นี้มิได้ถือเอาการกระทำเหล่านั้นเป็นเกียรติแก่ตนเองเลย และไม่มีหนทางใดที่จะค้นพบต้นกำเนิดแห่งแรงดลใจของท่านได้ สิ่งใดเล่าจะเป็นข้อพิสูจน์ที่สมบูรณ์ของความยึดมั่นในจุดประสงค์ ความแน่วแน่แห่งคุณลักษณะ และความบริสุทธิ์ของวิญญาณ ไปกว่าที่กล่าวมาแล้ว ผู้ใดเล่าจะเป็นผู้ที่ซื่อสัตย์ยิ่งไปกว่าบุคคลผู้ซึ่งได้รับของขวัญพิเศษที่สวยงามโดยที่ไม่มีผู้ใดทราบ อีกทั้งได้เปิดเผยที่มาแห่งความรู้ และการดลใจ อย่างไม่อำพรางสิ่งใดทั้งสิ้น สิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดได้นำไปสู่ผลสรุปที่ไม่อาจมีข้อโต้แย้งได้ว่า บุรุษผู้นี้คือ (รสูลุลลอฮ์)ศาสนฑูต ผู้เผยแพร่ที่แท้จริงของพระผู้เป็นเจ้า
นี่คือคุณลักษณะแห่งนะบี ท่านนะบีมุฮัมมัด เป็นตัวอย่างของคุณงามความดี เป็นตัวอย่างอันเยี่ยมยอดของความบริสุทธิ์และความกรุณา เป็นสัญลักษณ์แห่งความจริง สัจจะ และเป็นเราะซูลผู้เผยแผ่แห่งโลกนี้ ชีวิตและความคิดของท่าน ความซื่อสัตย์และความตรงของท่าน ความใจบุญและความเมตตา คุณลักษณะ ศีลธรรม ความคิดเห็นและการกระทำของท่าน เหล่านี้ล้วนเป็นข้อพิสูจน์อันหาข้อตำหนิมิได้ มนุษย์คนใดก็ตามซึ่งได้ศึกษาชีวิตและคำสอนของท่านอย่างไม่มีอคติแล้ว ย่อมจะเป็นพยานได้ว่าท่านเป็นนะบียุลลอฮฺที่แท้จริงของพระผู้เป็นเจ้า และเป็นพยานว่าคัมภีร์ที่มอบแก่มวลมนุษย์นั้น เป็นบัญญัติที่แท้จริงของพระผู้เป็นเจ้า
ควรจะเป็นที่เข้าใจกันอย่างแจ่มแจ้ง ณ บัดนี้ว่า ท่านนะบีมุฮัมมัด เท่านั้น ที่ทำให้เราได้รู้สิ่งที่ถูกต้องของอิสลาม พระคัมภีร์อัลกุรอานและตัวอย่างชีวิตของท่านนะบีมุฮัมมัด เท่านั้นเป็นแหล่งที่เชื่อถือได้สำหรับมนุษย์ ในการที่จะเรียนรู้พระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าทั้งหมด มุฮัมมัด คือผู้เผยแผ่สารของพระผู้เป็นเจ้าสำหรับมนุษย์ทั่วโลก และการสืบเชื้อสายอันยาวนานของศาสดา (นะบี) ได้สิ้นสุดลงที่ท่าน เป็นศาสดา ( นะบี ) ท่านสุดท้าย และคำสั่งสอนทั้งหลายซึ่งเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ที่ต้องการแจ้งต่อมวลมนุษย์ โดยถูกส่งผ่านมาทางนะบีมุฮัมมัด และรับรองการอ้างอิงไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน และวจนะของท่านนะบี ทั้งหะดีษ สุนนะฮ์
บัดนี้ ! ไม่ว่าผู้ใดซึ่งเป็นผู้ค้นคว้าหาความจริง และปรารถนาที่จะเป็นมุสลิมที่ซื่อสัตย์ เป็นผู้ที่เดินตามทางของพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริงแล้ว เป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องมีศรัทธาในนะบี ท่านสุดท้ายของพระผู้เป็นเจ้า ยอมรับคำสั่งสอนและปฏิบัติตามแนวทางซึ่งท่านได้ชี้ให้แก่มวลมนุษย์ นี่แหละคือทางที่แท้จริงในการไปสู่ความสำเร็จและการรอดพ้น
จากหนังสือ มาเข้าใจ อิสลาม กันเถิด
แปลและเรียบเรียง จินตนา