ผู้สร้างประวัติศาสตร์
ในประวัติศาสตร์โลกนั้น ความประเสริฐของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ นะบีมุฮัมมัด ได้พุ่งขึ้นสูงสุดเหนือบรรดาบุรุษทั้งมวลในทุกยุคทุกสมัย ถ้านำมาเปรียบเทียบกับท่านนะบี แล้วบุรุษเหล่านั้นจะดูเหมือนเป็นคนแคระไปในทันที ไม่มีใครเลยในจำนวนพวกเขา ที่จะมีอัจฉริยะในด้านการสร้างความประทับใจอันลึกซึ้งได้มากกว่าหนึ่งหรือสองด้านของชีวิตมนุษย์ บางทีก็ชี้แจงแต่ในทางทฤษฎีและความคิดเห็นแต่ขาดการปฏิบัติ บางกลุ่มก็สามารถปฏิบัติแต่ขาดความรู้ คนมีชื่อเสียงแต่ก็เป็นเพียงรัฐบุรุษ บางพวกมีความสามารถทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีการรบ บ้างก็มุ่งอยู่กับแง่ใดแง่หนึ่งของชีวิตทางสังคมจนกระทั่งมองข้ามแง่อื่น ๆ ไปจนหมดสิ้น บ้างก็อุทิศชีวิตและกำลังไปในทางธรรมและความบริสุทธิ์ทางจิต แต่ละเลยทางเศรษฐศาสตร์และทางการเมือง ละเลยศีลธรรมและการศึกษาทางด้านจิตใจและปัญญา จะกล่าวคือเราได้พบวีรบุรุษผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและชำนาญในแง่ใดแง่หนึ่งของชีวิดเท่านั้น
ความชำนาญและความเชี่ยวชาญของท่านนบีมูฮัมมัด เป็นตัวอย่างแห่งความดีเลิศทั้งมวลที่รวมกันอยู่ เป็นหนึ่งในนักปรัชญาและศาสดาพยากรณ์ และยังเป็นตัวอย่างแห่งคำสอนอีกด้วย ท่านนะบี เป็นรัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ เป็นอัจฉริยะทางการทหาร เป็นนักกฎหมาย เป็นครูทางศีลธรรมจรรยา เป็นแสงสว่างแห่งปัญญาและจิตใจ พร้อมทั้งเป็นผู้นำทางศาสนา สายตาของท่านมองทะลุในทุก ๆ ด้านของชีวิตและไม่มีสิ่งใดที่แตะต้องแล้วมิได้ทำให้ดีขึ้น คำสั่งและข้อบัญญัติได้ครอบคลุมทั้งกฎความเกี่ยวพันระหว่างชาติไปจนถึงภารกิจประจำวัน เช่น การกิน การดื่ม และการทำความสะอาดร่างกาย บนพื้นฐานของทฤษฎี ท่านได้สร้างอารยธรรมและวัฒนธรรม และทำให้เกิดดุลยภาพอันสมบูรณ์ในการขัดแย้งกันระหว่างปัญหาชีวิตจนกระทั่งไม่สามารถที่จะพบแม้แต่รอยเล็กที่สุดของการผิดพลาดความไม่เหมาะสมและความไม่สมบูรณ์ จะมีใครบ้างที่สามารถมีความสมบูรณ์ไปหมดทุกด้านแห่งบุคลิกได้เช่นนี้
ส่วนใหญ่บุคคลที่มีชื่อเสียงของโลกนั้นเป็นเพราะสิ่งแวดล้อมรอบตัว แต่สำหรับกรณีของท่านศาสดา สิ่งแวดล้อมไม่มีส่วนต่อบุคลิกของท่านเลย และไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่า ท่านได้ถือกำเนิดมาพร้อมกับกฏระเบียบต่าง ๆ ในอาระเบีย อาระเบียขณะนั้นได้รอคอยการปรากฏตัวของบุคคลที่จะเชื่อมชนเผ่ากระหายสงครามทั้งหลายเข้าเป็นชาติเดียวกัน และวางพื้นฐานของเศรษฐกิจอันเป็นปึกแผ่น และความอยู่ดีกินดี
ในแง่ปรัชญาทางประวัติศาสตร์ของ Hegel’s Philosophy of history หรือเรื่องราวทางประวัติศาสตร์วัตถุนิยมมาร์ก (Marx’s historical Materialism) ได้กล่าวว่า เวลาและสิ่งแวดล้อมได้เรียกร้องการปรากฏตัวของผู้นำ ที่จะสร้างชาติและตั้งจักรวรรดิขึ้นได้ แต่ทว่าทั้งทางปรัชญาของ Hegelian และของ Marxian ให้คำอธิบายไม่ได้ว่า เหตุใดสิ่งแวดล้อมที่ตกต่ำในยุคอาระเบียจึงสามารถสร้างวีรบุรุษ ให้มีหน้าที่สั่งสอนศีลธรรมที่สมบูรณ์ ทำความบริสุทธิ์ให้แก่มวลมนุษย์ทุกกลุ่ม ตั้งแต่พวกที่ต่ำที่สุด และชำระล้างคติทางไสยศาสตร์ในระยะแห่งความโง่เขลาและความมืดมิด บุรุษซึ่งมองไกลเกินกว่าเขตจำกัดของเชื้อชาติ ได้วางรากฐานของศีลธรรม จิตใจและโครงสร้างทางการเมืองเพื่อประโยชน์แก่โลก มิใช่เพื่อประเทศของตนเอง ผู้ซึ่งลงมือทำกิจการต่างๆเองมิใช่แต่เพียงการอ้างทางทฤษฎี ทั้งทางด้านพลเรือน การเมืองความสัมพันธ์ระหว่างนานาชาติ ทางศีลธรรม เป็นผู้สร้างศักยภาพและผสมกลมกลืนความสัมพันธ์ระหว่างชีวิตทางโลกและการพัฒนาทางจิตใจ จนกระทั่งปัจจุบัน หน้าที่นี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นงานชิ้นเอกแห่งสติปัญญา จะมีใครบ้างที่สามารถเรียกบุรุษผู้นี้ว่า เป็นผลพวงที่เกิดจากความมืดมิดและโง่เขลา ซึ่งแผ่กระจายอยู่ทั่วอาระเบียในยุคนั้น
ท่านนะบี ไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม ท่านเป็นผู้ที่อยู่เหนือขอบเขตของเวลาและสถานที่ สายตาของท่านมองทะลุอุปสรรคทั้งทางโลกและทางวัตถุ มองข้ามพ้นศตวรรษพร้อมทั้งเข้าใจถึงการกระทำทั้งหมดของมนุษยชาติ ท่านไม่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพียงผู้นำที่ดีในสมัยของท่านเท่านั้น ท่านนะบี เป็นผู้นำที่พิเศษและหาที่เปรียบมิได้ของมนุษย์ชาติ เป็นผู้ซึ่งไปพร้อมกับเวลา เป็นผู้ซึ่งทันสมัยอยู่เสมอราวกับว่าท่านยังอยู่ในประวัติศาสตร์ของแต่ละสมัย คำสอนของท่านทันสมัยอยู่ตลอดเวลาราวกับเช้าวันพรุ่งนี้
สมญานาม “ผู้สร้างประวัติศาสตร์” เป็นเพียงผลพวงแห่งประวัติศาสตร์เท่านั้น ในประวัติศาสตร์มนุษย์ ท่านศาสดาเป็นตัวอย่างของ “ผู้สร้างประวัติศาสตร์” ที่แท้จริง คนเราเมื่อพิจารณาชีวิตและสิ่งแวดล้อมของผู้นำที่ยิ่งใหญ่แล้วจะพบว่า พลังแห่งการปฏิบัติได้มารวมกัน เพื่อคอยโอกาสที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง และพลังเหล่านั้นได้ดำเนินไปในทิศทางใดทางหนึ่งโดยเฉพาะ จะคอยก็แต่เพียงโอกาสที่จะระเบิดออกมา และเวทีได้ถูกจัดเตรียมไว้แล้ว แต่ท่ามกลาง “ผู้สร้างประวัติศาสตร์” และนักปฏิวัติทุกยุคทุกสมัยท่านศาสดา เป็นบุคคลเดียวที่ต้องหาทางและวิธีรวบรวมเครื่องมือเพื่อการปฏิวัติ เป็นผู้ฝึกฝนและปั้นให้เป็นกลุ่มชนชนิดที่ท่านต้องการ เพื่อเป้าประสงค์และจุดมุ่งหมาย ท่านได้สร้างความประทับใจ อันมิเสื่อมคลายบนจิตใจของสาวกนับเป็นพัน ๆ คน ด้วยบุคลิกอันแข็งแกร่ง และฝึกชนเหล่านั้นให้เป็นไปตามจุดประสงค์ที่แน่วแน่ ซึ่งท่านะบีได้แสดงความเฉลียวฉลาดได้อย่างปราดเปรื่อง
จากหนังสือ “มาเข้าใจ ‘อิสลาม’ กันเถิด”
แปลและเรียบเรียง “จินตนา”