พลังแห่งการเปลี่ยนแปลง
หลังจากที่มุฮัมมัดได้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในทางที่สุจริตประกอบด้วยอารยธรรมและจริยธรรม ท่านได้รู้สึกเบื่อหน่ายกับความมืดมิดและความโง่เขลาซึ่งล้อมอยู่รอบตัว ท่านต้องการที่จะหาทางให้หลุดพ้นจากห้วงลึกแห่งความโง่เขลา ความชั่วร้าย และการผิดศีลธรรม การบูชารูปเคารพและความยุ่งเหยิงต่างที่อยู่รอบข้าง และพบว่าทุกสิ่งรอบตัวนั้นไม่สามารถเข้ากับจิตใจของท่านได้เลย จึงได้ปลีกตัวอยู่ตามเนินเขา ห่างไกลจากเสียงอึกทึก และใช้เวลาทั้งกลางวันกลางคืนอยู่กับความสันโดษ พิจารณา ไตร่ตรอง อดอาหารเพื่อทำให้จิตใจและวิญญาณบริสุทธิ์และสูงส่งขึ้น
ท่านพิจารณาและไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง พยายามค้นหาแสงสว่างที่จะขจัดความมืดมิดให้หมดไป ท่านต้องการพลังที่สามารถขจัดความตกต่ำ ความชั่วและความยุ่งเหยิงของโลกสมัยนั้น และก่อให้เกิดสิ่งใหม่ที่มีสภาพที่ดีขึ้น
นี่แหละคือการเปลี่ยนแปลงซึ่งเกิดขึ้นกับมุฮัมมัด ในขณะนั้นดวงจิตของท่านก็ได้รับแสงสวรรค์ซึ่งบันดาลให้พบพลังที่ได้เสาะแสวงหา ท่านจึงออกจากถ้ำและเรียกร้องกับชนทั้งปวง พร้อมทั้งกล่าวกับกลุ่มชนเหล่านั้นว่ารูปเคารพที่ท่านบูชากันอยู่นั้นเป็นเพียงสิ่งมายา จงยุติการบูชาเสียตั้งแต่บัดนี้ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ดวงดาว ต้นไม้ หิน หรือภูตตนใด ที่มีคุณค่าสมควรแก่การเคารพบูชา ดังนั้นจงอย่างก้มศีรษะบูชาสิ่งเหล่านั้น จักรวาลและทุก ๆ สิ่งในจักรวาลเป็นของพระผู้เป็นเจ้าพระองค์เดียว พระองค์เท่านั้นที่เป็นผู้สร้าง ผู้อุปถัมภ์และผู้อภิบาล เราจึงควรเคารพบูชาพระองค์ อ้อนวอนขอต่อพระองค์ และภักดีต่อพระองค์ จงรักภักดีต่อพระองค์แต่เพียงผู้เดียว และทำตามบัญชาของพระองค์เท่านั้น
การปล้นสดมภ์ ลักขโมย ฆาตกรรม ความอยุติธรรมและความโหดร้ายทารุณ ความชั่วช้าทั้งหลายที่ท่านกำลังกระทำอยู่นี้ เป็นความผิดอย่างมหันต์ ไม่มีใครที่จะเกิดมาพร้อมกับมลทินแห่งความอัปยศที่ลิขิตมาบนใบหน้า ไม่มีใครที่จะเกิดมาพร้อมด้วยรังสีและเกียรติยศห้อยติดมาที่คอ
ผู้ที่จะสูงส่งและมีเกียรตินั้นคือผู้ที่ยำเกรงพระผู้เป็นเจ้า เคร่งครัดในศาสนา มีสัจจะในวาจาและการกระทำ ความแตกต่างแห่งกำเนิดและความรุ่งเรื่องแห่งเชื้อชาติมิได้เป็นบรรทัดฐานแห่งความยิ่งใหญ่และเกียรติยศ ผู้ที่ยำเกรงพระผู้เป็นเจ้าและกระทำแต่ความดีเท่านั้นเป็นผู้สูงสุดในหมู่มนุษย์
ผู้ซึ่งไม่มีความรักในพระผู้เป็นเจ้า และถลำลึกลงไปในสิ่งที่ชั่วช้าจะต้องได้รับการลงโทษ จะมีวันหนึ่งซึ่งได้ถูกกำหนดไว้เมื่อท่านจบชีวิตไปแล้ว ในวันนั้นทุกคนจะต้องไปปรากฏตัวต่อพระพักตร์ของพระผู้เป็นเจ้า การกระทำทุกอย่างทั้งดีและเลวจะต้องถูกกล่าวขาน ไม่มีใครสามารถซ่อนเร้นปิดบังสิ่งใดไว้ได้เลย บันทึกของมนุษย์ทั้งชีวิตจะเป็นเสมือนหนังสือที่เปิดอยู่ กรรมดีและกรรมชั่วเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องตัดสินโชคชะตาในศาลของพระองค์ผู้ทรงไว้ซึ่งความสถิตยุติธรรม
พระผู้เป็นเจ้าทรงรอบรู้ทุกสิ่ง ปัญหาที่ไม่ยุติธรรม การลำเอียงจะไม่เกิดขึ้นเป็นอันขาด จะไม่มีใครสามารถให้สินบนแก่พระองค์ได้ จะไม่มีการพิจารณาโดยให้อภิสิทธิ์แก่วงศ์วานหรือบิดามารดา สัจจะและการทำดีเท่านั้นที่ยืนหยัดได้ ผู้ซึ่งพร้อมด้วยสัจจะและคุณงามความดีจะได้เข้าสู่สวรรค์ซึ่งมีแต่ความสุขเป็นอมตะ ในขณะที่ผู้ไร้สัจจะและไร้ความดีจะถูกโยนเข้าสู่ไฟนรก
ทั้งหมดคือข้อความที่นะบีมุฮัมมัด นำมาสู่มวลมนุษยชาติที่โง่เขลา ทุกคนต่างพากันเป็นศัตรู คำผรุสวาทและก้อนหินได้ระดมมายังร่างอันสง่างาม การทรมานแต่และชนิดและความโหดร้ายทารุณต่างๆ ได้ถูกนำมาใช้ การกระทำเหล่านี้ก็มิได้เกิดขึ้นแค่เพียงวันหนึ่งหรือสองวันเท่านั้นแต่เกิดติดต่อกันถึง 13 ปีเต็ม ในที่สุดท่านก็ลี้ภัยไปยังเมืองใหม่ แต่ก็ไม่พ้นการรังควาญด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา อาหรับทั้งประเทศได้รับการยุยงให้เป็นศัตรูต่อท่าน ท่านถูกกลั่นแกล้งทำร้ายตลอด 8 ปีเต็มที่ท่านอาศัยอยู่ที่นั่น ท่านยอมทนทุกข์ แต่ไม่เคยถอยไปจากสิ่งที่ท่านยึดมั่นแม้แต่นิ้วเดียว ท่านเป็นคนเด็ดเดียว มั่นคง ยึดมั่นอยู่กับจุดประสงค์และหลักการ
เหตุใดนะบีมุฮัมมัด จึงมีศัตรูอาจมีบางคนถาม เหตุใดทุกคนจึงได้กลายเป็นศัตรูต่อท่านนะบี อาจมีความไม่ลงรอยกันและแก่งแย่งเงินทองหรือทรัพย์สมบัติทางโลกบ้างกระมัง ! หรือเกิดจากความอาฆาตพยาบาทมาแต่บรรพบุรุษ ! ท่านขอร้องอะไรจากพวกเขาหรือเปล่า !
ความเป็นศัตรูเกิดจากการที่ท่านขอร้องให้พวกเขาบูชาพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริงแต่เพียงพระองค์เดียว และให้ดำเนินชีวิตในทางที่ถูกต้อง เคร่งครัดในหลักศาสนา บำเพ็ญแต่ความดี ให้เลิกการบูชารูปเคารพและสิ่งอื่น ๆ นอกจากพระผู้เป็นเจ้า
ท่านนะบีได้ประณามความประพฤติที่ผิดทำนองคลองธรรมของคนเหล่านั้น ท่านเปิดเผยเล่ห์กลของนักบวช ติเตียนการแบ่งชั้นวรรณะในหมู่มนุษย์ คัดค้านความรังเกียจเดียดฉันท์ระหว่างเผ่าพันธุ์และเชื้อชาติโดยถือว่าเป็นความเขลาอย่างแท้จริง ท่านต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงโครงร่างของสังคมที่ตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยอดีต ผลที่ได้รับคือ พี่น้องร่วมชาติบอกว่าหลักการที่ท่านประกาศนั้นขัดกับประเพณีของบรรพบุรุษ และขอให้เลิกเสียมิฉะนั้นจะต้องได้รับผลตอบแทนที่เลวร้ายที่สุด
อาจมีบางคนถามว่า ทำไมท่านนะบี ทนทุกข์ทรมานอยู่กับความลำบากเพื่ออะไร ? ชนเผ่าของท่านเสนอจะแต่งตั้งให้ท่านเป็นกษัตริย์ และจะกองทรัพย์สินเงินทองของแผ่นดินไว้แทบเท้าขอเพียงเลิกสั่งสอนศาสนา และเผยแผ่ความรู้ของท่านเท่านั้น 1
1 ท่านนะบีมุฮัมมัด ได้เผชิญกับมรสุมร้ายด้วยทางแห่งสัจจะ ท่านต่อสู้ศัตรูและความกดขี่ด้วยรอยยิ้มบนริมฝีปาก ท่านยืนอยู่อย่างมั่นคง ไม่หวั่นไหวต่อคำวิจารณ์และการบังคับขู่เข็ญต่าง ๆ นานาด้วยวิธีการที่รุนแรงที่สุด แต่ไม่อาจทำให้บุรุษผู้นี้ และสาวกของท่านถอยแม้แต่นิ้วเดียว
ตัวแทนของผู้นำเผ่ากุร็อยช์ ได้มาหาท่านนะบี และพยายามให้สินบน โดยเสนอจะให้ความรุ่งโรจน์ทางโลกทั้งมวลเท่าที่เขาจะนึกได้ เขากล่าวว่า :
ถ้าท่านต้องการครอบครองทรัพย์สมบัติ เราก็จะหามากองให้ท่านมากมายเท่าที่ท่านจะปรารถนา ถ้าท่านต้องการจะได้อำนาจและเกียรติยศ เราก็เตรียมพร้อมที่จะสาบานเข้าเป็นพวกท่าน โดยยกท่านขึ้นเหนือเจ้านายอื่น ๆ และให้เป็นกษัตริย์ของเรา ถ้าท่านต้องการหญิงงาม ท่านก็จะได้พบหญิงสาวที่งามที่สุดตามที่ท่านปรารถนา
สิ่งที่เขาเหล่านั้นต้องการคือให้ละทิ้งหน้าที่ของท่าน ข้อเสนอเหล่านี้ย่อมเป็นเหยื่อล่ออย่างดีสำหรับมนุษย์ธรรมดา แต่หาได้มีความสำคัญแม้แต่น้อยในสายตาของศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ คำตอบของท่านเปรียบเสมือนระเบิดต่อผู้แทนของชนอาหรับ เขาคาดว่าคงต้องชนะแต่แล้วก็ต้องผิดหวัง
ท่านศาสดา กล่าวว่า
ได้โปรดเถิด! ข้าไม่ต้องการทั้งเงินทองและอำนาจ ข้าได้รับบัญชาจากพระผู้เป็นเจ้าให้มาเตือนมนุษย์ทั้งหลาย ข้าได้เปิดเผยพระบัญชาของพระองค์ต่อท่าน ถ้าท่านรับปฏิบัติท่านก็จะมีความสะดวกสบายและความสุขในชีวิตนี้ และได้รับบรมสุขอันเป็นอมตะในชีวิตหลังจากนี้ ถ้าท่านปฏิเสธ แน่แท้พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเลือกระหว่างท่านและข้า"ในครั้งหนึ่งซึ่งถูกบีบคั้นจากผู้นำชาวอาหรับ พยายามที่จะชักชวนให้ละทิ้งงานของท่าน แต่ท่านได้กล่าวว่ากับลุงของท่านว่า
คุณลุงที่เคารพ แม้ว่าพวกเขาจะนำดวงอาทิตย์มาใส่ไว้ในมือขวาและดวงจันทร์มาใส่ไว้ในมือซ้ายของหลาน เพื่อจะให้หลานละทิ้งหน้าที่แล้ว หลานจะไม่ยอมเลิกเป็นอันขาด หลานจะไม่ยอมเลิกจนกว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงบันดาลให้หลานชนะ หรือว่าหลานจะตายเสียด้วยความพยายามนั้นนี่แหละคือคุณลักษณะของนะบี แห่งศาสนาอิสลาม
ท่านนะบี ปฏิเสธข้อเสนอเหล่านั้น และยอมทนทุกข์ทรมานแทนเพราะเหตุใดหรือ ? หรือว่าท่านจะได้รับผลประโยชน์มากมาย ถ้าหากว่าประชาชนเหล่านั้นดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องและเคร่งครัดศาสนา เหตุใดเล่า ! ท่านจึงไม่สนใจความร่ำรวย ความฟุ่มเฟือย ตำแหน่งกษัตริย์ เกียรติยศชื่อเสียง ความสบายและความสมบูรณ์พูนสุข หรือว่าท่านทำเช่นนั้นเพราะหวังผลประโยชน์อื่น ๆ ผลประโยชน์ทางวัตถุที่ได้รับเสนอมานั้นไม่มีความสำคัญเลยหรือ เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่หวัง มันยิ่งใหญ่และล่อใจมากจนกระทั่งท่านเลือกที่จะเดินเข้ากองไฟและเข้าหาคมดาบ ยอมทุกข์ทนทรมานใจกายเป็นปี ๆ กระนั้นหรือ ? การที่จะหาคำตอบนั้นเราจะต้องคิดใคร่ครวญกันอย่างลึกซึ้งที่เดียวมีใครบ้างที่จะหาตัวอย่างของการสละความสุขของตัวเอง ความรู้สึกเห็นใจและความรักเพื่อนมนุษย์ ตลอดจนการที่มนุษย์ผู้หนึ่งยอมทำลายความสุขของตนเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น ในเมื่อคนเหล่านั้นพากันด่าสาปแช่ง ขว้างปาขับไล่ไสส่ง และไม่เคยให้ความสงบสุขแก่ท่านเลยแม้ในขณะที่ท่านถูกเนรเทศ กระนั้นก็ตามท่านก็ไม่หยุดยั้งความพยายามที่จะช่วยเหลือพวกเขา
ผู้ที่แสแสร้งและไม่จริงใจจะสามารถทนต่อความยากลำบากเพื่อเหตุอันไม่สมควรได้กระนั้นหรือ? ผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์หวังกอบโกยประโยชน์ใส่ตนและนักสร้างวิมานจะสามารถแสดงความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว และยึดมั่น อยู่กับอุดมคติของตนจนวาระสุดท้าย ไม่หวั่นไหวกระวนกระวายแม้จะเผชิญกับอันตรายและการทรมานนานาประการ เมื่อชนทั้งชาติลุกขึ้นจับอาวุธเพื่อประหัตประหารเขากระนั้นหรือ
ศรัทธา ความอดทน ความมานะบากบั่นและตั้งใจมั่น ซึ่งท่านได้ใช้นำไปสู่ความสำเร็จนั้นย่อมเป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดีถึงสัจธรรมอันสูงส่ง หากจะมีความสงสัยแม้แต่น้อยหรือเกิดความไม่แน่ใจแก่ท่านแล้ว ท่านก็คงไม่สามารถที่จะฟันฝ่าอุปสรรคที่ประดังเข้ามาอย่างหนักหน่วงตลอดระยะเวลาอันยาวนานถึง 21 ปี
ที่กล่าวมานี้ เป็นแต่เพียงการเปลี่ยนแปลงเพียงด้านเดียวที่เกิดขึ้นสำหรับนะบีมุฮัมมัด นะบีแห่งศาสนาอิสลาม ส่วนลักษณะอื่น ๆ นั้นยิ่งน่าสนใจและน่าเรียนรู้มากนัก
จากหนังสือ มาเข้าใจ อิสลาม กันเถิด
แปลและเรียบเรียง จินตนา