ท่าทีของมนุษย์ ต่อบรรดานะบี (ผู้นำสาสน์)
ท่าทีของมนุษย์ที่มีต่อนะบีของพระผู้เป็นเจ้านั้นแตกต่างกันออกไป ขั้นแรกเขาปฏิบัติต่อนบีอย่างเลวร้ายและปฏิเสธที่จะรับฟังและยอมปฏิบัติตามคำสั่งสอนของท่าน นะบีบางท่านได้ถูกขับไล่ออกนอกดินแดนบ้างก็ถูกรอบฆ่า ส่วนบางท่านแม้จะไม่ได้รับการเอาใจใส่จากผู้ใดเลยก็ได้พยายามที่จะสั่งสอนต่อไปจนสิ้นชีพ ซึ่งในตลอดชีวิตของท่านจะมีสาวกเพียงสองสามคนเท่านั้น และอยู่ท่ามกลางการก่อกวน การเย้ยหยันและการดูถูก ผู้เผยแผ่ศาสนาเหล่านี้ก็ไม่เคยหยุดยั้ง ในการเทศนาสั่งสอน
ในที่สุดความตั้งใจอันแน่วแน่ก็บรรลุผลสำเร็จ คำสอนของท่านไม่ได้ไร้ผลเสียทีเดียว มีชนกลุ่มใหญ่และชาติอีกหลายชาติที่ยอมรับคำสั่งสอนนั้น และยอมหันกลับมานับถือศาสนาที่ท่านได้บอกไว้ การยึดถืออย่างผิดของมนุษย์ในหลายศตวรรษที่ผ่านมา ซึ่งมีแต่ความดึงดันและออกนอกลู่นอกทาง ความโง่เขลาและการปฏิบัติอย่างผิดๆ ได้เปลี่ยนไปอีกรูปแบบหนึ่ง อย่างไรก็ดี! แม้ว่าในระหว่างสมัยนะบีต่างๆ ชนกลุ่มนั้นจะยอมรับนับถือและปฏิบัติตามคำสั่งสอน แต่หลังสมัยของนะบีแล้ว ชนเหล่านั้นกลับนำเอาความคิดเห็นเก่าๆ ปะปนเข้าไปในศาสนาอีกครั้ง และได้เปลี่ยนแปลงคำสอนของนะบีเสีย
พวกเขารับเอาวิธีการแปลกๆ ใหม่ในการเคารพพระผู้เป็นเจ้า บางพวกถึงกับบูชานะบี บางพวกถือว่าการบูชานะบีเป็นอวตารปางหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้า พวกเขาถือว่านะบีคือบุตรของพระผู้เป็นเจ้า บางพวกติดจ่อกับนะบีในฐานะที่ท่านเป็นพระเจ้า จะกล่าวโดยสั้นๆ ก็คือท่าทีต่างๆของมนุษย์ในแง่นั้นเป็นการล้อเลียนเหตุผลของตัวเอง และเป็นการเยอะเย้ยตนเอง พวกเขาเคารพบูชาผู้ที่อุทิศตนและทำงานไปในการปราบปรามรูปเคารพ โดยการผสมลัทธิศาสนาเข้ากับประเพณีข้อปฏิบัติอันโง่เขลา และผสมเข้ากับเรื่องราว และกฎที่มนุษย์กำหนดขึ้นเอง มนุษย์ได้เปลี่ยนแปลงคำสอนของนะบี และเมื่อเวลาล่วงไปเป็นศตวรรษ ๆ คำสอนเหล่านั้นก็ได้กลายเป็นของผสมระหว่างความจริงและเรื่องที่นึกฝัน
คำสอนของนะบีถูกลบเลือนไป และผสมกลมกลืนระหว่างของที่ประดิษฐ์คิดฝันขึ้นจนกระทั่งแยกไม่ออกว่า ส่วนใดเป็นเนื้อส่วนใดเป็นเปลือก แม้จะบิดเบือนคำสอนของนะบีแล้วก็ตามพวกเขาก็ยังไม่พอใจแต่เพียงเท่านั้น เขายังได้ตัดต่อ เติมเสริมเรื่องราวต่าง ๆ และประเพณีที่ไม่สมควรเข้ากับประวัติของนะบี จึงทำให้เรื่องราวในชีวิตของท่านมัวหมองไป จนกระทั่งไม่สามารถค้นพบสิ่งที่แท้จริงในชีวิตของท่านได้
อย่างไรก็ตาม! แม้ว่าสาวกจะทำให้คำสอนและประวัติชีวิตของท่านบิดเบือนไป งานของนะบีก็ไม่ไร้ผลไปเสียทีเดียว ทั้ง ๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลงและต่อเติมสัจธรรม แต่ยังคงเหลืออยู่ในหมู่ ประชาชาติทั้งหลาย ความรู้ในพระผู้เป็นเจ้าและชีวิตภายหลังความตายยังคงมีอยู่ หลักการเกี่ยวกับความดีสัจธรรม และศีลธรรมก็ยังเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในโลก ดังนั้น! นะบีจึงเป็นผู้จัดเตรียมพื้นฐานทางจิตใจแก่มวลชนไว้อย่างดี จนสามารถที่จะนำเอาศาสนาสากล มาเผยแผ่ภายหลังได้อย่างปลอดภัย ศาสนานั้นเป็นศาสนาที่สอดคล้องกับธรรมชาติของมนุษย์ ศาสนาซึ่งก่อร่างแต่ความดีในทุกๆ สังคมและลัทธิ และเป็นที่ยอมรับของมนุษยชาติ
ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้วว่า ในชั้นแรก นะบีทั้งหลายเกิดมาในหมู่ชนที่แตกต่างกัน และคำสอนของแต่ละท่านได้มีความหมายพิเศษ และมุ่งเฉพาะเจาะจงให้สอดคล้องกับสภาพกลุ่มชนนั้นๆ เพราะในแต่ละสมัยชนชาติต่างๆ ตั้งถิ่นฐานอยู่แยกจากกัน แต่ละกลุ่มถูกตัดขาดจากกัน ต่างกลุ่มต่างอยู่ในดินแดนของตนเท่าที่สภาพในภูมิศาสตร์จะอำนวยให้ นอกจากนั้นยังขาดความสะดวกสบายที่จะสามารถทำให้แต่ละกลุ่มมีความสัมพันธ์กันได้ด้วย ในสภาพการเช่นนี้ย่อมเป็นการลำบากที่จะเผยแผ่สัจธรรมและกฎต่างๆ ในการดำเนินชีวิต และความโง่เขลาได้ทำให้มนุษย์ปฏิบัติไปในทางคลาดเคลื่อนต่อความจริง และศีลธรรมในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป
จึงเป็นการจำเป็นที่นะบีทั้งหลายจะถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ชี้ทางแห่งสัจธรรมให้มวลมนุษย์ และเอาชนะมวลมนุษย์นั้นด้วยวิถีทางแห่งพระผู้เป็นเจ้า เพื่อให้นะบีเป็นผู้ถอนความชั่วร้ายและความคลาดเคลื่อนแห่งความจริงทีละน้อยๆ เป็นผู้ขุดถอนรากแห่งความโง่เขลา และสอนให้มนุษย์ปฏิบัติแต่หลักการที่สูงส่ง ง่ายดายในความดีงามและทางถูกต้อง ได้ฝึกหัดและนำมนุษย์ขึ้นมาสู่ศิลปะแห่งการดำรงชีวิต ซึ่งจะมีแต่พระผู้เป็นเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้นที่ทรงรู้ว่าจะใช้เวลาสักกี่พันปีในการให้ความรู้แก่มนุษย์ การยกระดับมนุษย์ทั้งทางจิตใจ ทางสมองและทางศีลธรรม
อย่างไรก็ตามมนุษย์ได้ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่มนุษยชาติเจริญจากสภาพเริ่มแรกเข้าสู่สภาวะแห่งความสมบูรณ์ ด้วยความก้าวหน้า การขยายการค้า อุตสาหกรรมและศิลปะจึงได้เกิดการติดต่อระหว่างชนชาติต่างๆ ขึ้น จนจากประเทศในญี่ปุ่น ไปยังยุโรป ต่อไปอาฟริกา ทางเดินที่ใช้ได้เปิดเพื่อติดต่อกันไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางทะเล มีมนุษย์ไม่น้อยที่ได้เรียนศิลปะแห่งการเขียน ดังนั้น! ความรู้ศิลปะจึงได้มีโอกาสขยายตัวออกไป ความคิดเห็นของแต่ละชาติก็เริ่มหมุนเวียนถ่ายเทกัน และเริ่มมีการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างประเทศ ผู้พิชิตผู้ยิ่งใหญ่ก็ได้ปรากฏขึ้น และทำการปราบปรามพิชิตแว่นแคว้นต่างๆ แผ่ขยายอาณาเขตออกไปเป็นจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ และผนวกเอาชาติหลายๆ ชาติเข้าอยู่ ใต้ระบบการปกครองอันเดียวกัน ชาติต่างๆจึงได้มีความใกล้ชิดกันและความแตกต่างของแต่ละชาติก็ค่อยๆ น้อยลงตามลำดับ
ด้วยสภาพการเช่นนี้ ก็เป็นไปได้ที่สมควรจะมีการศรัทธาที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้มนุษย์ได้เผชิญและเข้าใจทางแห่งชีวิต ได้เข้าใจศีลธรรมทั้งทางจิตใจ สังคม ขนบธรรมเนียมประเพณีทางการเมืองเศรษฐกิจ และสิ่งต่างๆที่มนุษย์ต้องการ ทำให้เกิดพื้นฐานทางโลกและทางธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบให้กับมนุษย์ มากกว่าสองพันปีมาแล้วที่มนุษย์ประสบความสำเร็จ ทางด้านความสามารถสติปัญญา จนกระทั่งดูเหมือนว่ามีการเรียกร้องของศาสนาหนึ่ง ซึ่งเป็นศาสนาสากล
พุทธศาสนาแม้ว่าจะเป็นศาสนาที่มีหลักธรรมบางอย่างแต่ไม่ได้เป็นศาสนาที่สมบูรณ์ ซึ่งได้เกิดขึ้นที่อินเดีย และแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ จนถึงญี่ปุ่นและมองโกเลียด้านหนึ่ง และอีกด้านหนึ่งแผ่ไปถึงอาฟกานิสถาน และบุคอรอ พวกหมอสอนศาสนาได้เดินทางเป็นระยะทางไกลๆ สองสามศตวรรษ
ต่อมาได้เกิดศาสนาคริสต์ขึ้น ศาสนาที่พระเยซู (นะบีอีซา ) สั่งสอนนั้นก็มิใช่สิ่งใดอื่นนอกจากระบบอิสลาม แต่สาวกของพระเยซูได้ดัดแปลง และผสมจนเปลี่ยนรูปไปและเรียกศาสนาว่า คริสเตียน แม้ว่ารูปของศาสนาจะถูกดัดแปลง ศาสนานี้ก็ได้แพร่หลายออกไปในดินแดนอันไกลพ้นของเปอร์เซียและเอเชียน้อย และได้เลยไปถึงยุโรปและอาฟริกา
จากเหตุการณ์นี้เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าสภาพของมนุษย์ ในยุคนั้นต้องการศาสนาอันเป็นหนึ่ง ซึ่งใช้คุ้มครองเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด และมนุษย์ได้รับการตระเตรียมได้ล่วงหน้าแล้วอย่างดีแม้ว่าเขาจะยังไม่ได้พบศาสนาที่สมบูรณ์ และได้เริ่มโฆษณาเผยแผ่ในเวลานั้น แม้จะไม่สมบูรณ์หลอกลวงและไม่เป็นที่น่าพอใจก็ตาม
ในระยะที่อยู่ในขั้นสำคัญของอารยธรรมของมนุษย์ เมื่อจิตใจมนุษย์ กำลังกระวนกระวายเพื่อที่จะเสาะแสวงหาศาสนาแห่งโลก จึงได้มีนะบีท่านหนึ่ง กำเนิดขึ้นที่อาระเบีย เพื่อเป็นผู้นำแห่งโลก และแห่งประชาชาติทั้งปวง ศาสนาที่ท่านเผยแผ่ครั้งนี้คือ ระบอบอิสลามเช่นเดิม แต่อยู่ในระบบที่สมบูรณ์ครอบคลุมหมดทุกลักษณะ ทั้งในส่วนบุคคลและส่วนรวม ทั้งทางศีลธรรมและวัตถุ ท่านได้รับเลือกให้เป็นนะบีของมนุษย์ และได้รับการมอบหมายให้เผยแผ่ศาสนาไปทั่วโลก นะบีผู้นี้ คือ นะบีมูฮัมมัด ผู้เผยแผ่ศาสนาอิสลาม
จากหนังสือ มาเข้าใจ อิสลาม กันเถิด
แปลและเรียบเรียง จินตนา