คุณลักษณะที่แท้จริงของ"มุสลิม"
แปลและเรียบเรียง “จินตนา”
คุณธรรมของมุสลิมนั้น จะเต็มไปด้วยความศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า ถูกต้องและมีแต่ความจริง เขาจะอยู่ในโลกนี้ด้วยความเชื่อมั่นว่า พระผู้อภิบาลเท่านั้นที่จะเป็น “นาย” อันแท้จริง สิ่งที่เขาและมนุษย์ทั้งมวลครอบครองอยู่นั้น ต่างก็ได้มาจากพระผู้เป็นเจ้าทั้งสิ้น อำนาจที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ก็เป็นเพียงความไว้วางใจจากพระผู้เป็นเจ้า และเขาจะไม่ใช้อิสระที่ได้รับมาอย่างผิดๆ เขาจะใช้อิสระนั้นให้เป็นไปตามความประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า เขาจะรำลึกอยู่เสมอว่า วันหนึ่งจะต้องกลับไปหาพระองค์ และแถลงเรื่องราวในชีวิตทั้งหมดต่อพระองค์ ความรำลึกที่ว่าเขาจะต้องรายงานนั้นยังฝังอยู่ในความทรงจำ และเขาจะไม่ประพฤติตัวอย่างไม่ถูกต้องเป็นอันขาด
ขอให้คิดดูถึงคุณธรรมอันดีเลิศของมนุษย์ ผู้ซึ่งมีความคิดดังกล่าวนั้น ชีวิตของเขาจะเป็นชีวิตที่บริสุทธิ์ มีความเมตตากรุณา ความรัก และความไม่เห็นแก่ตน
เขาจะเป็นเสมือนพรที่มนุษย์ได้รับ ความคิดของเขาจะไม่ทำให้ถูกมีมลฑิน ด้วยความคิดเห็นที่ผิดๆ และทะเยอทะยานในสิ่งไม่สมควร เขาจะไม่ดู ไม่ฟัง และไม่กระทำความชั่ว เขาจะระวังลิ้นของเขา และจะไม่กล่าวเท็จแม้แต่คำเดียว เขาจะหาเลี้ยงชีพด้วยความสุจริต เขาจะยอมเลือกเอาความหิวโหย ดีกว่าที่จะรับของที่ได้มาจากวิธีการอันไม่ถูกหรืออยุติธรรม แม้ว่าจะเป็นแบบหรือสิ่งใดก็ตาม
เขาจะไม่รวมกลุ่ม กดขี่หรือก่อกวนความสงบสุขต่อชีวิตและเกียรติของมนุษย์ เขาไม่มีวันที่จะยอมแพ้ความชั่วร้าย แม้ว่าจะท้าทายเขาก็ตาม เขาจะเป็นตัวแทนแห่งความดี และความสูงส่ง และจะอุปถัมภ์ค้ำจุนสิทธิและสัจธรรมไว้ แม้ว่าการอุปถัมภ์นั้นจะมีค่าเท่าชีวิตของเขาเอง เขารังเกียจความอยุติธรรม และจะยืนหยัดต่อสู้เพื่อสัจธรรม เขาจะไม่หวาดหวั่นต่อมรสุมร้ายใดๆ เลย มนุษย์ชนิดนี้จะเป็นผู้ที่สมควรได้รับกำลังอำนาจ เขาจะต้องประสบความสำเร็จ ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะขัดขวางหนทางของเขาได้
เขาจะเป็นผู้ที่ได้รับเกียรติ และได้รับความนับถืออย่างสูงสุด จะไม่มีใครที่จะขับเขาออกจากความเคารพนับถืออันนี้ได้ และจะไม่มีความตกต่ำใดๆ ที่สามารถไปเยือนผู้ที่ไม่ยินยอมที่จะก้มศีรษะหรือผายมือแสดงคารวะต่อผู้ใดเลย นอกจากพระผู้อภิบาลผู้มีอำนาจสูงสุดแต่เพียงองค์เดียวได้
เขาจะเป็นผู้ซึ่งมีอำนาจและความสำเร็จไม่มีใครที่จะมีอำนาจเหนือเขาได้ เพราะเขาไม่กลัวใครเลยนอกจากพระผู้เป็นเจ้า เขาไม่ขอพรใครเลยนอกจากพระองค์ จะมีอำนาจใดเล่าที่จะดึงเขาออกไปจากทางอันถูกต้อง จะมีสมบัติใดเล่าที่จะซื้อศรัทธาของเขาได้ จะมีกำลังใดเล่าที่สามารถหลอมความสำนึกของเขาได้ และจะมีกำลังใดเล่าที่จะขัดขวางความประพฤติของเขาได้
เขาจะเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุด จะไม่มีผู้ใดในโลกที่ร่ำรวยกว่าหรือเป็นอิสระกว่า เพราะเขาใช้ชีวิตอยู่ในขอบเขตและสันโดษ เขาจะไม่หลงใหลในทางโลก ไม่โลภ และจะพอใจในสิ่งที่เขาหามาได้โดยความสุจริต แม้จะมีกองสมบัติมากมายที่หามาได้โดยทุจริตกองอยู่ข้างหน้าก็ตาม เขาจะไม่ยอมแม้กระทั่งชำเลืองมอง อย่าว่าแต่จะยึดถือเป็นของตนเลย เขาจะมีแต่ความพอใจและความสงบอยู่ในจิตใจ สมบัติอื่นใดเล่าที่จะยิ่งใหญ่กว่าสมบัติชิ้นนี้
เขาจะเป็นผู้ที่มีความเคารพนับถือกว้างขวาง และเป็นที่รักของทุกๆ คน จะไม่มีใครที่จะน่ารักไปยิ่งกว่าเขา เพราะเขาดำเนินชีวิตด้วยความกรุณาและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ให้ความยุติธรรมแก่ทุกคน เขาจะทำหน้าที่ด้วยความสุจริต และทำงานเพื่อผู้อื่นอย่างสุจริต จิตใจของมนุษย์ทุกคนจะเอนเอียงมาหาเขาอย่างชอบธรรม บุคคลทั้งหลายจะชอบเขา รักและเคารพเขา
เขาจะเป็นผู้ซึ่งได้รับความไว้วางใจ และได้รับเกียรติมากที่สุด จะไม่มีใครที่สมควรได้รับความไว้วางใจมากไปกว่าเขา เพราะเขาจะไม่ทรยศต่อความไว้วางใจ และจะไม่หันเหไปจากทางที่ถูก เขาจะซื่อสัตย์ต่อคำพูดและซื่อสัตย์ต่อทุกๆ สิ่งที่เกี่ยวข้อง และจะซื่อสัตย์ต่อกิจการของเขาทุกๆ อย่าง เพราะเขาเชื่อว่า พระผู้อภิบาลเป็นผู้คงอยู่ตลอดกาล และเฝ้าดูเขาอยู่ตลอดเวลา เพียงแค่คำพูด ก็คงไม่สามารถจะบรรยายความเชื่อถือ และไมตรีจิตที่เขาผู้นี้ได้รับ จะมีใครบ้างที่จะไม่เชื่อถือเขา นี่แหละคือชีวิตและลักษณะของ “มุสลิม”
ถ้าท่านเข้าใจลักษณะที่แท้จริงของมุสลิมแล้ว ท่านก็จะตระหนักว่ามุสลิมนั้นจะไม่อยู่ในลักษณะที่ต่ำต้อยใดๆ เป็นอันขาด เขาจะต้องคงอยู่ และไม่มีอำนาจใดๆ ในโลกที่จะชนะเขาหรือกดเขาไว้ใต้อำนาจ เพราะว่าอิสลามได้ปลูกฝังคุณลักษณะที่ไม่อาจจะถูกครอบคลุมโดยเล่ห์กลหรือภาพมารยาใดๆ ได้
หลังจากที่มีชีวิตอยู่อย่างมีเกียรติ และน่านับถือบนพื้นพิภพแล้ว เขาก็จะกลับไปหาพระผู้สร้างเขาขึ้นมา พระผู้ซึ่งจะประทานพรที่ดีที่สุดสำหรับเขา เพราะว่าเขาสามารถปฏิบัติหน้าที่และทำงานที่ได้รับมอบหมายจนสำเร็จลุล่วง และยังพิสูจน์การทดลองได้อย่างมีชัย เขาจะเป็นผู้พบความสำเร็จในโลกนี้ และชีวิตต่อไปก็จะประสบความสุขความสำราญ
นี่แหละคือ “อิสลาม” ซึ่งเป็นศาสนาอันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ศาสนาที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบุคคลหนึ่งหรือชนชาติใด ระยะใด หรือสถานที่ใดเลย เป็นเรื่องของธรรมชาติ เป็นศาสนาของมนุษยชาติ ทุกยุคทุกสมัย ทุกถิ่น ทุกชาติ เพราะผู้ที่รู้จักพระผู้อภิบาล ผู้ที่รักสัจธรรม ได้รับนับถือและปฏิบัติตามแนวทางของอิสลาม เขาเหล่านั้นเป็น มุสลิม โดยไม่ต้องคำนึงถึงความจริงที่ว่า ใครๆ จะเรียกการประพฤติปฏิบัตินั้นว่าอิสลามหรืออย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นชื่อใดก็ตาม การปฏิบัติเช่นนั้นย่อมหมายถึง"อิสลาม" และจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก “อิสลาม”
จากหนังสือ “มาเข้าใจ ‘อิสลาม’ กันเถิด”