การเชิญชวนผู้คนไปสู่อัลลอฮฺ ตะอาลา
มนุษยชาติต้องการศาสนาอย่างยิ่งยวดเสมือนร่างกายที่ต้องการวิญญาณ หากร่างกายใครคนหนึ่งปราศจากวิญญาณเมื่อไหร่ความเสียหายก็จะเกิดขึ้นแก่ร่างกายของเขา เฉกเช่นเดียวกันหากมนุษย์คนใดไม่มีศาสนา ความสูญเสียก็จะเกิดขึ้นกับตัวเขาทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
เหตุผลของอัลลอฮฺที่ได้ส่งบรรดาเราะสูลมายังมนุษยชาติ
1. ด้วยความเมตตาและความโปรดปรานของอัลลอฮฺ ตะอาลา ครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง
และความโปรดปรานของอัลลอฮฺ ตะอาลา อย่างหนึ่งที่มีต่อปวงบ่าวของพระองค์ นั่นก็คือ การที่พระองค์ได้ส่งเราะสูลมายังมวลมนุษย์และยังได้ประทานคัมภีร์ต่างๆมายังพวกเขาอีกด้วย เพื่อที่บรรดาเราะสูลเหล่านั้นจะได้แนะนำและให้รู้จักพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา ผู้เป็นผู้สร้าง ผู้ให้ริซกีและปัจจัยยังชีพต่างๆ และบรรดาเราะสูลยังได้อธิบายถึงสิ่งที่พระองค์ทรงรัก และได้เชิญชวนพวกเขาไปสู่การภักดีต่อพระองค์ และเคารพกราบไหว้พระองค์แต่เพียงผู้เดียวโดยไม่มีการตั้งภาคีกับสิ่งใดๆทั้งปวง และบรรดาเราะสูลยังได้บอกถึงผลตอบแทนที่อัลลอฮฺได้สัญญาไว้แก่ผู้ที่จงรักภักดีต่อพระองค์ และบทลงโทษสำหรับผู้ที่เนรคุณ อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ตรัสว่า
“ดังนั้น ในหมู่พวกเขามีผู้ที่อัลลอฮฺทรงชี้แนะทางให้และในหมู่พวกเขามีผู้ที่การหลงผิดคู่ควรแก่เขา”
(อันนะหฺล์ : 36)
2. ทุกครั้งที่มนุษย์มีความศรัทธาที่อ่อนแอพวกเขาจะตกอยู่ในหุบเหวแห่งการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา
พระองค์จึงได้ส่งบรรดาเราะสูลมายังพวกเขาเพื่อเชิญชวนพวกเขากลับไปสู่เตาฮีดหรือการเคารพภักดีพระองค์และการปฏิบัติอิบาดะฮ์เพื่อพระองค์แต่เพียงผู้เดียว เราะสูลได้ถูกส่งมาอย่างต่อเนื่อง และเราะสูลแต่ละคนถูกส่งมายังกลุ่มชนกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะ จนถึงวาระที่อัลลอฮฺได้เลือกผู้ที่ทำหน้าที่นบีและเราะสูลคนสุดท้ายซึ่งเป็นผู้นำของบรรดานบีและเราะสูลทั้งหลายทั้งปวง นั่นก็คือ นบีมุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม
อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ทรงเลือกมุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม เป็นเราะสูลของพระองค์ และได้ประทานทางนำและศาสนาที่ถูกต้องมายังมนุษยชาติทั้งมวล ท่านเราะสูลได้เผยแผ่สัจธรรม ได้ดำเนินภาระหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ท่านได้ชี้แนะแนวทางแก่ปวงประชาชาติ ท่านเราะสูลได้ทุ่มเทชีวิตทั้งหมดไปในหนทางของอัลลอฮฺ ท่านได้เสียชีวิตไปและได้สั่งสอนและชี้แนะแนวทางทุกอย่างแก่มวลมนุษยชาติอย่างเจิดจรัสชัดเจน เสมือนหนึ่งกลางคืนที่เป็นเสมือนกลางวัน ไม่มีการบิดพลิ้วใดๆและออกจากแนวทางดังกล่าวนี้เว้นแต่ผู้ที่ประสบความหายนะอย่างชัดเจน
ภาระหน้าที่ของบรรดานบีและเราะสูล
เมื่อท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม เป็นนบีและเราะสูลที่ประเสริฐสุดในบรรดานบีและเราะสูลทั้งหลาย และท่านคือนบีและเราะสูลคนสุดท้าย และประชาชาติของท่านคือประชาชาติที่ดีเลิศที่สุดในบรรดาประชาชาติทั้งหลาย และยังเป็นประชาชาติสุดท้าย อัลลอฮฺได้มอบให้แก่ประชาชาตินี้ซึ่งภาระหน้าที่ของบรรดานบีและเราะสูล
ท่านเราะสูลได้ยืนหยัดในการเชิญชวนผู้คนไปสู่อัลลอฮฺในดินแดนอาหรับเป็นระยะเวลาทั้งหมด 23 ปี การเชิญชวนของท่านเราะสูลครอบคลุมผู้คนในสมัยของท่านที่ท่านสามารถนำเสนออิสลาม(ให้แก่คนเหล่านั้นได้)
การดะอฺวะฮฺของท่านได้เริ่มต้นในครอบครัวของท่านก่อนเป็นลำดับแรก และญาติมิตรใกล้ชิด และต่อมาก็จะเป็นชนเผ่าของท่าน และหลังจากนั้นก็ชาวมักกะฮฺและชนชาวอาหรับที่อยู่รอบๆมักกะฮฺ และต่อมาก็เป็นชาวอาหรับทั้งหมด และสุดท้ายก็เป็นมนุษย์ทุกคนที่ท่านสามารถนำเสนออิสลามแก่พวกเขาเหล่านั้นได้ ซึ่งเป็นการแสดงว่าท่านเป็นเราะสูลถูกส่งมาสำหรับมวลมนุษย์ทุกคน ท่านเราะสูลเป็นความเมตตาสำหรับประชาชาติทั้งหลาย ด้วยเหตุดังกล่าวผู้คนจึงเข้ารับศาสนาของอัลลอฮฺกันเป็นกลุ่มๆ
1. อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ตรัสว่า
“และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใด เว้นแต่เป็นผู้แจ้งข่าวดีและเป็นผู้ตักเตือนแก่มนุษย์ทั้งหลาย”
(สะบะอฺ : 28)
2.อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ตรัสอีกว่า
“และเรามิได้ส่งเจ้าเพื่ออื่นใดนอกเสียจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่ประชาชาติทั้งหลาย ”
(อัลอันบิยาอฺ :107)
สาเหตุที่ทำให้มนุษย์ได้รับทางนำ
ผู้คนเข้ารับศาสนาอิสลามในสมัยท่านนบี ศ็อลลอลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม อันด้วยสาเหตุต่างๆ ที่หลากหลาย ส่วนสาเหตุที่สำคัญมีดังต่อไปนี้
1.การเชิญชวนด้วยคำพูด
ดั่งที่ท่านนบี ศ็อลลอลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้เชิญชวนอะบูบักรฺ ท่านหญิงเคาะดีญะฮฺ อะลีและเศาะหะบะฮฺท่านอื่นๆ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุม
2. การสั่งสอน
ดั่งเช่น ท่านอุมัรฺ อิบนุ อัลค็อบฏอบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ที่ซึมซับอัลกุรอานหลังจากทีท่านได้รับฟังการอ่านอัลกุรอานจากฟาฏิมะฮฺน้องสาวของท่านพร้อมกับสะอีด อิบนิ ซัยดฺ สามีของน้องสาว และค็อบบาบ อิบนุ อัล-อัรตฺ ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นทั้งหมดจับวงกันอ่านและเรียนรู้อัลกุรอาน และเช่นกันอุสัยดฺ อิบนุ หุฎอยรฺและสะอฺด์ อิบนิ มุอาซฺ เข้ารับอิสลามหลังจากได้รับฟังการสอนอัลกุรอานในวงหะละเกาะฮฺอัลกุรอานจากท่านมุศอับ อิบนุ อุมัยรฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุ ในเมืองมะดีนะฮฺ
3.ด้วยอิบาดะฮฺ
ดั่งเช่น การเข้ารับศาสนาอิสลามของฮินดฺ บินติ อุตบะฮฺ หลังจากที่เธอได้เห็นบรรดามุสลิมีนร่วมละหมาดในปีแห่งการเปิดเมืองมักกะฮฺในมัสยิดอัลหะรอม และการเข้ารับศาสนาอิสลามของท่านษุมามะฮฺ บิน อุษาล อัล-หะนะฟีย์ ในมัสยิดอัลหะรอมอันเนื่องด้วยการเห็นการทำอิบาดะฮฺและอื่นๆ
4.การบริจาคทานและความมีใจบุญศุลทาน
ดั่งที่ท่านนบี ศ็อลลอลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ให้ทรัพย์สินแก่ศ็อฟวาน อิบนุ อุมัยยะฮฺ มุอาวิยะฮฺและท่านอื่นๆ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุม ในปีแห่งการเปิดเมืองมักกะฮฺ พวกเขาเหล่านั้นจึงเข้ารับศาสนาอิสลาม และเช่นกันท่านนบี ศ็อลลอลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้ให้แพะจำนวนหนึ่งที่อยู่ระหว่างภูเขาสองลูกแก่ผู้ชายท่านหนึ่ง (ด้วยเหตุนี้)เขาจึงเข้ารับศาสนาอิสลาม ด้วยสาเหตุที่ชายผู้นี้เข้ารับศาสนาอิสลามได้ทำให้พรรคพวกในเผ่าของเขาพากันเข้ารับศาสนาอิสลาม
5.จรรยามารยาทที่ดีงาม
การทำดี ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ จิตใจที่เมตตา ความซื่อสัตย์สุจริตของท่านนบี ศ็อลลอลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม อัลลอฮฺ ตาอาลา ได้ตรัสว่า
“ และแท้จริงแล้วเจ้ามีมารยาทดีงามยิ่ง ”
(อัล-เกาะลัม : 4)
มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัตตุวัยญิรีย์
แปลโดย : อิบรอฮีม หุเซน / Islam House