สิ่งจำเป็นเหนือประชาชาติมุสลิม
การเชิญชวนมนุษย์สู่อิสลามเป็นสิ่งจำเป็นเหนือประชาชาติมุสลิมหลังจากที่อัลลอฮฺได้ประทานภาระหน้าที่ของบรรดานบีและเราะสูลแก่ประชาชาติมุสลิมด้วยความเมตตาและกรุณาของพระองค์ ก็คือ การดะอฺวะฮฺไปสู่อัลลอฮฺ ตะอาลา ที่อัลลอฮฺยังคงไว้ซึ่งสถานที่ต่างๆและผู้คนอีกมากมายซึ่งเป็นสนามสำหรับการดะอฺวะฮฺที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลกทั้งทิศตะวันออกและตะวันตก ทั้งภาคเหนือและตอนใต้ของโลกจนถึงวันสิ้นโลกจะมาถึง
ท่านเราะสุลลุลลอฮฺ ศ็อลลอลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้สั่งสอนและอบรมบรรดาเศาะหาบะฮฺของท่านอย่างหนักจนพวกเขาได้ซึมซับในสองสิ่ง
สิ่งหนึ่ง คือ การยืนหยัดในศาสนาให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในชีวิตจริง
สิ่งที่สอง คือ การให้ศาสนาได้ยืนหยัดในชีวิตจริงของคนอื่นๆ
พวกเขารู้ว่า สถานที่ต่างๆและผู้คนอีกมากมายซึ่งเป็นหน้าที่ของประชาชาติมุสลิมที่จะต้องเชิญชวนพวกเขาเหล่านั้นไปสู่ทางนำแห่งอิสลามจนถึงวันกิยามะฮฺ มุสลิมแต่ละคนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อการละเลยในหน้าที่ของตนเอง นั่นก็คือ การทำอิบาดะฮฺ และมุสลิมจะต้องรับผิดชอบต่อภาระหน้าที่ที่มีต่อสังคม นั่นก็คือ การดะอฺวะฮฺ (การตรากตรำและสั่งสอนในสิ่งเหล่านี้)จนวาระสุดท้ายที่อัลลอฮฺจะเอาชีวิตของเขาไป
1.อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ตรัสว่า
ความว่า : พวกเจ้านั้นเป็นประชาชาติที่ดียิ่งซึ่งถูกให้อุบัติขึ้นสำหรับมนุษยชาติ โดยที่พวกเจาใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ชอบ และห้ามมิให้ปฏิบัติสิ่งที่มิชอบ และศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และหากว่าบรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ศรัทธากันแล้ว แน่นอนมันก็เป็นการดีแก่พวกเขา ส่วนหนึ่งจากพวกเขานั้นมีบรรดาผู้ที่ศรัทธา และส่วนมากของพวกเขานั้นเป็นผู้ละเมิด (อาละอิมรอน : 110)
2.และอัลลอฮฺ สุบหานะฮุ วะตะอาลา ได้ตรัสอีกว่า
ความว่า : และจงให้มีขึ้นจากพวกเจ้า ซึ่งคณะหนึ่งที่จะเชิญชวนไปสู่ความดี และใช้ให้กระทำสิ่งที่ชอบ และห้ามมิให้กระทำสิ่งที่มิชอบ และชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือผู้ได้รับความสำเร็จ (อาละอิมรอน : 104)
3.และอัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ตรัสอีกว่า
ความว่า : จงกล่าวเถิดมูหัมมัด นี่คือแนวทางของฉัน ฉันเรียกร้องไปสู่อัลลอฮฺอย่างประจักษ์แจ้งทั้งตัวฉันและผู้ปฏิบัติตามฉัน และมหาบริสุทธิ์แห่งอัลลอฮฺ ฉันมิได้อยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคี (ยูซุฟ : 108)
การรู้แจ้งและรู้จริงในสามสิ่ง1.การมีความรู้ก่อนการเผยแพร่ศาสนา
2.ความนอบน้อมถ่อมตนและอ่อนโยนในการเผยแพร่ศาสนา
3.ความอดทนหลังจากที่ได้ปฏิบัติการเผยแพร่ศาสนา
บรรดาเศาะหาบะฮฺของท่านนบี เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุม ได้ใช้วิธีการและแนวทางที่หลากหลายรูปแบบในการดะอฺวะฮฺ พวกเขาได้แบกรับภาระหน้าที่หลังจากท่านเราะสูลลุลลอฮฺ ศ็อลลอลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้จากไป พวกเขาได้ละทิ้งความสุขความต้องการส่วนตัว พวกเขาได้จากบ้านจากเมืองของตนเอง และทุ่มเททั้งกายและใจ รวมทั้งทรัพย์สินเงินทองและวันเวลาที่พวกเขามีอยู่เพื่อการเผยแผ่ศาสนาบนผืนแผ่นดิน
พวกเขาได้กลายเป็นผู้เผยแพร่ศาสนาของอัลลอฮ์อย่างเต็มตัว พวกเขาได้แบก لا إله إلا الله อย่างมีความรับผิดชอบเพื่อนำส่งถึงทุกบ้านทั่วทุกที่บนผืนแผ่นดิน ทางทิศเหนือจนถึงทิศใต้ และทิศตะวันออกจรดถึงตะวันตก คำปฏิญาณเอกภาพแห่งพระเจ้าดังกล่าวนี้ได้แผ่ขยายไปทั่วทุกสารทิศทั้งเหนือใต้ ตะวันออกและตะวันตก ทั้งในประเทศซีเรีย อีรัก อียิปต์ประเทศทางตอนเหนือของทวีปแอฟรีกา ประเทศรัสเซีย และประเทศใกล้เคียง และอื่นๆ
พวกเขาได้เปิดประเทศเหล่านี้ประเทศแล้วประเทศเล่า จนศาสนาอิสลามได้แผ่ขยายในประเทศดังกล่าว การศรัทธาหนึ่งเดียวในพระเจ้าได้เข้าไปแทนที่ในความเชื่อที่เป็นการตั้งภาคีต่อพระเจ้า การศรัทธาในอิสลามได้แทนที่การปฏิเสธศรัทธา จนต่อมาประเทศเหล่านี้มีอุละมาอ์และนักเผยแผ่เกิดขึ้นมากมาย มีผู้บำเพ็ญตนในการปฏิบัติศาสนกิจและผู้พึงประสงค์ในความเมตตาแห่งพระเจ้า มีบรรดาศอลิหีนและมุญาฮิดีน พวกเขาเหล่านี้ได้เกิดขึ้นมากมายในดินแดนเหล่านี้ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของมุสลิมทุกคน
พวกเขาเป็นอนุชนที่ประเสริฐยิ่ง เป็นกลุ่มชนที่เป็นรักของอัลลอฮฺ และพวกเขาก็รักในพระองค์ พวกเขาเหล่านี้เป็นกลุ่มชนที่สัตย์จริงในสิ่งที่อัลลอฮฺได้ทรงให้สัญญากับพวกเขาไว้
อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ตรัสว่า
ความว่า : บรรดาบรรพชนรุ่นแรกในหมู่อพยพ(ชาวมุฮาญิรีนจากมักกะฮฺ) และในหมู่ผู้ให้ความช่วยเหลือ (ชาวอันศอรฺจากมะดีนะฮฺ) และบรรดาผู้ดำเนินรอยตามพวกเขาด้วย
การทำดีนั้นอัลลอฮฺทรงพอพระทัยในพวกเขา และพวกเขาก็พอใจในพระองค์ด้วย และพระองค์ทรงเตรียมไว้ให้พวกเขาแล้ว ซึ่งบรรดาสวนสวรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านอยู่เบื้องล่างพวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล นั่นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง (อัต-เตาบะฮฺ : 100)
การให้ความสำคัญในการทำงานเพื่อศาสนา
นบี ศ็อลลอลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม และบรรดาเศาะหาบะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุม หลังจากที่ได้ทุ่มเทความอุตสาหะทั้งหลายทั้งปวงเพื่อการเผยแพร่ศาสนา มากกว่าการหาความสุขความสบายในชีวิต ทำให้ทรัพย์สมบัติและสิ่งของต่างๆที่ใช้ในชีวิตส่วนตัวลดน้อยลง แต่ตรงกันข้ามสิ่งที่พวกเขาได้ทุ่มเททำให้พวกเขามีอิมานและการปฏิบัติในความดีได้เพิ่มขึ้น จรรยามารยาทที่ดีงามได้ปรากฏขึ้นเป็นรูปธรรมในชีวิตจริง และผลตามมาอีกเช่นกัน นั่นก็คือ ประเทศต่างๆได้ถูกเปิดขึ้นประเทศแล้วประเทศเล่า
มุสลิมส่วนใหญ่ในปัจจุบันได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการหาเลี้ยงชีพมากกว่าการทุ่มเทเพื่อการเชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ จึงทำให้พวกเขามีแต่ทรัพย์สิน ตรงกันข้ามในส่วนของอิมานและการปฏิบัติความดีต่างๆได้ลดลงมาก จึงทำให้มุสลิมในยุคหลังมีสองสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาใหม่
หนึ่ง คือการใส่ใจในเรื่องของการสะสมทรัพย์สินเงินทอง ซึ่งเป็นแนวทางการปฏิบัติของบรรดาชาวยิว และ
สอง การให้ความสำคัญในสิ่งที่ให้ความสุขแก่ชีวิตซึ่งเป็นเสมือนชาวคริสเตียน
มุหัมมัด บิน อิบรอฮีม อัตตุวัยญิรีย์ / الشيخ محمد بن إبراهيم التويجري
แปลโดย : อิบรอฮีม หุเซน / Islam House