คำชม...สร้างลูกได้
เมื่อลูกทำผิดต้องว่ากล่าวตักเตือน ในขณะเดียวกันเมื่อลูกทำดีก็ควรมีคำชม เพราะคำชมจะเป็นกำลังใจที่ดีสำหรับลูก โดยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกทำ ถ้ามีกำลังใจจากพ่อแม่ มีคำชมให้นั้น จะสามารถสร้างเด็กคนหนึ่งให้เติบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่ "ได้ดั่งใจ" ของคุณพ่อคุณแม่เลยทีเดียวลูกวัยอนุบาล เป็นวัยเริ่มทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมพัฒนาการ ช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ แล้ว ยังทำให้เราได้รู้อีกด้วยว่ากิจกรรมต่างๆ ที่ลูกทำนั้น ลูกมีความถนัดหรือไม่ถนัดในสิ่งใด และสิ่งที่สำคัญต่อจากนั้น...คือการเสริมในสิ่งที่ลูกไม่ถนัด หรือถ้าเก่งอยู่แล้วก็เสริมให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป ด้วยวิธีง่ายๆ ที่ไม่ต้องลงทุน ใช้เพียงแค่หัวใจและคำพูด นั่นก็คือ...คำชม และการให้กำลังใจ
กฎของคำชมทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล้วนแต่มี 2 ด้าน คำชมก็เช่นกัน ด้านหนึ่งอาจจะสร้างประโยชน์มากมาย แต่อีกด้านอาจจะสร้างความทุกข์ให้กับลูกได้ ถ้าเราใช้มันไม่ถูก
ชมได้ทุกที่ ทุกเวลา และชมในทันที เมื่อลูกทำในสิ่งดี ไม่ว่าจะทำที่ไหนเมื่อไรก็ตาม ขอให้พ่อแม่ชมทันที ไม่ต้องไปรอตอนนอนหรือรอให้เวลาผ่านไป แล้วค่อยย้อนให้เขาฟังว่าวันนี้หนูช่วยแม่ล้างจาน เป็นเด็กดีจังเลย ซึ่งถ้าไปชมทีหลัง เด็กอาจจะลืมไปแล้ว
ชมจากการกระทำ ถ้าลูกช่วยล้างจาน ช่วยทำงานบ้าน หรือเก็บของเล่นเข้าที่เป็นระเบียบ ให้ชมแบบพูดถึงสิ่งดีๆ ที่ลูกทำ เช่น ดีมากเลยลูกที่เล่นแล้วรู้จักเก็บ เก็บรองเท้าเป็นระเบียบจังเลย วันหลังทำแบบนี้อีกนะ แม่ชอบ ฯลฯ คุณพ่อคุณแม่ควรระบุว่าที่ลูกได้คำชมเพราะลูกทำสิ่งใด ลูกจะได้เรียนรู้ว่าทำแบบนี้แล้วพ่อแม่ชอบ และมีกำลังใจที่จะทำต่อไป
อย่าชมแค่เปลือก ลูกเราอาจจะเป็นเด็กหน้าตาน่ารัก สวย หล่อ แต่คำชมที่เน้นไปที่รูปร่างหน้าตา หรือสิ่งภายนอกนั้น จะมีผลในระยายาว คือทำให้เด็กยึดติดอยู่กับสิ่งเหล่านี้ ว่าเป็นสิ่งที่ดีที่มีค่า แล้วถ้าวันหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลง ลูกอาจจะน่ารักหรือสวยหล่อน้อยลง หรือหยุดคงที่ คำชมเหล่านี้ล่ะค่ะที่จะทำให้เด็กทุกข์
คำชมควรทำให้ลูกเกิดความมานะอดทนและพยายาม การชมที่ดีควรทำให้ลูกมีความอดทน พยายามที่จะทำกิจกรรมแต่ละอย่าง ซึ่งลูกอาจจะไม่ถนัด หรือขาดทักษะ เช่น ถ้าลูกยังกินข้าวเลอะเทอะ ก็ควรให้กำลังใจเขาว่าวันนี้หนูกินข้าวหกเลอะน้อยลง ดีจังเลย เด็กก็จะมีกำลังใจที่จะเกิดความพยายามในการกินไม่ให้เลอะเทอะมากขึ้น
เก่ง ดี ฉลาด เลิศ....ไม่จำเป็นไม่ควรใช้ คำเหล่านี้เป็นคำชมที่พอได้ยินแล้วก็น่าจะรู้สึกดี...แต่สำหรับเด็กเล็กๆ นั้น การใช้คำเหล่านี้เป็นการชมแบบที่เด็กก็ไม่รู้ว่า ฉันเก่ง ฉลาด ดี เพราะอะไร ซึ่งในวันข้างหน้า ถ้าลูกทำได้ไม่ดีในสิ่งที่เคยทำได้ดี เขาจะรู้สึกว่าเขาล้มเหลว
ชมแล้วได้อะไรคำชมมีความหมายมากสำหรับการสร้างตัวตน พ่อแม่อยากให้ลูกเราเป็นอย่างไร ก็ต้องชมลูกไปในทิศทางนั้น เมื่อพ่อแม่ชมเขาไปในทิศทางนั้นบ่อยๆ จะทำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นอย่างนั้น และเกิดเป็นการสร้างบุคลิกของลูกขึ้นมา นอกจากนี้ คำชมยังเป็นการสร้างความมั่นใจ และรู้จักเคารพตัวเองของลูกด้วย เพราะความมั่นใจนั้นเกิดจากการทำอะไรแล้วมีคนคอยให้กำลังใจ แม้ทำไม่ดีในตอนแรก แต่เมื่อได้กำลังใจก็จะสู้ต่อ พอสู้ต่อเกิดการกระทำซ้ำๆ ทำให้ลูกทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ความมั่นใจก็จะตามมา
ส่วนความเคารพตัวเองนั้น คือการมองว่าตัวเราเป็นอย่างไร ซึ่งการที่เด็กจะมองว่าตัวเองเป็นคนอย่างไรนั้น ก็มาจากที่พ่อแม่พูดชมหรือบอกกับลูกบ่อยๆ นอกจากนี้ คำชมยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกกับพ่อแม่ และคนรอบข้าง เพราะการที่พ่อแม่เป็นกำลังใจ ไม่ซ้ำเติมเวลาที่ลูกมีปัญหา ลูกก็กล้าที่พูดที่จะบอก เพราะเขารู้ว่าพ่อแม่จะให้กำลังใจมากกว่าจะซ้ำเติมในสิ่งที่เขาผิดพลาดไป