เทคนิคแม่บ้าน...เพิ่มความหอมให้บ้านด้วย "เสื้อผ้า"
เรื่องกลิ่นใครบอกว่าไม่สำคัญ ยิ่งโดยเฉพาะกลิ่นหอมสะอาดบนเสื้อผ้าที่หยิบมาสวมใส่ยิ่งสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด โดยเฉพาะกับคุณแม่บ้านยุคปัจจุบัน เพราะคงไม่มีแม่บ้านคนไหนอยากให้ลูกๆ หรือสามี หรือแม้แต่ตัวเองใส่เสื้อผ้าที่มีกลิ่นอับ หรือมีกลิ่นตู้เสื้อผ้าติดเสื้อออกนอกบ้าน เพราะนอกจากจะทำให้ผู้สวมใส่ขาดความมั่นใจแล้ว คุณแม่บ้านอาจจะถูกใครตำหนิเอาได้ว่าไม่ดูแลคนในบ้านให้ดีก่อนออกจากบ้าน
ที่สำคัญเรื่องกลิ่นอีกนั่นแหละที่เพิ่มพูนความสุขทางอารมณ์ให้ทุกคนในบ้าน พูดแล้ววันนี้เราเลยมีเคล็ดลับที่ทั้งง่ายทั้งประหยัดในการดูแลเสื้อผ้าให้หอมสะอาดเหมือนใหม่อยู่เสมอมาแนะนำคุณแม่บ้านกัน
พึงรำลึกว่าใส่แล้วต้องซัก
ปัญหาหนึ่งที่ทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นอับติดเสื้อก็คือ การที่คุณพ่อบ้านหรือคุณลูกบางท่านแอบเม้มเสื้อผ้าที่ใส่ไปแค่แป๊บเดียวไว้ใส่ซ้ำอีกนัยว่าช่วยคุณแม่บ้านประหยัดน้ำ ด้วยความที่เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ถึงใส่แค่ช่วงสั้นๆ แต่ถ้าเหงื่อได้ออกมาติดเสื้อบ้างแล้วไม่แคล้วกลิ่นไม่พึงประสงค์ก็ตามมาได้อีกเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ของคุณแม่บ้านที่จะต้องสอดส่องกันหน่อยว่ามีเสื้อตัวไหนที่คนในบ้านหยิบมาใส่แล้วไม่ยอมซักบ้างไหม จะได้กำจัดปัญหากลิ่นอับหมักหมม และช่วยให้ทุกคนในบ้านใส่เสื้อหอมสะอาดทุกครั้ง
ซักผ้าในเวลาจำกัด
มาว่ากันต่อในกรณีของคุณแม่บ้านที่มีเวลาน้อยกันบ้าง บางทีที่ต้องใส่ซ้ำก็เพราะจำเป็นต้องใส่แต่ไม่เหลือเวลามากมายให้ซัก ถึงจะกังวลเรื่องกลิ่นแต่จะซักก็กลัวแห้งไม่ทัน หรือต่อให้แห้งทันก็ไม่มีเวลามารีดอีก เคล็ดลับที่เราอยากแนะนำก็คือ ให้ซักเสื้อที่คุณต้องการใส่แล้วเอามาห่อทิ้งไว้ในผ้าขนหนูประมาณ 10-15 นาที ผ้าขนหนูจะทำหน้าที่ซับความชื้นออกจากผ้าจนเสื้อแห้งหมาดพอที่จะนำไปรีดได้ เท่านี้ก็ประหยัดเวลาไปได้มากและช่วยให้คุณมีเสื้อทันเวลาที่ต้องการ แถมไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย
กำจัดกลิ่นตู้ติดเสื้อด้วยสารพัดวิธี
ส่วนถ้าเป็นเรื่องกลิ่นตู้ติดเสื้อ เรามีหลายวิธีมาแนะนำ เริ่มจากการสำรวจตู้เสื้อผ้าของคุณเองก่อนว่า มีเสื้อผ้าอัดอยู่แน่นแค่ไหน และแต่ละตัวได้หมุนเวียนออกมาใส่บ่อยครั้งหรือไม่ เพราะถ้ามีเสื้อที่คาตู้อยู่นาน กาลเวลาผ่านไปก็ไม่พ้นต้องมีปัญหาเรื่องกลิ่น เพราะฉะนั้นคุณต้องจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าเสียใหม่ อาจจะใช้หลักสีเดียวกันแขวนหรือพับไว้ด้วยกันก็ง่ายดี เมื่อเป็นระเบียบก็หยิบใช้ได้ง่าย ทำให้เสื้อผ้าได้หมุนเวียนออกจากตู้ไปใช้งานง่ายขึ้น และลดปัญหาเรื่องกลิ่นตู้ติดเสื้อลงได้ด้วย
จัดระเบียบอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องวางแผนการใส่ด้วย กล่าวคือ สำรวจให้ละเอียดว่ามีเสื้อผ้าชิ้นไหนอยู่ในตู้บ้าง ใส่บ่อยแค่ไหน ตัวไหนยังไม่ได้ใส่ ฯลฯ แล้วมาจัดตารางการใส่เสื้อผ้าโดยอาจจะเริ่มเป็นสัปดาห์ๆ ไป หรือถ้าจัดได้ทั้งเดือนก็ยิ่งดี เพื่อให้เสื้อผ้าได้หมุนเวียนออกจากตู้ แต่ถ้าจัดก็แล้ว วางแผนก็แล้วยังไม่ได้ผลอีก งั้นก็ต้องเพิ่มตู้ หรือไม่ก็ลดจำนวนเสื้อผ้าโดยเลือกชิ้นที่คิดว่าไม่ใส่แล้วแน่ๆ แต่ยังมีสภาพดีอยู่เอาไปแปลงสินทรัพย์เป็นทุนด้วยการเปิดท้ายขายต่อ บริจาค หรือยกให้คนอื่นไปเลยก็น่าจะดี อย่างน้อยก็มีประโยชน์กว่าเก็บไว้จนแน่นและมีกลิ่นอับติดเสื้อ
หรือทางสุดท้ายที่หลาย ๆ ครอบครัวใช้กันก็คือพึ่งเจ้าน้ำยาปรับผ้านุ่มเสียเลย เพราะน้ำหอมในน้ำยาปรับผ้านุ่มหลาย ๆ ยี่ห้อก็ช่วยระงับกลิ่นไม่พึงประสงค์ไปได้ด้วยเช่นกันค่ะ
Life & Family / manager online