ผิดที่คำพูด
  จำนวนคนเข้าชม  6114

 

ผิดที่คำพูด


โดย อ.วิทยา วิเศษรัตน์    
 

การจะอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขจะต้องมีหลักยึดอย่างน้อย 4 ประการดังต่อไปนี้

·         การให้
·         การพูดดี
·         การเกื้อกูล
·         ความเสมอต้นเสมอปลาย

 

                หลักที่หนึ่ง อิสลามสอนมุสลิมให้เป็นมือบน คือมือที่ให้  และไม่สนับสนุนการเป็นมือล่างคือมือที่ขอ หากคนใดยึดอาชีพการขอ ในวันกิยามะฮ์ใบหน้าของเขาจะไม่มีเนื้อ  แสดงถึงความอัปยศที่ทำตัวเป็นกาฝากของสังคม นอกจากนี้ทรัพย์ที่ถูกแบ่งปันไปสู่การบริจาคจะไม่บกพร่อง แต่จะมีความเพิ่มพูนในตัวของทรัพย์สินและการเพิ่มพูนน้ำใจ ความรักใคร่จากคนรอบข้างอีกด้วย  เพราะคนใจดีย่อมมากด้วยมิตร

 

                หลักที่สอง คือการพูดดี  เพราะการพูดดีทำให้เกิดการสร้างสรรค์ แม้แต่นักกวีอย่างสุนทรภู่ ยังชื่นชมการพูดดีไว้ว่า  

ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์  มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต 

แต่พูดชั่วตัวตายทำลายมิตร จะสอนผิดในมนุษย์เพราะพูดจา

                ส่วนท่านนะบี  ให้ระวังสิ่งที่อยู่ระหว่างหนวดทั้งสองคือลิ้น  และระหว่างสองขาคืออวัยวะเพศ  ในความเป็นจริงปัญหาของสังคมส่วนใหญ่เกิดจากคำพูดที่ไม่สร้างสรรค์ และความส่ำสอนทางเพศ

                อัล-กุรอานได้ระบุไว้ว่าคำพูดที่ดีคือ

·         คำพูดที่เรียกร้องสู่อัลลอฮฺ
·         การทำตัวดี
(เป็นคำพูดที่ดีกว่าคำพูดที่หลุดจากริมฝีปาก)
·         การประกาศจุดยืนในการเป็นมุสลิม

                นอกจากนี้นบีมูซาและฮารูนยังถูกใช้ให้พูดกับฟิรเอาน์ ด้วยคำพูดที่นิ่มนวล เพื่อเขาจะได้ใคร่ครวญและเกรงกลัวอัลลอฮ์ (20,44)

                แล้วเราเป็นมุสลิมด้วยกัน ทำไมพูดดีกันไม่ได้ และทำไมต้องเอานรกเป็นตัวตัดสิน  เรารู้ได้อย่างไรว่าใครจะได้เข้าสวรรค์หรือตกนรก  มันเป็นเรื่องของเราหรือของอัลเลาะฮ์ ผู้ทรงรอบรู้ทุกสิ่ง 

 

          หลักที่สาม คือการให้การช่วยเหลือผู้อื่น ส่วนคนใจแคบเห็นแก่ตัวจะไม่มีความรู้สึกเดือดร้อนกับความทุกข์ยากของคนอื่น  แม้จะเป็นการแสดงการร่วมทุกข์ ก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือกันในรูปแบบหนึ่ง

 

                หลักที่สี่ คือความเสมอต้นเสมอปลาย  การคบค้ากันไม่ใช่เพียงยามสุข  คือร่วมสุขแต่ไม่ร่วมทุกข์ ดังนั้นการทำอะไรเสมอต้นเสมอปลายเป็นงานที่ท่านนะบี รักมาก  และท่านใช้ให้สหายของท่านทำงานอย่างเสมอต้นเสมอปลาย  แม้จะเป็นงานที่เล็กน้อยก็ตาม

                 

 

http://www.cicot.or.th/2009