อัลฮูรุ้ลอัยน์ (นางฟ้าชาวสวรรค์)
  จำนวนคนเข้าชม  11130

อัลฮูรุ้ลอัยนฺ (นางฟ้าชาวสวรรค์)
 

เขียนโดย อ.อาลี เสือสมิง


        ชาวมุสลิมทุกคนเชื่อและศรัทธาถึงความมีอยู่จริงของสวนสวรรค์ ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า อัลลอฮ์ จะทรงประทานให้แก่ผู้มีศรัทธาและประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม เมื่อผู้ศรัทธาได้เข้าสู่สวนสวรรค์ด้วยพระเมตตาของพระผู้เป็นเจ้า อัลลอฮ์ แล้ว พระองค์จะทรงประทานภรรยาแสนสวยหลายนางด้วยกันแก่ผู้ศรัทธานอกเหนือจากภรรยาที่เคยครองคู่กันมาก่อนในโลกนี้ ดังพระดำรัสที่ว่า 

“เช่นนั้นแล เราจักให้ฮูรุ้ลอัยน์ เป็นคู่ครองแก่พวกเขา” (บทอัดดุคอน พระบัญญัติที่ 54)

        คำว่า “อัลฮู๊ร” เป็นพหูพจน์ของคำว่า “เฮารออฺ” หมายถึง สตรีที่มีดวงตาสวยงาม ตาขาวของนางนั้นขาวเป็นที่สุด และตาดำของนางก็ดำขลับเป็นที่สุดเช่นกัน คำว่า “อัลอีน” เป็นพหูพจน์ของคำว่า “อัยนาอฺ” หมายถึง สตรีที่มีดวงตากลมโต เรียกได้ว่า “นางฟ้าชาวสวรรค์” หรือ อัลฮูรุ้ลอัยน์ นั้นมีนัยน์ตาหรือดวงตาที่งดงามเป็นที่สุด ในบทอันนะบะอฺ พระบัญญัติที่ 33 ระบุรูปโฉมของนางฟ้าฮูรุ้ลอัยน์ว่า

        มีสิริโฉมงดงามทรวงอกก็เผยรูปทรงอย่างชัดเจน อายุอานามก็ไล่เลี่ยกัน เรียกได้ว่า เป็นสาวรุ่นงามสะพรั่งไปทุกนาง อัน “ฮูรุ้ลอัยน์” นั้นเกิดในสวรรค์ชั้นฟ้าเป็นสาวพรหมจารีย์ ไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อนเลยไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเหล่าอสูร (บทอัรเราะฮฺมาน พระบัญญัติที่ 56)

     ความงามของพวกนางประหนึ่งดัง ไข่มุก ที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิด ซึ่งความบริสุทธิ์ของสีสันแห่งไข่มุกนั้นมิเคยต้องแสงตะวันอันจักทำให้มัวหมอง ลางทีความงามของเหล่านางฟ้าชาวสวรรค์ก็ถูกเปรียบปรานดั่งทับทิมและปะการังอันงดงาม (บทอัรเราะฮฺมาน พระบัญญัติที่ 58)

ซึ่งทับทิมและปะการังนั้นถือเป็น “รัตนชาติ” ที่งดงามด้วยรูปทรงอันวิจิตรบรรจง

        พวกนางจะไม่ชายตาหรือเมียงมองผู้ใดนอกจากคู่ครองของพวกนางและจะเก็บตัวอยู่ในกระโจมของพวกนางเท่านั้น นอกจากนี้พวกนางยังบริสุทธิ์จากเลือดรอบเดือน , น้ำมูก , เสมหะ , และสิ่งปฏิกูลที่ถูกขับถ่ายออกมา (อุจจาระและปัสสาวะ) จะมีแต่เหงื่อที่หอมกรุ่นดั่งชมดเชียงเท่านั้น พวกนางจะขับขานบทเพลงอันไพเราะด้วยน้ำเสียงที่เสนาะหูและสดใส

         ที่เล่ามานี้เพียงแค่เศษเสี้ยวความงามของเหล่า ฮูร-อัยน์ เท่านั้น ไม่อาจจะพรรณาได้หมดสิ้น ทั้งนี้เพราะสวรรค์ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงจัดเตรียมไว้นั้นเกินกว่าจินตนาการของมนุษย์จะหยั่งถึง ตามิเคยทัศนา และหูมิเคยสดับฟังมาก่อน

 

     


ที่มา

- อัลอะกีดะห์ ฟี เฏาอิลกิตาบ วัซซุนนะห์ (อัลเยาวฺมุลอาคิร – อัลญันนะห์ วันน๊าร)
- ดร.อุมัร สุลัยมาน อัลอัชก๊อร ดารุ้ลนาฟาอิซ ฮ.ศ.1411/คศ.1991

http://www.alisuasaming.com/index.php/writing/tell-stories/501-tell90-13