ความยืดหยุ่นและความรัก

โดย อ.อับดุลฮามี๊ด บรอฮีมี

          บทบัญญัติต่างๆของพระองค์อัลลอฮ์ ที่ทรงบัญญัติแก่บรรดาบ่าวของพระองค์นั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเมตตาอันสมบูรณ์ โดยไม่มีความยากลำบาก และไม่เกินความสามารถ

          บางครั้งพ่ออาจมีความเข้มงวดกับลูก หรือไม่ก็ละเลยลูกๆ หรือไม่มีความเป็นธรรม และบางครั้งธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ ก็เข้ามาทำให้เกิดผลกระทบ และเป้าหมายในการให้การอบรมบรรดาลูกๆ

          ส่วนผู้อภิบาลแห่งโลกทั้งผองนั้น แท้จริง พระองค์ทรงวางบัญญัติให้แก่บ่าวของพระองค์ โดยอยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่จะนำมาซึ่งความดีงาม และผลประโยชน์ส่วนรวม และข้อบังคับที่จะก่อให้เกิดผลประโยชน์แก่บ่าวทั้งสิ้น ซึ่งความอาทรของพระองค์นั้น ควบคู่ไปกับความมั่งมีอันไร้ขีดจำกัดของพระองค์ ที่ไม่ต้องการพึ่งพิงต่อพวกเขาเลย และข้อชี้นำต่างๆต่อปวงบ่าวนั้น ล้วนแล้วแต่จะมาปกป้องชีวิตและยกระดับของพวกเขา

          แน่นอน มนุษย์นั้นเริ่มต้นมาจากวิญญาณที่พระองค์ทรงอนุมัติ ดังนั้น เชื้อสายอันมีเกียรติ และการดำรงอยู่ของสายสัมพันธ์อันสูงส่งนี้ เป็นเคล็ดลับแห่งกฏเกณฑ์ที่มากำกับพฤติกรรมของมนุษย์ และปกป้องพวกเขาให้พ้นจากความผิดบาป และทำให้เกิดความยำเกรง(ตักวา) สุดท้ายจะนำพามนุษย์สู่สวรรค์ อันมีความกว้างไกลล้นฟ้า ล้นแผ่นดิน

         พระองค์อัลลอฮ์  ทรงประสงค์ให้มนุษย์ทำหน้าที่ปกครองแผ่นดิน และทรงประสงค์ให้บรรดาปราชญ์ผู้คงแก่เรียนเป็นผู้สร้างสรรค์สิ่งดีงามในแผ่นดิน ทรงประสงค์ให้แผ่นดินเป็นที่อันเหมาะสมสำหรับการรู้จักพระองค์ และปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของพระองค์ให้ลุล่วง

          ดังนั้นการรู้จักอัลลอฮ์  และการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งใช้ให้ลุล่วงได้นั้น ต้องมีรูปแบบแห่งการชี้นำ และเป็นประโยชน์แก่บรรดามนุษย์ทั้งหลาย และเป็นหลักประกันซึ่งผลประโยชน์แก่พวกเขาอย่างยั่งยืน

          หากมนุษย์ถูกปล่อยให้ใช้ชีวิตอยู่ตามอารมณ์ มันก็จะนำพาพวกเขาไปสู่ความตกต่ำ และแน่นอนพวกเขาย่อมใช้ชีวิตอยู่ห่างไกลต่อบทบัญญัติของอัลลอฮ์  ถึงขั้นที่ความป่าเถื่อน ความแคลงใจ ความอยุติธรรมต่างๆ จะมาสร้างความมืดมนให้กับสังคมของพวกเขา

ท่านอิบนุกอยยิม กล่าวไว้ว่า

         แท้จริง บทบัญญัติของอัลลอฮ์  นั้นเป็นพื้นฐานของข้อตัดสิน และผลประโยชน์ต่างๆ ของบ่าวในการดำเนินชีวิต ทั้งในโลกดุนยาและอาคิเราะฮ์ เป็นบทบัญญัติที่คงความยุติธรรม ความเมตตา และผลประโยชน์อันสมบูรณ์เพียบพร้อม ดังนั้นทุกๆปัญหาที่ปราศจากความเป็นธรรม ย่อมนำไปสู่การละเมิด และทุกๆปัญหาที่ปราศจากความเมตตา ย่อมนำพาไปสู่สิ่งที่ตรงข้าม และทุกๆปัญหาที่ปราศจากประโยชน์ย่อมนำไปสู่ความเสื่อมเสียทั้งสิ้น หากปราศจากเหตุผลย่อมนำไปสู่สิ่งที่ไร้สาระ ซึ่งย่อมนั่นมิใช่บทบัญญัติของอัลลอฮ์  อย่างแน่นอน

          ดังนั้น บทบัญญัติจึงเป็นความเที่ยงธรรมของอัลลอฮ์ ที่มีต่อบ่าว และเป็นความเมตตาของพระองค์ต่อมนุษย์ทั้งหลาย เป็นร่มเงาของแผ่นดิน เป็นเหตุผลที่ยืนยันต่อการมีอยู่จริงของพระองค์ และความสัจจะของศาสนฑูตของพระองค์ ที่นำพาหลักฐานอันสมบูรณ์และเป็นจริง

         ข้อเท็จจริง คือ ความคิดและทัศนคติของมนุษย์ที่มีต่อบทบัญญัติยังต้องแก้ไขต่อไปอีก กลุ่มหนึ่งของพวกเขายังคิดว่าบทบัญญัตินั้น สะท้อนความโกรธกริ้วที่มาบีบบังคับมนุษย์ด้วยความเข้มงวด โดยที่เขารับเอามาด้วยความรังเกียจเดียจฉัน และยังคิดว่าหลักการและข้อปลีกย่อยต่างๆของบทบัญญัติ ยังไม่เป็นที่ชัดเจน และจำต้องยอมรับเนื่องจากกลัวการปฏิเสธ เมื่อมันค้านกับปัญญาของพวกเขาเอง ดังกล่าวนี้เป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวง เพราะศาสนาอิสลามเกิดจากความเมตตาของอัลลอฮ์ ที่สมควรจะต้องยอมรับด้วยความปิติยินดี ดังการรับเอาสิ่งที่เป็นความเมตตา และต้องละทิ้งความคิดอันคับแคบที่เป็นอคติต่อศาสนา ซึ่งผูกพันอยู่กับข้อเท็จจริง

         แท้จริง ศาสนา คือ สัจธรรม และความงดงาม ท่านมิได้ฟังดำรัสของพระองค์อัลลอฮ์  ดอกหรือ ! ที่ทรงตรัสไว้ในซูเราฮ์ อันนัมล์ อายะฮ์ที่ 1-2 ความว่า

" ฏอ ซีน เหล่านี้คือโองการทั้งหลายของอัลกุรอาน และคัมภีร์อันชัดแจ้ง  เป็นแนวทางที่ถูกต้อง และข่าวดีสำหรับบรรดาผู้ศรัทธา "

          ทางนำนั้นย่อมไม่ใช่สิ่งเหลวไหล ไร้สาระ และ ข่าวดี ย่อมไม่เป็นที่รังเกียจอย่างแน่นอน พระองค์ อัลลอฮ์  ตรัสไว้ในซูเราะฮ์ อันนะฮ์ล อายะฮ์ ที่ 89 ความว่า

"...และเราได้ให้คัมภีร์แก่เจ้าเพื่อชี้แจงแก่ทุกสิ่ง  และเพื่อเป็นทางนำและเป็นความเมตตา และเป็นข่าวดีแก่บรรดามุสลิม"

          ศาสนาที่มาจากอัลลอฮ์  อยู่บนแนวทางอันชัดเจน ที่เป็นที่รักของพระองค์ อัลลอฮ์  ตรัสไว้ในซูเราะฮ์อัลบากอเราะฮ์ อายะฮ์ที่  97 ความว่า

"จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า ใครที่เคยเป็นศัตรูต่อญิบรีลบ้าง ?

แท้จริงนั้น เขาได้นำอัลกรุอาน ทยอยลงมายังหัวใจของเจ้าด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์

ทั้งนี้เพื่อยืนยัน สิ่งที่อยู่หน้าอัลกรุอาน และเพื่อเป็นข้อแนะนำ และข่าวดีแก่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย "

        แท้จริงสิ่งที่บทบัญญัติประมวลไว้แล้วนั้นล้วนแต่เป็นความเอื้ออาทร ความเรียบง่าย และความสะดวกง่ายดาย ที่เป็นที่ต้องการของมนุษย์ชาติ ดังเช่นคนป่วยที่ต้องการยารักษา คนต่ำต้อยต้องการความเมตตา

         แท้จริงพระองค์ อัลลอฮ์  ทรงแจ้งถึงความเมตตา และความจำเริญที่เกี่ยวพันธ์กับธรรมชาติของความเป็นนะบีไว้ ในซูเราะฮ์ อัลอัมบิยาอ์ อายะฮ์ ที่ 107 ความว่า

"และเรามิได้ส่งเจ้ามาเพื่ออื่นใดนอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่ประชาชาติทั้งหลาย"

          และเช่นเดียวกัน พระองค์ทรงแจ้งถึงเป้าหมายต่างๆ ของอัลกุรอานอันยิ่งใหญ่ และความสุขของผู้ที่ยึดมั่นต่ออัลกุรอาน ไว้ในซูเราะฮ์ อัลอิสรออ์ อายะฮ์ ที่ 82 ความว่า

" และเราได้ให้ส่วนหนึ่งจากอัลกุรอานลงมา  ซึ่งเป็นการบำบัดและความเมตตาแก่บรรดาผู้ศรัทธา

และมันมิได้เพิ่มอันใดแก่พวกอธรรม นอกจากการขาดทุนเท่านั้น "