มีบุญคุณต้องรู้คุณ
  จำนวนคนเข้าชม  6358

มีบุญคุณต้องรู้คุณ       


โดย  อ.วิทยา  วิเศษรัตน์    
 

 

          แม้ว่าอัล-กุรอานจะพูดถึงชาวคัมภีร์ที่ก่อนหน้าอิสลามให้รำลึกถึงบุญคุณของอัลลอฮ์ ที่มีต่อพวกยิว ในที่นี้มุสลิมก็ต้องตระหนักถึงบุญคุณของพระองค์ แม้ในเนื้อหาที่แตกต่างกันก็ตาม

                การสร้างจิตสำนึกในเรื่องบุญคุณของอัลลอฮ์ก็เพื่อให้มนุษย์

                                - สำนึก
                                - นอบน้อม
                                - ไม่เนรคุณ
                                - ไม่ยโสโอหัง

                แน่นอนบุญคุณที่ยิ่งใหญ่แก่ผู้ที่ศรัทธา คือ  ทางนำแห่งอัลอิสลามที่ทำให้เหล่ามุสลิมพ้นจากความงมงายและความหลงไหล ได้เป็นผู้เป็นคนอย่างสมบูรณ์แบบ ห่างพ้นจากการอยู่อย่างเผ่านิยม  ไม่ว่าการเป็นชาวทะเลทรายหรือชาวป่า

                โองการต่อไปนี้เป็นการสะกิดเตือนชาวคัมภีร์ยุคใหม่  ที่ไม่ได้ศึกษาเรื่องราวของบรรพบุรุษว่าได้รับความโปรดปรานจากอัลลอฮ์มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นอัล-กุรอานได้นำเสนอดังนี้

                ความว่า “และจงรำลึกถึงเมื่อเราได้ช่วยพวกเจ้า (ยิว) พ้นจากพวกฟิรเอาน์ที่ทรมานพวกเจ้าอย่างโหดเหี้ยมโดยฆ่าลูกเพศชาย และไว้ชีวิตลูกเพศหญิงนั้นคือการทดสอบอันยิ่งใหญ่ จากผู้อภิบาลของพวกเจ้า (2,49)

                สาเหตุที่ฆ่าเด็กผู้ชายและไว้ชีวิตเด็กผู้หญิงเพราะพวกโหรได้ทำนายไว้เช่นนั้น ท่านนบีมูซาเป็นเด็กชายที่ต้องถูกฆ่า อัลลอฮ์ ได้ทรงดลใจแม่ของมูซา ให้นำมูซาใส่ตะกร้าลอยทวนน้ำไปติดชายฝั่งของราชวังฟิรเอาน์ ขณะที่ภรรยาและน้องสาวของฟิรเอาน์กำลังเล่นน้ำอยู่ เมื่อเห็นเด็กน้อยก็มีความพึงพอใจรับเลี้ยงเป็นลูก โดยไม่รู้ตัวว่าเด็กคนนี้คือผู้ที่จะมาทำลายอาณาจักรของฟิรเอาน์

                ในโองการต่อมาพระองค์ได้ทรงกล่าวถึงบุญคุณที่ช่วยให้รอดพ้นจากการจมน้ำทะเลตาย  

               และฟิรเอาน์ได้ตายในทะเลในขณะที่พวกเขามองดูอยู่ (2,50)

                แต่พวกเขาเป็นมนุษย์ที่ฉ้อฉลโดยเอารูปวัวปั้นมาเคารพบูชาในขณะที่นบีมูซาเข้าเฝ้าอัลลอฮ์  40 วัน พระองค์ได้ทรงเตือนพวกเขาว่าการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการอธรรม (2,51)

                หลังจากนั้นอัลลอฮ์ ได้ทรงอภัยการกระทำของพวกเขา  เพื่อที่พวกเขาจะได้กตัญญูรู้คุณพระองค์ (2,52)

                นอกจากนี้ยังได้ทรงประทานคัมภีร์ (เตารอต) และฟุรกอน แก่ท่านนบีมูซา เพื่อจะให้พวกเขาได้รับทางนำ (2,53)

                ท่านนบีมูซาได้พูดกับยิวว่า การนำเอารูปปั้นรูปลูกวัวมาบูชานั้น  เป็นการอธรรมต่อตัวของพวกเขาเอง ดังนั้นจะต้องทำการสารภาพผิดต่อพระผู้สร้างของพวกเขาคืออัลลอฮ์

                แต่ความเป็นคนหัวหมอของพวกเขา(ยิว)คือ การอ้างเงื่อนไขกับนบีมูซา ว่า พวกเขาจะศรัทธาก็ต่อเมื่อ พวกเขาได้เห็นอัลลอฮ์ อย่างเปิดเผย และพวกหัวหมอก็ถูกฟ้าผ่าตาย

                ทั้งหมดคือตัวอย่างไม่ใช่แบบอย่างที่มุสลิมจะต้องเอาเยี่ยงอย่าง   เพราะมันคือนิสัยฉ้อฉลไม่รู้จักบุญคุณของผู้มีคุณ คนอกตัญญู

                การเกิดมาเป็นมุสลิมมีอิสลามเป็นสรณะในการดำเนินชีวิต ทำให้เป็นผู้มีความเจริญ   นับว่าเป็นบุญคุณอันเหลือล้น เพราะทำให้รู้เป้าหมายของชีวิตที่แท้จริง