พลังแห่ง อัลฮัจญ์ มับรูร์
นิพล แสงศรี
อัลฮัจญ์ คือ ๑ ใน ๕ ของโครงสร้างพื้นฐานของอัลอิสลามได้แก่ การกล่าวชะฮาดะฮ์ การละหมาด การถือศีลอด การจ่ายซะกาต และการประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยอัลฮัจญ์ต้องอาศัยทั้งร่างกาย จิตใจ ทรัพย์สิน และความปลอดภัยในการเดินทาง ในเวลาเดียวกัน ขณะที่ การกล่าวชะฮาดะฮ์ การละหมาด และการถือศีลอด อาศัยจิตใจกับร่างกาย ส่วนการจ่ายซะกาตขึ้นอยู่กับทรัพย์สิน ทุกประการต่างมีความสำคัญในตัวเอง เพราะสามารถทำให้มุสลิมเป็นคนที่มีคุณภาพในตัวเองได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อนำทั้ง ๕ ประการมาร่วมไว้ในคนๆเดียว คุณภาพยิ่งจะเพิ่มมากขึ้นในอีกระดับ และหากประชากรมุสลิมกว่า ๑,๕๐๐ ล้านคนมีคุณภาพเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน ย่อมจะส่งผลต่อโลกมุสลิมมีศักยภาพในด้าน การศึกษา ศาสนา สังคม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง และอื่นๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัลฮัจญ์ ที่มีรูปแบบมาจากท่านนะบีมุฮัมมัด นอกจากจะทำให้การประกอบพิธีฮัจญ์ถูกต้องและเป็นเส้นทางแห่งฮัจญ์ มับรูร์ แล้ว หากเราใช้สติปัญญาไตร่ตรองเราจะพบว่า อัลฮัจญ์ มี "พลังแฝง" หลายประการที่เป็นประโยชน์ต่ออุมมะฮ์ท่านนะบีมุฮัมมัด ได้แก่
๑. อัลฮัจญ์ คือ การแสดงออกถึงเอกภาพของการศรัทธาและการปฏิบัติ การยืนหยัดและจงรักภักดีต่ออัลลอฮ์ และท่านนะบีมุฮัมมัด ตามคำกล่าวกะลีมะฮ์ชะอาดะฮ์อย่างแท้จริง เนื่องจากต้องอาศัยพลังศรัทธา ความตั้งใจจริง และความแน่วแน่ที่จะกระทำอย่างบริสุทธิ์ใจ เจริญรอยตามท่านนะบีมุฮัมมัด วางไว้
นอกจากนั้น อัลฮัจญ์ ยังเป็นเวทีของการแสดงออกถึงเอกภาพทางการปฏิบัติตามขั้นตอนที่เหมือนกัน เงื่อนไขแบบเดียวกัน ช่วงเวลาเดียวกัน ณ สถานที่แห่งเดียวกัน และการแต่งกายที่เหมือนกัน อีกทั้งยังต้องตระเตรียมความพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ ทรัพย์ และความปลอดภัยขณะเดินทาง ตลอดจนตระเตรียมความรู้ ความเข้าใจ และข้อมูลเกี่ยวกับอัลฮัจญ์ที่ถูกต้องที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัลฮัจญ์ ที่มีรูปแบบมาจากท่านนะบีมุฮัมมัด
๒. อัลฮัจญ์ คือ การรำลึกถึงความเกรียงไกรของอัลอิสลามในอดีต แหล่งกำเนิดของทางนำที่ได้เจิดจรัสไปทั่วโลก สัมผัสร่องรอยการเสียสละของท่านนะบีมุฮัมมัด และเหล่าเศาะฮาบะฮ์ ตลอดจนการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของนะบีอิบรอฮีม นะบีอิสมาอีล และพระนางฮาญัร ซึ่งเป็นต้นแบบของการประกอบพิธีฮัจญ์ ที่สืบทอดกันมาเป็นเวลานับพันๆ ปี
สิ่งเหล่านี้สามารถพิสูจน์ด้วยตนเองได้จากสถานที่จริง เพื่อนำมาเป็นบทเรียน และเป็นกำลังสำหรับการดำเนินวิถีชีวิตตามรูปแบบอัลอิสลาม
๓. อัลฮัจญ์ คือ กระบวนการพัฒนาจิตวิญญาณและขัดเกลาจิตใจ เนื่องจากเป็นสนามฝึกขนาดย่อมสำหรับมุสลิม เพื่อฝึกฝนตนเองให้เป็นคนที่มีคุณภาพ เข้มแข็งทั้งด้านจิตใจและร่างกาย และเพื่อให้เป็นผู้ที่มีภารดรภาพ มีความเอื้ออาทร มีความเสมอภาค และเรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นและสังคม โดยผ่านกระบวนการทดสอบท่ามกลางขั้นตอนและเงื่อนไขต่างๆมากมาย ตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งจบ โดยผู้ประกอบพิธีทุกคนต่างมีอุดมการณ์ร่วมกันและเป้าหมายเดียวกัน
แม้รายละเอียดทางการปฏิบัติจะแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่ทุกคนต่างอยู่ในสถานะเดียวกันที่จะต้องช่วยเหลือซึ่งกัน พึ่งพากัน แบ่งปันกัน อภัยให้กัน อดทนและอดกลั้นต่อกัน เชื่อฟังผู้นำ อยู่ในระเบียบวินัย รู้จักควบคุมอารมณ์มิให้พลาดพลั้งกระทำสิ่งต้องห้ามโดยเฉพาะการร่วมหลับนอนกับภรรยา ตลอดจนร่วมฟันฝ่าอุปสรรคและผ่านบททดสอบจากอัลลอฮ์ ร่วมกัน ก่อนจะบรรลุถึงจุดหมายของ อัลฮัจญ์ มับรูร์ สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยพื้นฐานสำหรับการยืนหยัดความเป็นมุสลิม ซึ่งจะส่งผลทำให้โลกอิสลามเกิดศักยภาพขึ้นในด้านต่างๆ ตามมา
๔. อัลฮัจญ์ คือ ความพยายามที่จะรวมประชาติอิสลามให้เป็นหนึ่งเดียว ภายใต้คำสั่งของอัลลอฮ์ และนะบีมุฮัมมัด โดยพยายามขจัดปัญหาความขัดแย้ง การปฏิเสธความเหลื่อมล้ำและวรรณะของมนุษย์ โดยเฉพาะเส้นแบ่งเขตระหว่างชนชาติ เชื้อชาติ ภาษา สีผิว ชนชั้น ตามที่โลกตะวันตกหยิบยื่นมาให้หลังอาณาจักรอุสมานียะฮฺ (ออตโตมาน) ล่มสลาย
ความพยายามดังกล่าวเรายังสามารถพบได้ในบัญญัติว่าด้วยเรื่องการละหมาดญะมาอะฮฺ (ประจำวัน) การละหมาดญุมอะฮฺ (ประจำสัปดาห์) และการละหมาดอีด (ประจำปี) ดังนั้นความพยายามข้างต้นจึงถือว่าเป็นผลตอบแทนอันยอดเยี่ยมที่ท่านนะบีมุฮัมมัด มอบให้เป็นของขวัญแก่ทุกคน เพื่อเป็นโล่ปกป้องอัลอิสลามให้พ้นจากการถูกรุกรานในด้านต่างๆ
๕. อัลฮัจญ์ คือ งานท้าทายความสามารถด้านบริหารจัดการระดับโลก เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา ท่านนะบีมุฮัมมัด เคยนำคนกว่า ๑ แสนคนเดินเท้าจากนครมะดีนะฮ์ มายังนครมักกะฮ์ (ประมาณ ๔๗๐ กิโลเมตร) เพื่อประกอบพิธีฮัจญ์ ตลอดระยะเวลาการประกอบพิธีฮัจญ์ท่านสามารถบริหารและจัดการทุกอย่าง ทุกขั้นตอนให้ดำเนินไปอย่างสงบและเรียบร้อยปราศจากปัญหา โดยไม่ต้องอาศัยเทคโนโลยีและเครื่องมืออันทันสมัย สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความสำเร็จของท่านนะบีมุฮัมมัด ด้านการบริหารจัดการ
ปัจจุบัน อัลฮัจญ์ จึงถือเป็นงานท้าทายความสามารถระดับโลกสำหรับประเทศเจ้าภาพหากเปรียบเทียบกับการประชุมอาเซียนที่จัดขึ้นในประเทศไทย หรือโอลิมปิคเกมส์ที่ประเทศจีนเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของประเทศเจ้าภาพ และศักยภาพของโลกมุสลิมได้เป็นอย่างดี โดยมีน้ำมัน ทรัพยากร และเทคโนโลยีอันทันสมัยเป็นตัวสนับสนุน
๖. อัลฮัจญ์ คือ มหกรรมการค้าและการลงทุนของโลกไร้พรมแดน เนื่องจากบรรดาผู้เดินทางประกอบพิธีฮัจญ์จากทั่วโลก คือ อาคันตุกะผู้มีเกียรติของอัลลอฮ์ มาจากอาชีพและหน้าที่การงานที่แตกต่างกัน ดังนั้นเทศกาลฮัจญ์ จึงถือเป็นการรวมตัวของบรรดาพ่อค้า นักธุรกิจ และนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกครั้งเดียวในรอบปี และถือเป็นตัวกลางของการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ทั้งด้านธุรกิจ การเงินอิสลาม และการลงทุน ตลอดจนร่วมกันหาแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจจุลภาคและมหภาคของโลกมุสลิม หรือที่เรียกกันว่า เศรษฐกิจแบบพึ่งพากัน
นอกจากนั้นยังถือเป็นการชุมนุนของอาคันตุกะผู้มีเกียรติของอัลลอฮ์ 2-3 ล้านคนต่อปี โดยแต่ละคนมีกำลังซื้อมากกว่า 20,000 - 30,000 บาทต่อคน มีเม็ดเงินไหลหมุนเวียนจากภาคการลงทุนกว่า 4,000 ล้านต่อปีโดยยังไม่รวมกิจกรรมทางเศรษฐกิจช่องทางอื่นๆ สิ่งเหล่านี้อัลอิสลามเปิดทางไว้ให้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ควบคู่การประกอบพิธีฮัจญ์ เช่นเดียวกับหลังละหมาดญุมอะฮ โดยเฉพาะยุคโลกาภิวัฒน์ที่กลุ่มประเทศทุนนิยมกำลังประสบปัญหาวิกฤติทางเศรษฐกิจ จึงได้พยายามหาช่องทางครอบงำระบบเศรษฐกิจมุสลิมและเข้ามามีอิทธิพลในโลกมุสลิมด้วยวิธีการที่ไร้จริยธรรม