มารยาทของท่านรอซูลต่อพระผู้เป็นเจ้า
  จำนวนคนเข้าชม  11355

มารยาทของท่านรอซูล(ศ็อลฯ) ต่อพระผู้เป็นเจ้า

          ท่านนะบีมุฮัมมัด เป็นผู้ที่มีความรู้มากที่สุดในหมู่มนุษย์ ท่านปฏิบัติต่อพระเจ้าของท่านตามความรู้นั้น ด้วยเหตุนี้ท่านจึงทำอิบาดะฮ์มากที่สุด ยำเกรงต่ออัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มากที่สุด ใกล้ชิดต่ออัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มากที่สุด รักอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มากที่สุด ระลึกถึงอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มากที่สุด และมั่นใจในอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มากที่สุด ซึ่งไม่มีผู้ใดทำได้อย่างท่าน ท่านอาลี อิบนุ อบีตอลิบ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ ได้ถูกถามถึง การปฏิบัติสิ่งที่เป็นซุนนะฮ์ของท่านนะบี ในการละหมาด ท่านอาลีตอบว่า :

          พวกท่านไม่สามารถทำได้หรอก (*1*)

รายงานจากท่านอานัส อิบนุมาลิก ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า :

          ท่านนะบีนั้น ไม่ถือศีลอดตลอดเดือนจนเราคิดว่า ท่านจะไม่ถือศีลอดอีก และท่านจะถือศีลอดจนเราคิดว่า ท่านจะไม่ละศีลอด บางครั้งท่านละหมาดในยามค่ำคืนต่อเนื่องและบางครั้งท่านก็นอนหลายคืนติดต่อกัน ท่านจะรำลึกถึงอัลลอฮ์อยู่ทุกสภาพการณ์ ไม่ว่าขณะทำอะไรก็แล้วแต่จะมีการซิกรุ้ลลอฮ์ อยู่ทุกขณะ และส่งเสริมต่อประชาชาติให้ปฏิบัติดังกล่าว(*2*) ในที่ประชุมหนึ่งท่านกล่าว อิชติฟาส 100 ครั้ง (*3*) เพราะใจของท่านนั้น รำลึกถึงอัลลอฮ์เสมอไม่เคยหลับเลย

ท่านหญิงอาอีชะ รอฎิยัลลอฮุอันฮา ถามท่านเราะซูล ว่า :

          โอ้ท่านเราะซูลลุลลอฮ์ ท่านนอนก่อนละหมาดวิติรหรือเปล่า?

ท่านนะบี  ตอบว่า :

          โอ้อาอีชะเอ๋ย แท้จริงตาฉันหลับแต่ใจไม่หลับ(*4*)

          ท่านจะรำลึกถึงอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา อย่างมากโดยเฉพาะในขณะที่มีเหตุการณ์คับขันในการทำสงคราม บางครั้งขณะขอดุอาร์ท่านยกมือขึ้นสูงจนเห็นรักแร้ ทั้งนี้เพื่อจะให้มั่นใจว่าพระองค์อัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา คือผู้ประทานความช่วยเหลือ ผู้ให้ชัยชนะที่แท้จริง นี่เป็นอิบาดะห์ที่ท่านนะบี ทำอย่างต่อเนื่องเพื่ออัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ท่านมิได้ทำเพราะว่าเป็นความจำเป็น ซึ่งจะกระทำอย่างรวดเร็วก็ได้ แต่ทว่าท่านกระทำด้วยความรู้สึกที่มีความสุขอย่างเปี่ยมล้น ท่านกล่าวว่า :

          ฉันได้ทำให้การละหมาดนั้นเป็นขวัญตาขวัญใจแก่ฉัน(*5*)

          ท่านปฏิบัติละหมาด เพื่อแสวงหาความพอพระทัยจากอัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทั้ง ๆ ที่พระองค์ได้ทรงบอกว่าท่านนั้นได้รับการอภัยโทษไม่ว่าจะเป็นความผิดที่ผ่านมาแล้ว หรือความผิดที่จะเกิดขึ้นใหม่

ดังดำรัสของพระองค์ที่ว่า :

           เพื่ออัลลอฮจะได้ทรงอภัยโทษความผิดของเจ้าที่ได้ล่วงไปแล้วและที่จะเกิดขึ้นภายหลัง และจะทรงให้ความโปรดปรานของพระองค์ครบสมบูรณ์แก่เจ้าและทรงชี้แนะทางแก่เจ้าคือทางอันเที่ยงตรง (อัลฟัตฮ์ 48 : 2)

          ท่านนะบี ได้ทำอิบาดะฮ์อย่างขะมักเขม้นและสม่ำเสมอ ท่านยืนละหมาดในยามค่ำคืนจนกระทั่งเท้าของท่านนั้นบวม มีผู้ถามว่า  : 

          ท่านทำทั้ง ๆ ที่อัลลอฮ์ ก็ทรงอภัยโทษให้แก่ท่านจากความผิดที่ผ่านมา และที่จะเกิดกระนั้นหรือ?

ท่านนะบี ตอบว่า :

          จะไม่ให้ฉันเป็นบ่าวที่ขอบคุณต่ออัลลอฮ์ กระนั้นหรือ? (*6*)

          การทำอิบาดะฮ์ที่สม่ำเสมอต่ออัลลอฮ์ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ซึ่งทรงเป็นผู้ช่วยเหลือที่ดีที่สุด ที่จะต่อสู้กับอุปสรรค์ในการเผยแพร่ศาสนา และจะทำให้ได้รับชัยชนะ และได้รับความพึงพอพระทัยจากพระองค์ นั่นคือ สรวงสวรรค์ในโลกอาคีเราะฮ์

 

ดร.อัดุลลอฮฺ  อิบนุ อับดิรเราะฮ์มาน อัลค็อรอาน

 ...ประเด็นต่างๆในการศึกษาชีวประวัตินะบีมุฮัมมัด


  1. สุนันอัตติรมิซี2/493มุสนัดอิม่ามอะฮฺมัด1/160อัสซุนะนุ้ลกุบรอลิ้ลบัยฮะกี1/178
  2. ซอฮีฮุ้ลบุคอรี กิตาบุตตะฮัจญุจ บท กิยามุลลัย เลขที่ 11 .2/46
  3. ดู ซาดัลมะอาด ลิอิบนิกอยยิม في فصل هديه صلى الله عليه وسلم في الذكر 2/365-367
  4. ซอฮีฮุ้ลบุคอรี กิตาบุตตะฮัจญุจ บท 61 .2/48
  5. มุสนัดอิมามอะฮฺมัด 3/128 มุสตัดริกอัลฮากิม 2/174 เป็นฮะดิษที่ซอเฮี๊ยตามกฎของมุสลิมและท่านษะฮะบีก็เห็นด้วย
  6. ซอฮีฮุ้ลบุคอรี กิตาบุตตะฮัจญุจ บท กิยามุนนะบี 6