ความสัมพันธ์ พ่อ-ลูกสาว ลดโอกาสเสี่ยงเด็กมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัย
เป็นที่ทราบกันดีว่า พ่อแม่คือต้นแบบ หรือผู้มีอิทธิพลต่อการเลือกเส้นทางชีวิตของลูก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พ่อแม่ในปัจจุบันให้ความสนใจเกี่ยวกับแนวทางการเป็นพ่อแม่ที่ดีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งการนำเสนอของสื่อ ตลอดจนการวิจัยต่าง ๆ ก็พยายามมุ่งสนับสนุนการมีครอบครัวที่สมบูรณ์เพื่อให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสซึมซับต้นแบบที่ดี
แต่ในผลการศึกษาวิจัยใหม่ล่าสุดของมหาวิทยาลัยอิลินอยส์ (University of Illinois) สหรัฐอเมริกา ยังพบข้อมูลที่ลึกลงไปกว่านั้นอีกว่า บทบาทและการทำหน้าที่ของพ่อต่อลูกสาวในช่วงวัยรุ่นนั้นเป็นตัวแปรสำคัญต่อการมีความมั่นใจในตนเองของเด็ก และการปฏิสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามด้วย โดยคณะวิจัยได้ทำการสัมภาษณ์เด็กวัยรุ่นและพ่อแม่ผู้ปกครองกว่า 3,200 ราย และใช้คำถามพุ่งเป้าไปที่ความสัมพันธ์กันระหว่างพ่อแม่-ลูกวัยรุ่นเป็นหลัก เช่น ผู้เป็นพ่อแม่จะต้องตอบคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขารู้เกี่ยวกับเพื่อนของลูก และการใช้เวลาว่างของลูก และนำมาคิดคะแนน ซึ่งการให้คะแนนแต่ละครอบครัวขึ้นอยู่กับว่า พ่อแม่ทราบข้อมูลความเป็นไปของลูกมากน้อยเพียงใด และมีการนำคะแนนที่ได้ไปเปรียบเทียบกับความถี่ของการมีพฤติกรรมทางเพศของลูก ๆ ด้วย
ทั้งนี้ ผลการวิจัยพบว่า เด็กวัยรุ่นที่มีปฏิสัมพันธ์ในเชิงบวกกับพ่อแม่จะมีความสนใจในกิจกรรมทางเพศน้อยกว่าเด็กที่พ่อแม่มีปฏิสัมพันธ์ในแง่ลบ นอกจากนั้น หากความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกสาวมีความใกล้ชิดกันสูง ก็จะทำให้ลูกสาวมีความเสี่ยงที่จะมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามน้อยลง
โดยนักวิจัยระบุว่า ยิ่งพ่อกับลูกสาวมีความเข้าใจกันมากขึ้นเพียง 1 คะแนน ก็สามารถลดความเสี่ยงทางเพศของเด็กสาวลงได้ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้น ยิ่งพ่อพยายามทำความเข้าใจลูกสาวในช่วงวัยรุ่น และสนใจลูกมากแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้เธอมีความสนใจในเรื่องเพศสัมพันธ์ช่วงวัยรุ่นลดลงมากเท่านั้น อีกทั้งยังเข้าใจด้วยว่า การมีปฏิสัมพันธ์ กับเพศตรงข้ามแบบใดสามารถยอมรับได้ และความสัมพันธ์แบบใดไม่สมควรด้วย
อย่างไรก็ดี การยับยั้งชั่งใจ ไม่ยอมมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเพศตรงข้ามเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพรวมทั้งหมดที่พ่อสามารถสร้างให้ลูกสาววัยทีน เพราะลูกสาวจะได้เรียนรู้สิ่งสำคัญ ๆ หลายประการจากบทบาทของพ่อที่ประพฤติปฏิบัติตัวในบ้าน หนึ่งในนั้นคือ การเคารพตัวเอง เพราะเมื่อพ่อแสดงให้เห็นว่า พ่อให้ความสำคัญกับภรรยาและลูกสาว เด็กก็จะเรียนรู้ถึงบทเรียนเกี่ยวกับการมีคุณค่าของตัวเองด้วย
ที่สำคัญ หากพ่อแสดงบทบาทความเป็นพ่อที่ดี และทำให้ลูกเคารพนับถือได้ ลูกสาวก็มีแนวโน้มว่าจะมองหาคู่ครองที่เป็นผู้ชายที่ดี ผู้ชายที่ยอมรับและให้เกียรติเธอ รวมถึงสามารถให้การสนับสนุนเธอได้เช่นกัน
การปรับตัวของพ่อเมื่อเจอลูกวัยรุ่น
การพูดคุย หรือการทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น การรับประทานอาหารร่วมกัน การปลูกต้นไม้ เล่นกีฬา ก็เป็นทางเลือกที่ดี กระนั้นการพูดกับลูกในเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งเซ็กส์ก็ควรอยู่บนพื้นฐานของบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ไม่ใช่การสั่งสอน หรืออบรม โดยพ่อแม่อาจเล่าประสบการณ์ของตัวเองเมื่อตอนเป็นเด็ก ๆ ให้ลูกฟัง เพราะลูก ๆ เอง ทั้งหญิงและชาย ส่วนมากก็ชอบที่จะได้ยินเรื่องราวที่เกี่ยวกับมุมมองของเพศตรงข้ามจากพ่อแม่ของตน เพราะเขาสามารถตั้งคำถาม ทำความเข้าใจได้ง่ายกว่า
การชวนลูกคุยในเรื่องของความฝัน ความหวัง เป้าหมายในชีวิต ก็มีความสำคัญกับการเลือกเส้นทางเดินของลูกไม่แพ้กัน เพราะการที่ลูกไว้ใจในตัวคุณ และสามารถบอกเป้าหมาย หรือความฝันของเธอ แม้กระทั่งปัญหาให้พ่อแม่ได้รับทราบนั้น จะทำให้เด็กพุ่งเป้าไปที่สิ่งที่เขาอยากทำในอนาคต ลดโอกาสการหันไปหาเพื่อนที่มีปัญหา หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงลงได้อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ดี การสนิทสนมกับลูกนั้น พ่อแม่ไม่ควรสับสนในความสัมพันธ์ดังกล่าวจนทำตัวให้กลายเป็นเพื่อนสนิทของลูกไป การเป็นพ่อก็ยังคงต้องเน้นที่บทบาทของการเป็นพ่อ เช่น มีการตั้งกฎ ระเบียบปฏิบัติ และดูแลให้ลูกสาวปฏิบัติตามกฎนั้น โดยอธิบายให้ลูกทราบถึงความสำคัญและความปลอดภัยที่จะเกิดกับตัวลูก หากลูกปฏิบัติตามกฎดังกล่าวของพ่อ
การใช้เวลากับลูกสาว และให้ความสนใจในชีวิตของเธอจะช่วยให้ลูกเกิดความมั่นใจมากขึ้น เมื่อเด็กสาวมีความมั่นใจในตัวเองจะให้ความสนใจในเพศตรงข้ามน้อยลง และจะไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงมากเท่ากับเด็กสาวที่พ่อแม่ละเลย ดังนั้น หากมีเวลาว่าง คุณพ่ออาจมองหากิจกรรมที่จะทำร่วมกับลูก ๆ โดยที่ทั้งคุณและลูกชื่นชอบ หรือลองหาอะไรใหม่ ๆ ที่คิดว่าลูกสนใจ เพื่อช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพ่อกับลูก (สาว) นะคะ
เรียบเรียงจาก more4kid.info
Manager online / life & Family