การตั้งภาคีสิ่งที่ทำให้เสียอิสลามประการที่ 1
  จำนวนคนเข้าชม  9129

 

 

สิ่งที่ทำให้เสียอิสลามประการที่ 1

แปลโดย...  อิสมาอีล    กอเซ็ม

 

การตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์  ในการเคารพภักดี

قال الله تعالى ( إن الله لا يغفر أن يشرك به ويغفر ما دون ذلك لمن يشاء )

อัลลอฮ์ ทรงตรัสไว้ว่า

“ แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่อภัยโทษ กับการตั้งภาคีต่อพระองค์  แต่พระองค์จะอภัยโทษ สิ่งอื่นที่นอกเหนือจากการตั้งภาคี สำหรับผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์”

وقال تعالى – ( إنه من يشرك بالله فقد حرم الله عليه الجنة ومأواه النار وما للظالمين من أنصار )

อัลลอฮ์ ได้ตรัสไว้ว่า

“ แท้จริงผู้ใดที่ตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์ แน่นอน อัลลอฮ์ได้ห้ามสวนสวรรค์แก่เขา  และที่พำนักของเขา คือ นรก

และสำหรับบรรดาผู้ที่อธรรม(หมายถึงผู้ที่ตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์) จะไม่ได้รับการช่วยเหลือใด”  

         ตัวอย่างของการตั้งภาคีคือ  การเชือดต่อสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮ์  เช่น การเชือดต่อญินและชัยตอน

         สิ่งที่ทำให้เสียอิสลามประการแรก คือ การตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์  ผู้ที่แต่งหนังสือได้กล่าวถึงข้อตัดสินสองข้อด้วยกัน  คือ กฏเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติต่อผู้ตั้งภาคีในโลกนี้ และ กฏเกณฑ์ที่จะถูกปฏิบัติต่อเขาในโลกหน้า

 

หลักฐานที่ตัดสินผู้ตั้งภาคีในโลกนี้

( إن الله لايغفر أن يشرك به ويغفر مادون ذلك لمن يشاء )

“แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่อภัยโทษ แก่การตั้งภาคีต่อพระองค์ แต่พระองค์จะอภัยโทษนอกเหนือจากการตั้งภาคี สำหรับผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์”

         การตั้งภาคีนั้นเป็นบาปที่จะไม่ได้รับการอภัยโทษ จุดประสงค์ของชีริกในอายะนี้ คือ การตั้งภาคีที่อยู่ในประเภทการตั้งภาคีใหญ่  เนื่องจากอัลลอฮ์ ได้เจาะจงว่าการทำ “ชีริก” นั้นจะไม่ได้รับการอภัยโทษ และพระองค์จะอภัยบาปอื่นที่มิใช่การตั้งภาคี ด้วยความประสงค์ของพระองค์

 

หลักฐานที่สองที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินในโลกหน้า

          การตัดสินของเขาในโลกหน้าคือ ผู้ที่ตั้งภาคีจะถูกห้ามมิให้เข้าสวรรค์ และจะต้องเป็นชาวนรกที่ต้องอยู่ในนรกตลอดกาล

قال تعالى ( إنه من يشرك بالله فقد حرم الله عليه الجنة ومأواه النار وما للظالمين من أنصار )

“ แท้จริงผู้ใดที่ตั้งภาคีต่ออัลลอฮ์ แน่นอน อัลลอฮ์ได้ห้ามสวนสวรรค์แก่เขา  และที่พำนักของเขาก็คือ นรก

และสำหรับบรรดาผู้ที่อธรรม จะไม่ได้รับการช่วยเหลือใด”

         เมื่อข้อตัดสินของเขาในโลกนี้ คือ การไม่ได้รับการอภัยโทษจากอัลลอฮ์  และในโลกหน้าเขาจะต้องเข้าไปอยู่นรกตลอดกาล  เราขอวิงวอนจากอัลลอฮ์  ให้รอดพ้นจากสภาพที่กล่าวมา  และกฏเกณฑ์ที่จะต้องปฏิบัติต่อผู้ปฏิเสธ หรือผู้ตั้งภาคี คือ  ต้องทำการแยกสามีและภรรยาออกจากกัน หมดสภาพจากการเป็น สามี ภรรยากัน นอกจากเขาได้ทำการเตาบัต กลับตัว เพราะหญิงมุสลิมะห์นั้น ไม่อนุญาตให้อยู่ภายใต้การดูแลของชายกาเฟร(ปฏิเสธศรัทธา)

قال تعالى : ( لا هن لهم ولا هم يحلون لهن )

อัลลอฮ์  ได้ตรัสไว้ว่า

 “ พวกนางนั้นไม่เป็นที่อนุญาตแก่พวกเขา  และพวกเขาก็ไม่เป็นที่อนุญาตแก่นาง ”

หมายความว่า บรรดาผู้ปฏิเสธนั้นไม่อนุญาตให้แต่งงานกับบรรดาผู้ศรัทธา

قال تعالى : ( ولا تنكحوا المشركين حتى يؤمنوا )

อัลลอฮ์ ได้ตรัสไว้ว่า

 “พวกเจ้าอย่าได้ทำการสมรส แก่บรรดาชายที่เป็นผู้ที่ตั้งภาคี  จนกว่าพวกเขาจะศรัทธา”

         เช่นเดียวกัน ข้อตัดสินของผู้ตั้งภาคีเมื่อได้เสียชีวิตลง ก็ไม่ต้องละหมาดให้ และไม่ต้องอาบน้ำศพให้  และไม่อนุญาตให้ไปฝังในสุสานของมุสลิม และ ไม่อนุญาตให้เขาเข้าสู่เมืองมักกะห์ด้วย  เนื่องจากเมืองมักกะห์เป็นที่ต้องห้ามสำหรับผู้ปฏิเสธ มุชริกนั้นห้ามเข้าไปยังมักกะห์

قال تعالى : ( يأيها الذين آمنوا إنما المشركون نجس فلا يقربوا المسجد الحرام بعد عامهم هذا )

อัลลอฮ์ ได้ตรัสไว้ว่า 

“ โอ้บรรดาผู้ที่ได้ศรัทธา  แท้จริงบรรดาผู้ที่ตั้งภาคีนั้น เป็นสิ่งที่สกปรก  พวกเขาอย่าได้เข้าใกล้ มัสยิดหะรอม หลังจากปีของพวกเขานี้”

          กฏเกณฑ์ต่างที่ต้องปฏิบัติ  คือ ผู้นั้นจะไม่ได้รับมรดก และคนอื่นก็ไม่สามารถรับมรดกจากเขาได้เช่นเดียวกัน  เช่น ภรรยาและลูกที่เป็นมุสลิมไม่สามารถที่จะรับมรดกของกาฟริ(ผู้ปฏิเสธ) ได้เช่นเดียวกัน และทรัพย์ของเขาต้องตกเป็นของกองคลังมุสลิม นอกจากมีลูกที่เป็นผู้ปฏิเสธเหมือนกัน จึงจะรับมรดกได้

لقوله النبي صلى الله عليه وسلم ( لا يرث المسلم الكافر ولا الكافر المسلم )

ท่านนะบี  กล่าวว่า

“มุสลิมนั้นอย่าได้รับมรดก ของผู้ที่ปฏิเสธศรัทธา  และผู้ที่ปฏิเสธศรัทธาอย่าได้รับมรดกมุสลิม”

         และเมื่อเขาได้เสียชีวิตลงในสภาพของผู้ปฏิเสธศรัทธา เขาจะเป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในนรกตลอดกาล และถูกห้ามจากการเข้าสวรรค์ เมื่อเขายังดำรงอยู่ในสภาพการตั้งภาคี

 

 

 


จากหนังสือ        شرح نواقض الإسلام

อธิบายโดย      الشيخ عبد العزيز الراجحي