การเป็นมิตรและศัตรูในอิสลาม
  จำนวนคนเข้าชม  7901

 

การเป็นมิตรและศัตรูในอิสลาม

 

โดย  / เชค ดร. ซอลิฮฺ บินเฟาว์ซาน อัลเฟาว์ซาน

 

          ถัดจากการรักอัลลอฮ์  และเราะซูล  ของพระองค์แล้ว มุสลิมจะต้องรักบรรดาผู้เป็นมิตรสหาย(เอาว์ลิยาอ์) ของอัลลอฮ์   และเป็นศัตรูกับบรรดาผู้เป็นศัตรูของพระองค์

          สิ่งที่เป็นหลักเชื่อมั่นพื้นฐานที่ถูกต้องของอิสลาม เป็นหน้าที่ของมุสลิมทุกคนที่จะต้องยึดมั่นต่อหลักเชื่อมั่นดังกล่าว คือจะต้องเป็นมิตรสนิทสนมกับผู้ที่มีหลักเชื่อมั่นที่ถูกต้อง รักผู้ที่ให้เอกภาพแด่อัลลอฮ์ มีใจบริสุทธิ์(อิคลาศ) ต่ออัลลอฮ์  เกลียดชังผู้ที่ตั้งภาคี(ชิริก) และตั้งตนเป็นศัตรูกับพวกเขา ดังกล่าวนี้คือ แนวทางของท่านนะบีอิบรอฮีม   และบรรดาผู้ที่ดำเนินตามท่าน และได้ใช้ให้เราปฏิบัติตาม  ดังดำรัสของอัลลอฮ์ ที่ว่า

قال الله تعالى قَدْ كَانَتْ لَكُمْ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌفِيْ إِبْرَاهِيْمَ وَالَّذِيْنَ مَعَهُ إِذْ قَالُوْا لِقَوْمِهِمْ  إِنَّا بُرَءآ ؤُا مِنْكُمْ وَمِمَّا تَعْبُدُوْنَ مِنْ دُوْنِ اللهِ كَفَرْنَا بِكُمْ وَبَدَابَيْنَنَا وَبَيْنَكُمُ الْعَدَاوَةُ وَالْبَغْضَآءُ أَبَدًاحَتىَّ تُؤْمِنُوْا بِاللهِ وَحْدَهُ ......... الآية  سورة الممتحنة  4 

“ แท้จริง ได้มีแบบอย่างอันดีงามสำหรับพวกเจ้ามาแล้วในตัวของอิบรอฮีมและบรรดาผู้ศรัทธาที่อยู่ร่วมกับเขา

เมื่อพวกเขากล่าวแก่กลุ่มชนของพวกเขาว่า แท้จริง เราขอปลีกตัวไม่ขอเกี่ยวข้องกับพวกท่าน

ด้วยการออกห่างจากพวกท่าน และบรรดาสิ่งที่พวกท่านเคารพบูชาอื่นจากอัลลอฮ์

เราขอปฏิเสธศรัทธาต่อศาสนาของพวกท่าน

และการเป็นศัตรู และการเกลียดชังในระหว่างพวกเรากับพวกท่านนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว

และจะยังคงอยู่ตลอดไปจนกว่าพวกท่านจะศรัทธาต่ออัลลอฮ์ องค์เดียวเท่านั้น  ”  

(อัลมุมตะฮินะฮฺ 60  / 4 )
                                                              

 

          การรักผู้ศรัทธาและโกรธเกลียดผู้ปฏิเสธศรัทธา นับเป็นส่วนหนึ่งจากแนวทางของท่านนะบีมุฮัมมัด    ด้วยเช่นกัน    ดังดำรัสของอัลลอฮ์ ที่ว่า

قال الله تعالى يَا أَيُّهَا الَّذِيْنَ آمَنُوْا لاَ تَتَّخِذُوا الْيَهُوْدَ وَالنَّصَارَى أَوْلِيَآءَ بَعْضُهُمْ أَوْلِيَآءُ بَعْضٍ وَمَنْ يَتَوَلَّهُمْ مِّنْكُمْ فَإِنَّهُ مِنْهُمْ إِنَّ اللهَ لاَ يَهْدِي الْقَوْمَ الظَّالِمِيْنَ       سورة المائدة 51 

“โอ้ บรรดาผู้ที่ศรัทธาแล้วทั้งหลาย พวกเจ้าอย่าได้ยึดเอาพวกยิว (ยะฮู๊ด) และพวกคริสต์ (นะซอรอ) มาเป็นมิตรสนิท

เพราะพวกเขาบางคนนั้นต่างก็เป็นมิตรสนิทซึ่งกันและกัน และผู้ใดที่ถือเอาพวกเขามาเป็นมิตรสนิท แน่นอน

เท่ากับว่าเขาผู้นั้นเป็นพวกของพวกเขาแล้ว แท้จริง อัลลอฮ์จะไม่ทรงนำทางให้แก่กลุ่มชนที่ก่ออธรรม ” 

(อัลมาอิดะฮฺ 5 / 51)

          และนี่คือคำสั่งห้ามมิให้มุสลิมเป็นมิตรสนิทกับบรรดาพวกยิวและพวกคริสต์  (อะฮฺลุลกิตาบ) นอกจากนั้น  อัลลอฮ์  ตะอาลา  ยังทรงห้ามมิให้เป็นมิตรสนิทกับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา (กุฟฟาร์) ทั่วไป อีกด้วย ดังดำรัสของอัลลอฮ์  ที่ว่า

قال الله تعالى  يَا أَيُّهَا الَّذِيْنَ آمَنُوْا لاَ تَتَّخِذُوْا عَدُوِّيْ وَعَدُوَّكُمْ أَوْلِيَآءَ ..... الآية          سورة الممتحنة  1 

“ โอ้ บรรดาผู้ที่ศรัทธาแล้วทั้งหลาย พวกเจ้าอย่าได้ยึดเอาศัตรูของข้า และศัตรูของพวกเจ้า  มาเป็นมิตรสนิท ” 

(อัลมุมตะฮินะฮ์ 60/1)

          และห้ามมิให้ผู้ศรัทธาเป็นมิตรสนิทกับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา(กุฟฟาร์) แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ที่สนิทชิดเชื้อที่สุดก็ตาม    ดังที่ อัลลอฮ์ ตรัสว่า

قال الله تعالى   يَا أَيُّهَا الَّذِيْنَ آمَنُوْا لاَ تَتَّخِذُوْا آبَآءَكُمْ وَإِخْوَانَكُمْ أَوْلِيَآءَ
 إِنِ اسْتَحَبُّوا الْكُفْرَ عَلَى الإِيْمَانِ وَمَنْ يَتَوَلَّهُمْ مِنْكُمْ فَأُولَئِكَ هُمُ الظَّالِمُوْنَ   سورة التوبة 23  

 “โอ้ บรรดาผู้ที่ศรัทธาแล้วทั้งหลาย พวกเจ้าอย่าได้ยึดเอาบรรดาบิดาของพวกเจ้า

และบรรดาพี่น้องของพวกเจ้าเป็นมิตรสนิท

หากพวกเขาเหล่านั้นชื่นชอบการปฏิเสธศรัทธายิ่งกว่าการศรัทธา

และผู้ใดในหมู่พวกเจ้ายึดเอาพวกเขาเป็นมิตรสนิทแล้ว ดังนั้น ชนเหล่านี้แหละ คือ บรรดาผู้ก่ออธรรม ”   

(อัตเตาว์บะฮ์ 9/ 23)

อัลลอฮ์   ทรงตรัสไว้อีกว่า

قال الله تعالى   لاَ تَجِدُ قَوْمًا يُؤْمِنُوْنَ بِاللهِ وَالْيَوْمِ الآخِرِ يُوَآدُّوْنَ مَنْ حَآدَّ اللهَ وَرَسُوْلَهُ وَلَوْ كَانُوْا آبَآءَهُمْ أَوْ أَبْنَآءَهُمْ أَوْ إِخْوَانَهُمْ أَوْ عَشِيْرَتَهُمْ  ....... الآية     سورة المجادلة  22

“ เจ้าจะไม่พบว่า มีกลุ่มชนใดที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และวันอาคิเราะฮ์

จะรักใคร่เทิดทูนผู้ที่ ต่อต้านอัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นบรรดาพ่อ ๆ ของพวกเขา หรือเป็นลูก ๆ ของพวกเขา

หรือเป็นพี่น้องของพวกเขาหรือเป็นเครือญาติของพวกเขาก็ตาม ”   

(อัลมุญาดะละฮฺ 58/22)

          มีผู้คนเป็นจำนวนมากที่โง่เขลาต่อหลักฐานนี้ จนกระทั่งข้าพเจ้าเองได้ยินลูกหลานของผู้มีวิชาความรู้และทำหน้าที่เผยแพร่ศาสนาอิสลาม บางคนพูดออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงบางสถานีถึงพวกคริสต์ (นะ-ซอรอ)ว่า “ พวกเหล่านี้เป็นพี่น้องของเรา ”    นี่ช่างเป็นคำพูดที่เป็นอันตรายเป็นอย่างยิ่ง !

         ทั้ง ๆ ที่อัลลอฮ์ ทรงห้ามมิให้เป็นมิตรสนิทกับบรรดาผู้ที่เป็นศัตรูต่อหลักเชื่อมั่นของอิสลาม แต่พระองค์ก็ทรงกำหนดให้เป็นมิตรสนิทกับบรรดาผู้ศรัทธาและรักใคร่พวกเขา ดังดำรัสของอัลลอฮ์ ที่ว่า

قال الله تعالى   إِنَّمَا وَلِيُّكُمُ اللهُ وَرَسُوْلُهُ وَالَّذِيْنَ آمَنُوا الَّذِيْنَ يُقِيْمُوْنَ الصَّلاَةَ وَيُؤْتُوْنَ الزَّكَاةَ وَهُمْ رَاكِعُوْنَ   وَمَنْ يَتَوَلىَّ اللهَ وَرَسُوْلَهُ وَالَّذِيْنَ آمَنُوْا فَإِنَّ حِزْبَ اللهِ هُمُ الْغَالِبُوْنَ   سورة المائدة   56-55

“ แท้จริง มิตรสหายสนิทของพวกเจ้านั้นคือ อัลลอฮ์  และเราะซูลของพระองค์

ตลอดจนบรรดาผู้ศรัทธาที่ดำรงละหมาด และจ่ายซะกาต ขณะเดียวกันพวกเขาเป็นผู้ที่นอบน้อม (ก้มรุกัวะ) 

และผู้ใดที่ให้อัลลอฮ์ และเราะซูลของพระองค์   ตลอดจนบรรดาผู้ศรัทธาเป็นมิตรสนิทแล้ว  

แท้จริง พรรคของอัลลอฮ์ คือฝ่ายที่ได้รับชัยชนะ ”  

(อัลมาอิดะฮ์ 5/55 -56)

และอัลลอฮ์ ตรัสว่า

قال الله تعالى   مُحَمَّدٌ رَّسُوْلُ اللهِ وَالَّذِيْنَ مَعَهُ أَشِدَّآءُ عَلَى الْكُفَّارِ رُحَمَآءُ بَيْنَهُمْ    سورة الفتح 29

“ มุฮัมมัดนั้น เป็นเราะซูลของอัลลอฮ์ และบรรดาผู้ที่อยู่ร่วมกับเขานั้น

เป็นผู้ที่แข็งกร้าวต่อบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา (กุฟฟาร) 

เป็นผู้ที่เอ็นดูเมตตาในระหว่างบรรดาพวกเขาด้วยกัน ”   

(อัลฟัตฮ์ 48/29)

และอัลลอฮ์ ตรัสว่า

قال الله تعالى   إِنَّمَا الْمُؤْمِنُوْنَ إِخْوَةٌ      سورة الحجرات  10

“ แท้จริง บรรดาผู้ศรัทธานั้น เป็นพี่น้องกัน ” 

(อัลฮุญุร็อต 4 /10)

          มุสลิมเป็นพี่น้องกันทั้งในด้านศาสนาและหลักเชื่อมั่น แม้ว่าเชื้อสายและถิ่นที่อยู่ ตลอดจนกาลเวลาจะห่างไกลกันแค่ไหนก็ตาม ดังที่อัลลอฮ์  ตรัสว่า

قال الله تعالى   وَالَّذِيْنَ جَآءُوْا مِنْ بَعْدِ هُمْ  يَقُوْلُوْنَ رَبَّنَا اغْفِرْ لَنَا وَلإِخْوَانِنَا الَّذِيْنَ سَبَقُوْنَا بِالإِيْمَانِ وَلاَ تَجْعَلْ فِي قُلُوْبِنَا غِلاًّ لِلَّذِيْنَ آمَنُوْا رَبَّنَا إِنَّكَ رَءُوْفٌ رَّحِيْمٌ {    سورة الحشر  10 
 

 

“ และบรรดาผู้ที่มาภายหลังจากพวกเขาได้กล่าวว่า โอ้ พระเจ้าของเรา

ขอพระองค์ทรงอภัยโทษให้แก่เรา และแก่พี่น้องของเรา ที่ได้ศรัทธามาก่อนหน้าเรา

และโปรดอย่าได้ให้มีความเคียดแค้นชิงชังต่อบรรดาผู้ศรัทธาที่มาก่อนหน้าเราในหัวใจของพวกเราเลย   

โอ้ พระเจ้าของเรา แท้จริง พระองค์ท่านนั้น เป็นผู้ทรงเอ็นดู เป็นผู้ทรงเมตตาเสมอ ”     

(อัลฮัชร์ 59/10)


          ดังนั้น บรรดาผู้ศรัทธานับตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของอิสลามจนกระทั่งถึงยุคสุดท้าย ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ห่างไกลกันแค่ไหน หรือระยะเวลาจะผ่านพ้นเนิ่นนานมาสักเพียงใดล้วนแต่เป็นพี่น้องกันทั้งสิ้น  ต่างรักใคร่กัน ชนรุ่นหลังปฏิบัติตามชนรุ่นแรก และต่างคนต่างก็ขอดุอาอ์ให้แก่กัน และขออภัยโทษจากอัลลอฮ์ ให้แก่กันและกัน

 

 

แปลและเรียบเรียงโดย  / อ.มาลิก   โยธาสมุทร