บทบาทหน้าที่ของคอลีฟะฮฺ
มุหัมมัด อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์
หน้าที่จำเป็นของคอลีฟะฮฺ (ผู้นำของบรรดามุสลิม) มีดังต่อไปนี้
1. การดำรงไว้ซึ่งศาสนา
โดยการปกปักรักษา เรียกร้องเชิญชวน ป้องกันให้พ้นจากสิ่งที่สงสัยคลุมเครือ ดำเนินการปกครองตามหลักการและขอบเขตด้วยกับบทบัญญัติที่อัลลอฮฺ ประทานลงมาให้แก่มวลมนุษยชาติ และทำการต่อสู้ ทุ่มเท เสียสละในหนทางของอัลลอฮฺ
อัลลอฮฺ ตรัสว่า
“แท้จริงอัลลอฮฺทรงใช้พวกเจ้าให้มอบคืนบรรดาของฝากแก่เจ้าของ ของมัน
และเมื่อพวกเจ้าตัดสินระหว่างผู้คน พวกเจ้าก็จะต้องตัดสินด้วยความยุติธรรม
แท้จริงอัลลอฮฺทรงแนะนำพวกเจ้าด้วยสิ่งซึ่งดีจริง ๆ แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงได้ยินและได้เห็น”
(อันนิสาอฺ : 58)
2. เลือกผู้ปกครองที่มีความเหมาะสม
อัลลอฮฺ ตรัสว่า
“แท้จริงคนดีที่ท่านควรจะจ้างเขาไว้คือ ผู้ที่แข็งแรง ผู้ที่ซื่อสัตย์”
(อัลกอศ็อศ : 26)
3. ผู้นำคอยตรวจสอบเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
عن أبي حُـميدٍ الساعدي رضي الله عنه قال: اسْتَعْمَلَ النَّبِيُّ ﷺ رَجُلاً مِنَ الأزْدِ يُـقَالُ لَـهُ ابنُ اللتْبِيَّةِ عَلَى الصَّدَقَةِ، فَلَـمَّا قَدِمَ قَالَ: هَذَا لَكُمْ وَهَذَا أُهْدِيَ لِي قَالَ: «فَهَلَّا جَلَسَ فِي بَيْتِ أَبِيهِ، أَوْ بَيْتِ أُمِّهِ فَيَنْظُرَ أَيُـهْدَى لَـهُ أَمْ لا؟ وَالَّذِي نَفْسِي بِيَدِهِ لا يَأْخُذُ أَحَدٌ مِنْـهُ شَيْئاً إلَّا جَاءَ بِـهِ يَومَ القِيَامَةِ يَـحْـمِلُـهُ عَلَى رَقَبَتِـهِ إنْ كَانَ بَـعِيراً لَـهُ رُغَاءٌ، أَوْ بَقَرَةً لَـهَا خُوَارٌ، أَوْ شَاةً تَيْـعَرُ» ثُمَّ رَفَعَ بِيَدِهِ حَتَّى رَأَيْنَا عُفْرَةَ إبْطَيْـهِ: «اللَّـهُـمَّ هَلْ بَلَّغْتُ، اللَّـهُـمَّ هَلْ بَلَّغْتُ» ثَلاثاً. متفق عليه
จากอบีฮุมัยดฺ อัสสาอิดียฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้แต่งตั้งผู้ชายคนหนึ่งที่มาจากอัลอัซดิซึ่งถูกเรียกว่าอิบนุอัลลัตบียะฮฺให้เป็นผู้จัดเก็บซะกาต
เมื่อเขาเดินทางกลับมาเขากล่าวว่า ส่วนนี้สำหรับพวกท่านและอันนี้พวกเขามอบให้เป็นของกำนัลแก่ฉัน
"ท่านนบีกล่าวว่า หากเขานั่งรออยู่ภายในบ้านของบิดาหรือบ้านมารดาเขาจะได้รับของกำนัลหรือไม่ ? ขอสาบานต่อผู้ที่ชีวิตของฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ไม่มีสิ่งใดที่มีผู้เอาไป นอกจากในวันกิยามะฮฺเขาจะแบกมันไว้บนต้นคอถึงแม้จะเป็นอูฐที่มันร้องคราง หรือวัวที่ร้องครวญคราง หรือแพะที่เป็นโรคเรื้อน
ต่อจากนั้นท่านนบีได้ยกมือขึ้นสูงจนกระทั่งพวกเราเห็นรักแร้ และกล่าวว่า โอ้อัลลอฮฺฉันได้บอกพวกท่านแล้วใช่หรือไม่ (สามครั้ง) "
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 2597 เป็นสำนวนของท่าน , มุสลิม หมายเลขหะดีษ 1832)
4. คอยสอดส่องดูแลผู้อยู่ภายใต้การปกครองและบริหารกิจการของพวกเขา
عن ابن عمر رضي الله عنهما عن النبي ﷺ أنه قال: «أَلا كُلُّكُمْ رَاعٍ، وَكُلُّكُمْ مَسْؤُولٌ عَنْ رَعِيَّتِـهِ، فَالأَمِيرُ الَّذِي عَلَى النَّاسِ رَاعٍ، وَهُوَ مَسْؤُولٌ عَنْ رَعِيَّتِـهِ...». متفق عليه
จากอิบนิอุมัร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า
”พึงรู้เถิด พวกท่านทั้งหลายมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบและพวกท่านจะถูกสอบสวนในสิ่งที่รับผิดชอบ
ดังนั้น ผู้นำจะต้องรับผิดชอบต่อผู้ที่อยู่ภายใต้การดูแล และเขาจะถูกสอบสวนต่อผู้ที่เขารับผิดชอบดูแล...”
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 893, มุสลิม หมายเลขหะดีษ 1829 เป็นสำนวนของท่าน)
5. เมตตาอ่อนโยนต่อผู้อยู่ภายใต้การปกครอง คอยตักเตือนและไม่เปิดเผยความลับของพวกเขา
عن معقل بن يسار رضي الله عنه قال: سمعت رسول الله ﷺ يقول: «مَا مِنْ أَمِيْرٍ يَلِي أَمْرَ المُسْلِـمِين، ثُمَّ لا يَـجْهَدُ لَـهُـمْ وَيَنْصَحُ، إلَّا لَـمْ يَدْخُلْ مَعَهُـمُ الجَنَّةَ». أخرجه مسلم
จากมะอฺก็อล บิน ยะสาร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า
“ไม่มีผู้นำคนใดที่ได้รับแต่งตั้งให้รับผิดชอบกิจการของมวลมุสลิม จากนั้นเขาไม่ได้ใช้ความพยายามหรืออบรมตักเตือนต่อพวกเขา
นอกจากเขาจะไม่ได้เข้าสวนสวรรค์พร้อมกับพวกเขา”
(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลขหะดีษ 142)
6. เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อยู่ภายใต้การปกครอง
อัลลอฮฺ ตรัสว่า
“และทรงทำให้เราเป็นแบบอย่างแก่บรรดาผู้ยำเกรง”
(อัลฟุรกอน : 74)
อัลลอฮฺ ตรัสว่า
“และเราได้จัดให้มีบรรดาผู้นำจากพวกเขา เพื่อจะได้ชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องตามคำบัญชาของเรา
ในเมื่อพวกเขามีความอดทนและพวกเขาเชื่อมั่นต่อสัญญาณทั้งหลายของเรา”
(อัสสัจญดะฮฺ : 24)
สิทธิของคอลีฟะฮฺหน้าที่จำเป็นของผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองที่มีต่อผู้นำ มีดังต่อไปนี้
1. เชื่อฟังปฏิบัติตามในสิ่งที่ไม่ฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ
อัลลอฮฺ ตรัสว่า
“โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงเชื่อฟังอัลลอฮฺเชื่อฟังรอสูลเถิด และผู้ปกครองในกลุ่มของพวกเจ้าด้วย
แต่หากพวกเจ้าขัดแย้งกันในสิ่งใด ก็จงนำสิ่งนั้นกลับไปยัง อัลลอฮฺ และรอสูล
หากพวกเจ้าศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันปรโลก นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดียิ่งและเป็นการกลับไปที่สวยงามยิ่ง”
(อันนิสาอฺ : 59)
عن ابن عمر رضي الله عنهما عن النبي ﷺ أنه قال: «عَلَى المَرْءِ المُسْلِـمِ السَّمْعُ وَالطَّاعَةُ فِيْـمَا أَحَبَّ وَكَرِهَ، إلا أَنْ يُؤْمَـرَ بِمَعْصِيَةٍ، فَإنْ أُمِرَ بِمَعْصِيَةٍ فَلا سَمْعَ وَلا طَاعَةَ». متفق عليه
จากอิบนิอุมัร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า
”นับเป็นความจำเป็นต่อมุสลิมที่จะต้องเชื่อฟังปฏิบัติตาม (ผู้นำ) ทั้งในสิ่งที่เขารักและชัง
ยกเว้นกรณีที่เขาใช้ในเรื่องที่ฝ่าฝืน หากถูกใช้ให้ฝ่าฝืนไม่จำเป็นต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตาม”
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7144, มุสลิม หมายเลขหะดีษ 1839 เป็นสำนวนของท่าน)
2. ให้การแนะนำตักเตือน
عن تميم الداري رضي الله عنه أن النبي ﷺ قال: «الدِّيْنُ النَّصِيحَةُ» قلنا: لمن؟ قال: « لله وَلِكَتَابِـهِ وَلِرَسُولِـهِ وَلأَئِمَّةِ المُسْلِـمِينَ وَعَامَّتِـهِـمْ». أخرجه مسلم
จากตะมีม อัดดารียฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า
แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า “ศาสนาคือการตักเตือน
พวกเรากล่าวว่า เพื่อใคร?
ท่านนบีตอบว่า เพื่ออัลลอฮฺ เพื่อคัมภีร์ของพระองค์ เพื่อรอสูลของพระองค์ เพื่อบรรดาผู้นำของมวลมุสลิม และเพื่อบรรดาคนทั่วไป”
(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลขหะดีษ 55)
3. ช่วยเหลือและสนับสนุนต่อผู้นำในเรื่องสัจธรรม
อัลลอฮฺ ตรัสว่า
“และพวกจงช่วยเหลือกันในสิ่งที่เป็นคุณธรรมและความยำเกรง
และจงอย่าช่วยกันในสิ่งที่เป็นบาปและเป็นศัตรูกัน
และพึงกลัวเกรงอัลลอฮฺเถิด แท้จริงอัลลอฮฺนั้นเป็นผู้ทรงรุนแรงในการลงโทษ”
(อัลมาอิดะฮฺ : 2)
แปลโดย : ยูซุฟ อบู บักรฺ / Islam House