การสืบตำแหน่งผู้ปกครอง
มุหัมมัด อิบรอฮีม อัต-ตุวัยญิรีย์
บทบัญญัติว่าด้วยการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ปกครอง (อัลคิลาฟะฮฺ)
การแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำแก่บรรดามวลมุสลิมนับเป็นความจำเป็น เพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ของศาสนาอิสลาม บริหารจัดการกิจการของมุสลิม ดำรงบทลงโทษ รักษาสิทธิต่างๆ ปกครองด้วยกับสิ่งที่อัลลอฮฺประทานลงมา สั่งใช้เรื่องของความดีงาม ห้ามปรามเรื่องของความชั่วช้า และเรียกร้องเชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ อัลลอฮฺตรัสความว่า
“โอ้ดาวุดเอ๋ย เราได้แต่งตั้งเจ้าให้เป็นตัวแทนในแผ่นดินนี้ ดังนั้นเจ้าจงตัดสินคดีต่าง ๆ ระหว่างมนุษย์ด้วยความยุติธรรมและอย่าปฏิบัติตามอารมณ์ใฝ่ต่ำ มันจะทำให้เจ้าหลงไหลจากทางของอัลลอฮฺ แท้จริงบรรดาผู้ที่หลงไปจากทางของอัลลอฮฺนั้น สำหรับพวกเขาจะได้รับการลงโทษอย่างสาหัสเนื่องด้วยพวกเขาลืมวันแห่งการชำระบัญชี”
(ศอด : 26)
รูปแบบในการสรรหาผู้นำ
รูปแบบการสรรหาผู้นำให้ยึดปฏิบัติเอาประการหนึ่งประการใด ดังต่อไปนี้
1. โดยประชามติจากบรรดามวลมุสลิม การแต่งตั้งให้เป็นผู้นำจะเสร็จสมบูรณ์ด้วยการทำสัตยาบันของบรรดาผู้มีบทบาทสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการผู้มีความรู้ บรรดาผู้มีคุณธรรม บรรดาผู้ที่เป็นที่ยอมรับมีตำแหน่งสูง และบรรดาแกนนำกลุ่มต่างๆ
2. ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำโดยมีการระบุ (เป็นลายลักษณ์อักษร) จากผู้นำที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ก่อนจากเขา
3. โดยการปรึกษาหารือ (ระบบชูรอ) ของบรรดาแกนนำผู้มีความยำเกรงที่ถูกกำหนดขึ้นเป็นจำนวนเฉพาะ แล้วจึงมีมติให้คนหนึ่งคนใดจากพวกเขาเป็นผู้นำ
4. เข้าปกครองประชาชนโดยวิธีการใช้กำลังจนกระทั่งพวกเขายอมจำนน และยอมรับเขาว่าเป็นผู้นำ ดังนั้นนับว่าเป็นความจำเป็นที่ผู้อยู่ภายใต้การดูแลของเขาจะต้องเชื่อฟังปฏิบัติตามในสิ่งที่ไม่เป็นการฝ่าฝืนต่ออัลลอฮฺ
การเป็นตัวแทนของอัลลอฮฺในผืนดิน (อัลคิลาฟะฮฺ) จะเกิดขึ้นด้วยกับการศรัทธาและการประกอบคุณงามความดี อัลลอฮฺตรัสความว่า
“อัลลอฮฺทรงสัญญากับบรรดาผู้ศรัทธาในหมู่พวกเจ้า และบรรดาผู้กระทำความดีทั้งหลายว่า แน่นอนพระองค์จะทรงให้พวกเขาเป็นตัวแทนสืบช่วงในแผ่นดิน เสมือนดังที่พระองค์ทรงให้บรรดาชนก่อนพวกเขาเป็นตัวแทนสืบช่วงมาก่อนแล้ว และพระองค์จะทรงทำให้ศาสนาของพวกเขาซึ่งพระองค์ทรงโปรดปรานเป็นที่มั่นคงเป็นเกียรติแก่พวกเขา
และแน่นอนพระองค์จะทรงเปลี่ยนแปลงให้พวกเขาได้รับความปลอดภัยหลังจากความกลัวของพวกเขา โดยที่พวกเขาจะต้องเคารพภักดีข้าไม่ตั้งภาคีอื่นใดต่อข้า และผู้ใดปฏิเสธศรัทธาหลังจากนั้น ชนเหล่านั้นพวกเขาคือผู้ฝ่าฝืน”
(อันนูร : 55)
ตำแหน่งตัวแทนของอัลลอฮฺ (อัลคิลาฟะฮฺ) เป็นของชาวกุเรชและมวลมนุษยชาติจะเป็นผู้ปฏิบัติตามชาวกุเรช
1. จากมุอาวียะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านรอสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
“แท้จริงในกิจการนี้ (อัลคิลาฟะฮฺ) เป็นของชาวกุเรช
ไม่มีผู้ใดเป็นปฏิปักษ์ต่อพวกเขานอกจากอัลลอฮฺจะให้ใบหน้าของเขาคว่ำลงในนรก ตราบใดที่พวกเขายังคงดำรงอยู่ในศาสนา”
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7139)
2. จากอิบนุ อุมัร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัมกล่าวว่า
“กิจการนี้ (คิลาฟะฮฺ) ยังคงเป็นของชาวกุเรช ตราบใดที่พวกเขายังคงเหลืออยู่ถึงแม้สองคนก็ตาม”
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 3501 , มุสลิม หมายเลขหะดีษ 1820)
3. จากอบูฮุรัยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า ท่านรอสูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
“มนุษยชาติจะปฏิบัติตามพวกกุเรชในกิจการด้านนี้ (คิลาฟะฮฺ) บรรดาผู้ที่ศรัทธาจะปฏิบัติตามผู้ศรัทธาของพวกเขา
และบรรดาผู้ที่ปฏิเสธจะปฏิบัติตามผู้ปฏิเสธของพวกเขา”
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 3495 , มุสลิม หมายเลขหะดีษ 1818)
ห้ามการร้องขอหรือแสวงหาตำแหน่งผู้นำ
1. จากอับดุรเราะฮฺมาน บิน สะมุเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวกับฉันว่า
“โอ้อับดุรเราะฮฺมาน บิน สะมุเราะฮฺท่านอย่าได้ร้องขอตำแหน่งผู้นำ
หากท่านได้รับตำแหน่งโดยการร้องขอท่านก็จะถูกกิน (โดยไม่มีใครสนใจ)
แต่หากท่านได้รับตำแหน่งโดยไม่ได้ร้องขอท่านก็จะได้รับการช่วยเหลือ...”
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7147 , มุสลิม หมายเลขหะดีษ 1652)
2. จากอบีฮุรัยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
“แท้จริงพวกท่านมีความพยายามที่จะแสวงหาตำแหน่งผู้นำกัน และตำแหน่งนั้นมันจะทำให้เสียใจในวันกิยามะฮฺ
ดังนั้นความดีงามจะเป็นของผู้ที่ให้นม และความเลวร้ายจะได้กับผู้ที่หย่านม”
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7148)
3. จากอบีมูสา เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า
"ฉันได้เข้าไปหาท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม พร้อมกับชายที่มาจากเผ่าของฉันอีกสองคน
คนหนึ่งกล่าวว่า โอ้ท่านรอสูลุลลอฮฺจงแต่งตั้งเราให้เป็นผู้นำ ส่วนอีกคนก็กล่าวเหมือนกับคนแรก
ท่านรอสูลตอบว่า แท้จริงในกิจการนี้เราจะไม่แต่งตั้งแก่ผู้ที่ร้องขอและผู้ที่พยายามแสวงหามัน”
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7149 , มุสลิม หมายเลขหะดีษ 1733)
ให้พยายามออกห่างจากการเป็นผู้นำโดยเฉพาะผู้ที่มีความอ่อนแอในการจะปฏิบัติตามหน้าที่
จากอบีซัร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า
ฉันกล่าวว่า "โอ้ท่านรอสูลุลลอฮฺท่านไม่ให้ฉันเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือ?"
ดังนั้นท่านรอสูลได้เอามือมาวางไว้ที่บนไหล่ของฉัน แล้วกล่าวว่า
" โอ้อบูซัร แท้จริงท่านเป็นคนอ่อนแอ ตำแหน่งผู้นำเป็นภาระหน้าที่ที่หนัก และในวันกิยามะฮฺจะขาดทุนและเสียใจ
นอกจากผู้ที่รับมันมาด้วยกับสิทธิหน้าที่และได้ปฏิบัติไปตามหน้าที่อันนั้น”
(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลขหะดีษ 1825)
ความประเสริฐของผู้นำที่มีความยุติธรรมและโทษทัณฑ์ของผู้นำที่อธรรม
1. อัลลอฮฺตรัสความว่า
“และพวกเจ้าจงให้ความเที่ยงธรรม (แก่ทั้งสองฝ่าย) เถิด แท้จริงอัลลอฮฺทรงรักใคร่บรรดาผู้ให้ความเที่ยงธรรม”
(อัลฮุญุรอต : 9)
2. จากอบีฮุรัยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ จากท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
"มีบุคคล 7 ประเภทที่จะได้อยู่ภายใต้ร่มเงาของอัลลอฮฺตะอาลาในวันที่ไม่มีร่มเงาอันใด นอกจากร่มเงาของพระองค์
หนึ่ง..ผู้นำที่มีความยุติธรรม สอง..คนหนุ่มที่เติบโตขึ้นมาโดยการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺ...”
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 1423 , มุสลิม หมายเลขหะดีษ 1031)
3. จากอับดุลลอฮฺ บิน อัมรฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา กล่าวว่า ท่านรอสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า
“แท้จริงบรรดาผู้ที่ให้ความยุติธรรม ณ ที่อัลลอฮฺเขาจะได้อยู่บนมิมบัรแห่งรัศมีซึ่งอยู่ทางด้านขวาของอัรเราะฮฺมาน (ผู้ทรงปราณี) อัซซาวะญัลลา ในขณะที่มือทั้งสองของพระองค์ทรงมีความดีงาม ความศิริมงคล พวกเขาคือบรรดาผู้ซึ่งให้ความยุติธรรมในการปกครอง และผู้อยู่ภายใต้การรับผิดชอบดูแลของพวกเขา และสิ่งที่พวกเขาได้ปกครอง”
(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลขหะดีษ 1827)
4. จากมะอฺก็อล บิน ยะสาร เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านรอสูลุลลอฮฺศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า
“ไม่มีบ่าวคนใดที่อัลลอฮฺได้ให้เขาปกครองผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครองของเขากลุ่มหนึ่ง และได้เสียชีวิตในสภาพที่เขาคดโคงต่อผู้ที่อยู่ภายใต้การปกครอง ยกเว้นอัลลอฮฺจะหักห้ามเขาจากการเข้าสวนสวรรค์”
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7150 , มุสลิม หมายเลขหะดีษ 142)
ตำแหน่งตัวแทนหรือตำแหน่งผู้นำต้องเป็นผู้ชายต้องไม่ใช่ผู้หญิง
จากอบูบักเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ กล่าวว่า อัลลอฮฺได้ทำให้ฉันได้รับประโยชน์ด้วยกับคำคำหนึ่งในช่วงสมรภูมิอัลญะมัล เมื่อมีข่าวไปถึงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัมว่า แท้จริงพวกเปอร์เซียได้มอบให้บุตรสาวของไกเซอร์ (กิสรอ) ขึ้นเป็นกษัตริย์ ท่านจึงกล่าวว่า
“กลุ่มชนหนึ่งกลุ่มชนใดจะไม่ได้รับความสำเร็จเป็นอันขาด
การที่พวกเขาแต่งตั้งให้ผู้หญิงเป็นผู้ปกครองดูแลกิจการของพวกเขา”
(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลขหะดีษ 7099 )
แปลโดย : ยูซุฟ อบู บักรฺ / Islam House