เลี้ยงญิน
  จำนวนคนเข้าชม  23568
 

 

เลี้ยงญิน

 

โดย ... อุมม์รอชิด

มุสลิมเลี้ยงญินได้อย่างนั้นหรือ !

          หมู่บ้านมุสลิมที่หนึ่ง หรืออีกหลายๆแห่ง จะมี"โต๊ะหมอ" ประจำหมู่บ้าน หรือที่ต่างศาสนิกเรียกว่า "หมอผี"และ"หมอดู"ประจำหมู่บ้าน โต๊ะหมอพวกนี้จะเลี้ยงญิน และมีความสามารถพิเศษที่ได้รับมาจากญิน เช่น ทำนายดวงชะตา รักษาคนป่วยในหมู่บ้านให้หายด้วยวิธีทางไสยศาสตร์ ทำให้ชาวบ้านเชื่อถือในวิชาความรู้ และเป็นดาวเด่นประจำหมู่บ้าน ใครมีอะไรก็ต้องไปถามโต๊ะหมอ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่น่าแปลกนักถ้าเป็นหมู่บ้านชุมชนของคนต่างศาสนิกที่ไม่ใช่มุสลิม แต่ที่น่าแปลกใจเมื่อหมู่บ้านนั้น หรือชุมชนนั้นประกาศตนว่าเป็นมมุสลิม นับถือศาสนาอิสลาม ที่มีพระองค์อัลลอฮ์ เป็นพระเจ้าองค์เดียว โดยจะไม่นับถือหรือเชื่อสิ่งอื่นนอกจากพระองค์เท่านั้น แต่กลับทำ ชิริก คือการเชื่อโต๊ะหมอในเรื่องการดูดวง ทำไสยศาสตร์ การรักษาโรคด้วยคาถาอาคมหรือของร้อน แม้แต่การเดินทางยังต้องดูฤกษ์งามยามดีเสียอีก

"และเจ้าจงยั่วยวนผู้ที่เจ้าสามารถทำให้เขาหลงในหมู่พวกเขาด้วยเสียงของเจ้า และชักชวนพวกเขาให้เห็นพ้องด้วยด้วยม้าของเจ้าและด้วยเท้าของเจ้า

และจงร่วมกับพวกเขาในทรัพย์สินและลูกหลาน และจงสัญญาพวกเขา และชัยฏอนมิได้ให้สัญญาใดๆ แก่พวกเขา เว้นแต่เป็นการหลอกลวงเท่านั้น"

(อัลอิสรอ / 64)

         มุสลิม กับความเชื่อเรื่องโต๊ะหมอ จึงดูเหมือนกลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญเสียแล้ว และกลายเป็นแฟชั่นเพราะถ้าหมู่บ้านไหนไม่มีคนประเภทโต๊ะหมอสงสัยจะเชย โดยที่ชาวบ้านไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคือ การทำ"ชิริก"ถึงขั้นทำให้พวกเขาตกศาสนากลายเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธา  และเป็นที่น่าแปลกที่เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นในชุมชนใหญ่ของมุสลิม และจะยิ่งน่าประหลาดใจมากถ้าโต๊ะหมอคนนั้นอ้างตนเป็นผู้มีความรู้ทางศาสนา เข้าใจอัลกุรอาน โดยใช้อัลกุรอานในการทำคุณไสย์ และยิ่งน่าตกใจเมื่อผู้ที่มีความรู้ในชุมชนนั้นไม่ช่วยกันกระตุ้นให้ชาวบ้านได้รับรู้ถึงการกระทำแบบนั้นว่ามันเป็น "ชิริก" เป็นสิ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ไม่ทรงให้อภัยอย่างเด็ดขาด เป็นสิ่งที่ทำให้ตกศาสนาและนำไปสู่หนทางของนรกโลกันต์

 

"และอย่าให้พวกเขาหันเหเจ้าจากโองการทั้งหลายของอัลลอฮ์ หลังจากที่มันได้ถูกประทานลงมาแก่เจ้า

และจงเชิญชวนไปสู่พระเจ้าของเจ้า และอย่าอยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคี"

(อัลเกาะศอด / 87)

         ดูเหมือนว่าการทำชิริก ได้กลายเป็นเรื่องเล็กในสังคมมุสลิม ตกศาสนาเดี๋ยวก็ปฏิญาณตนเข้ามาใหม่ได้ ตกแล้วก็เข้าอีก เข้าๆออกๆจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไป เพราะสังคมมุสลิมไม่มีบทลงโทษสำหรับผู้ออกจากศาสนาอิสลาม และไม่มีบทลงโทษสำหรับผู้ทำ"ชิริก"อย่างจริงจัง ตามประวัติศาสตร์ท่านนะบีมุฮัมมัด  จะไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวและคบหากับผู้ที่ทำ"ชิริก"อย่างเด็ดขาด เพราะบุคคลนั้นเชื่อและศรัทธาสิ่งอื่นจากอัลลอฮ์  แต่ถ้าพวกเขาอยู่ในสภาพมุสลิม ในสังคมมุสลิม แต่งกายเหมือนมุสลิม และปฏิบัติต่อหน้าดังเช่นมุสลิมปฏิบัติกัน ตามประวัติศาสตร์ชนกลุ่มนี้อยู่ในจำพวก "มุนาฟิก" คือ พวกกลับกลอก นั่นเอง

 

 

“พวกเขามิได้รู้ดอกหรือว่า แท้จริงผู้ใดที่ฝ่าฝืนอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์

แน่นอนสำหรับเขานั้นคือไฟนรกญะฮันนัมโดยที่เขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาล นั่นแหละคือความอัปยศอันใหญ่หลวง”

 (อัตเตาบะฮ์ / 63)

          โทษของผู้ที่รู้แต่ไม่ปฏิบัติตาม แน่นอนย่อมหนักกว่าผู้ที่ไม่รู้ ดังเราจะเห็นว่า ผู้รู้ที่ไม่ปฏิบัติตามความรู้นั้นย่อมมีโทษมากกว่าผู้ที่ไม่มีความรู้ เช่นเดียวกัน โต๊ะหมอที่อ้างว่าเป็นมุสลิมและใช้อัลกุรอานในทางที่ผิด(ทำ"ชิริก") ย่อมได้รับการลงโทษที่สาหัสมากกว่า หมอผี หรือหมอดู ในชนต่างศาสนิก

" และผู้ใดที่ฝ่าฝืนร่อซูล หลังจากที่คำแนะนำอันถูกต้องได้ประจักษ์แก่เขาแล้ว และเขายังปฏิบัติตามที่มิใช่ทางของบรรดาผู้ศรัทธา นั้น

เราก็จะให้เขาหันไปตามที่เขาได้หันไป และเราจะให้เขาเข้านรกญะฮันนัม และมันเป็นทางกลับอันชั่วร้าย"

(อัล นิซาอ์ / 115)

          แท้จริงจะเห็นได้กับตา หรือได้ยินว่า บรรดาโต๊ะหมอ หมอดู หมอผีทั้งหลาย พวกเหล่านี้ไม่เคยมีความสุขในทรัพย์สินที่เขาหามาได้  และจุดจบของบรรดาพวกเขาจะมีแต่ความทรมานอันแสนสาหัส หรือเรียกว่า "ไม่ตายดี" นั่นเอง

          หลายคนจะบอกว่า สิ่งที่บรรดาโต๊ะหมอพูดหรือบอกออกมานั้นตรงกับความจริงบางอย่างที่เกิดขึ้น แล้วทำไมฉันจะเชื่อเขาไม่ได้หล่ะ ?  ถ้ามนุษย์ที่ไร้ค่าพวกนั้นพูดหรือบอกออกมาท่านยังเชื่อ แล้วทำไม ! สิ่งที่พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงยิ่งใหญ่ ผู้ทรงสร้างมนุษย์ที่ต่ำต้อยทั้งหลาย ทำไม  ! ท่านถึงไม่เชื่อในสิ่งที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงกล่าวไว้หล่ะ ?

" และเมื่ออายาตทั้งหลายของเราถูกอ่านให้แก่เขา เขาก็ผินหลังให้อย่างจองหอง  ประหนึ่งว่าเขาไม่ได้ยินอายาตนั้นๆ ประหนึ่งว่าในหูของเขานั้นหนวก

 ดังนั้น จงแจ้งข่าวแก่เขาถึงการลงโทษอันเจ็บปวด "

(ลุกมาน / 7)

          ดังจะเห็นว่าความเชื่อต่างๆที่นอกเหนือจากสิ่งที่อัลลอฮ์ ทรงตรัสไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน เป็นความเชื่อที่งมงายที่ได้เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ และจะเห็นได้ว่าถ้าบ้านไหน ชุมชนไหน และสังคมไหนก็ตาม ที่เชื่อสิ่งอื่นนอกเหนือกจากอัลลอฮ์    บ้านนั้น ชุมชนนั้น และสังคมนั้นจะมีแต่ความตกต่ำ หาความจำเริญไม่ได้ จะมีแต่ความอิจฉาริษยา แก่งแย่งชิงดี มีแต่ความแตกแยกในสังคม เห็นใครดีกว่าเด่นกว่าก็จ้องจะทำร้าย ทำลายให้ได้รับความเสียหาย ไม่ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเอง (ขออัลลอฮ์  ให้เรารอดพ้นจากสังคมเหล่านั้นด้วยเถิด)

         คำพูดจากปากของโต๊ะหมอ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งว่า : บ้านอื่นฉันเข้าได้หมด เหลือเพียงบ้านนี้บ้านเดียวที่ฉันไม่สามารถเข้าไปได้

เมื่อเข้าไปสำรวจบ้านหลังนั้นจะพบว่า เป็นบ้านที่อ่านอัลกุรอานเป็นประจำ ละหมาดครบทุกเวลาไม่เคยขาด ผู้หญิงอยู่บ้านเลี้ยงดูลูก ไม่ออกไปฟิตนะฮ์ใดๆนอกบ้าน ผู้ชายทำงานดูแลค่าใช้จ่ายในบ้าน ปฏิบัติตนตามบทบัญญัติอัลอิสลาม และซุนนะฮ์ท่านนะบีมุฮัมมัด   ทุกคนอยู่อย่างพอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อ และพอใจในความเป็นอยู่ของตน  แต่อัลลอฮ์ ได้ประทานความบารอกัตให้ในบ้านหลังนั้นอย่างมากมาย จากที่เป็นบ้านคนธรรมดาๆ ลูกๆเรียนศาสนา ซึ่งชาวบ้านมักจะดูถูกว่าเรียนศาสนาแล้วจะทำอะไรกิน จะรวยได้อย่างไร ! แต่พระองค์ทรงทำให้พวกเขาร่ำรวยมีเงินทองมากที่สุดในหมู่บ้าน  ด้วยอนุมัติของพระองค์ ลูกๆได้เรียนศาสนากันทุกคน จบมาแล้วสามารถทำธุรกิจกับต่างประเทศได้ และยืนหยัดในหลักการให้มากที่สุดเท่าทีความสามารถในแต่ละคนพึงมี และตักเตือนกันด้วยความรักใคร่ซึ่งกันและกัน 

 

“แท้จริงบรรดาผู้ที่ยำเกรงนั้น เมื่อมีคำชี้นำใด ๆ จากชัยฏอนประสบแก่พวกเขา พวกเขาก็รำลึกได้ แล้วทันใดพวกเขาก็มองเห็น" 

 (อัลอะอรอฟ/ 201)

          ผู้ที่เป็นมุสลิมต้องเชื่อและศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮ์ เพียงพระองค์เดียวเท่านั้น แล้วญินจะไม่สามารถเข้าไปในบ้านท่านได้ ไม่สามารถทำอันตรายใดๆในบ้านท่านได้ วิธีเพียงง่ายๆในการปกป้องตนเอง และครอบครัว คือการศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮ์  ปฏิบัติตามซุนนะฮ์ของท่านนะบีมุฮัมมัด  ยึดหลักการและบทบัญญัติของอัลอิสลาม อยู่ให้ห่างไกลจากคนชั่ว คนเลว คนที่นินทาว่าร้าย คนไม่ดี และบรรดาชัยฏอนทั้งหลาย แล้วครอบครัวของท่านจะเป็นหนึ่งในหมู่ผู้ที่ได้รับความสุขทั้งในโลกนี้ และโลกหน้า(อาคิเราะฮ์) อย่างแน่นอน

"ด้วยคัมภีร์นั้นแหละ อัลลอฮ์จะทรงแนะนำผู้ที่ปฏิบัติตามความพึงพระทัยของพระองค์  ซึ่งบรรดาทางแห่งความปลอดภัย 

และจะทรงให้พวกเขาออกจากความมืดไปสู่แสงสว่างด้วยอนุมัติของอัลลอฮ์ และจะทรงแนะนำพวกเขาสู่ทางอันเที่ยงตรง "

(อัลมาอิดะฮ์ / 16)

 "แท้จริง บรรดาผู้ศรัทธาและประกอบคุณงามความดีทั้งหลายนั้น พระผู้ทรงกรุณาปรานีจะทรงโปรดปรานให้ความรักใคร่แก่พวกเขา"

(มัรยัม / 96)