สร้าง 7 พฤติกรรมดี สร้างเด็กมีสุขในโลกทุนนิยม
  จำนวนคนเข้าชม  17050

สร้าง 7 พฤติกรรมดี สร้างเด็กมีสุขในโลกทุนนิยม
 
 

       คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ในโลกทุนนิยมนี้ ไม่เพียงแต่ผู้ใหญ่ที่ถูกปั่นให้หลงไปตามกระแส เด็ก ๆ อีกจำนวนมากก็ยังตกอยู่ในภาวะ "ไร้สุข" ไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองเป็น หรือมีอยู่ การเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อน ๆ ในเรื่องวัตถุที่ครอบครองมีสูง ซึ่งการจะปลูกฝังให้เด็ก ๆ ก้าวไปอย่างถูกต้องนั้น คนเป็นพ่อแม่หลีกหนีความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ค่ะ เพราะเด็ก ๆ หลายคน เมื่อเผชิญหน้ากับการเปรียบเทียบสิ่งที่ตัวเองมี - ไม่มี ก็อาจนำไปสู่ความน้อยเนื้อต่ำใจ อิจฉา จนกลายเป็นพฤติกรรมแกล้งเพื่อน ทำร้ายเพื่อน เพื่อกลบความรู้สึกด้อยค่าในตัวเองได้ในที่สุด
      
       วันนี้ ขอนำเสนอลักษณะนิสัยดี ๆ 7 ประการที่พ่อแม่สามารถทำเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น และช่วยให้เด็กที่เรียนรู้ในสิ่งเหล่านี้สามารถอยู่รอดได้อย่างมีความสุขในโลกแห่งทุนนิยมมาฝากกันค่ะ
      
       1. พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่
      
       ข้อนี้ พ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดีที่เด็กสามารถดูเป็นตัวอย่างได้ เช่น ถ้าทัศนคติของพ่อแม่ต่อรถคันเก่งของบ้านเป็นไปในลักษณะที่ว่า รถคันนี้ยังวิ่งได้ดีอยู่เลย ไม่ซื้อใหม่ก็ไม่เป็นหนี้ เด็ก ๆ ก็จะซึมซับความรู้สึก "พอเพียง" เหล่านั้นเอาไว้ และวันหนึ่งเด็ก ๆ หลายคนก็จะหยิบมันออกมาใช้บ้างกับสิ่งรอบตัวของเขา
      
       ขอยกตัวอย่างเหตุการณ์หนึ่งที่เคยพบเด็กนักเรียนหญิงตัวเล็ก ๆ แต่กลับไม่ร้องไห้งอแงอยากได้ของเล่นเหมือนเด็กคนอื่น เธอบอกแม่ของเธอว่า ไม่ต้องซื้อของเล่นชิ้นนี้ให้หนูหรอก เพราะหนูยังไม่อยากได้ ของเล่นที่บ้านก็ยังมีอยู่เลย ซึ่งคำตอบนี้ทำเอาคนรอบข้างอดแจกยิ้มให้กับแม่ของเด็กไม่ได้จริง ๆ ค่ะ
      
       2. มีความมุมานะ
      
       เด็กที่ไม่มีความพยายาม ไม่กระตือรือร้นกับการงานใด ๆ โอกาสที่จะกลายเป็นเด็กเฉื่อยก็มีสูง แต่เด็กที่มีพ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดีเรื่องความมุมานะ มองหาเป้าหมายของชีวิต เดินตามความฝันเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ กลับเป็นเด็กที่สดใส เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และมีความฝัน ซึ่งการกระตุ้นให้เกิดความมุมานะ อาจต้องอาศัยทัศนคติในเชิงบวกของพ่อแม่เป็นตัวช่วย โดยอาจสอนในเรื่องของการวางแผน บริหารสิ่งต่าง ๆ ทำงานอย่างเป็นระบบ มีขั้นตอน
      
       3. ไม่คบคนเพียงเปลือกนอก
      
       ในขณะที่โลกของผู้ใหญ่ เทคนิคทางการตลาดที่อาศัยชั้นเชิงและเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว กำลังล่อหลอกให้หลายคนต้องการซื้อโทรศัพท์มือถือบางยี่ห้อ เพื่อจะได้แสดงว่าเป็นคน "ประเภทเดียวกัน" แต่เชื่อว่า คุณพ่อคุณแม่ที่เห็นถึงอันตรายของโลกวัตถุนิยมจะไม่ต้องการให้ลูกเป็นไปในทิศทางนั้น หรือยอมรับได้กับการที่เห็นลูกมีเพื่อนคบเพียงเพราะมีตุ๊กตาตาโต ราคาแพงเอาไว้ประดับข้างกาย โดยไม่สนใจว่าเพื่อนของลูกจะมีพฤติกรรมอย่างไร
      
       เด็กที่คบเพื่อนโดยไม่ดูเพียงเปลือกนอก มีโอกาสได้พบเพื่อนแท้ที่จริงใจมากกว่าในขณะที่เด็กกลุ่มที่ไม่มองคนจากเปลือกนอก จะสามารถมองหาความงามจากจิตใจ เลือกคบเพื่อนที่ดี ตัดสินสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรอบคอบ และไม่ถูกชักชวนไปในทางไม่ดี
      
       4. หาความสุขได้ง่าย ๆ จากสิ่งรอบตัว
      
       หลายครอบครัวมองเห็นความสุขอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้ว เพียงแค่ได้ดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกัน หรือแม้แต่การได้อยู่ร่วมกันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก หัวเราะด้วยกัน เล่นด้วยกัน เข้าใจกัน เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว และเมื่อคนเรามีความสุขกับสิ่งเหล่านี้ได้ สิ่งของนอกกายก็ไม่จำเป็น และไม่ต้องเรียกร้องหาอีกต่อไป จุดสำคัญอยู่ที่ว่าคุณพ่อคุณแม่ได้ฝึกให้เขาเห็นถึง "ความสุข" เหล่านี้แล้วหรือยังค่ะ
      
       5. เติบโตเป็นคนที่เงินซื้อไม่ได้ มีศักดิ์ศรีในตัวเอง
      
       ข้อนี้สำคัญมาก เพราะในปัจจุบันเราได้เห็นผู้ใหญ่หลายคนที่ถูกเงินซื้อทั้งร่างกาย ความคิด จิตวิญญาณ ชื่อเสียงวงศ์ตระกูล หน้าที่การงาน ตลอดจนศักดิ์ศรีที่ควรจะมี คงไม่แปลกนักหากจะบอกว่า ในอดีตของคนเหล่านี้มีความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ไม่ใช่น้อย และมีความต้องการจะได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทองที่สูงกว่าคนธรรมดาทั่วไป จึงทำให้ผลในบั้นปลายสะท้อนออกมาเช่นนี้
      
       6. ไม่เสียใจ หรือผิดหวังรุนแรงกับชีวิต
      
       จากข้อที่ผ่านมา เด็กได้ค้นพบแล้วว่า ในโลกใบนี้มีอีกหลายสิ่งที่เขามีความสามารถ นอกเหนือจากการแค่ครอบครองสิ่งของ ดังนั้น เขาจึงไม่เปราะบางมากพอที่จะถูกทำลายลงได้ง่าย ๆ เพียงเพราะความผิดหวังที่ผ่านเข้ามากระทบ
      
       7. รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
      
       ในวันที่เด็กมองว่า "วัตถุ" ไม่สำคัญไปกว่าจิตใจ การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ก็เป็นสิ่งที่เด็กน่ารักสามารถทำให้กับคนรอบข้างของเขาได้ค่ะ
       
 

Life & Family