ฝึกลูกรักให้รู้จัก อดทน
เด็กไทยหลายคนกำลังมีปัญหา ขาดความอดทน อยากได้อะไรเร็วๆ หรือหากจะได้มาก็ต้องได้ดั่งใจ พอไม่เป็นไปตามต้องการก็ร้องไห้งอแง อาละวาด โวยวาย ส่วนหนึ่งอาจมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่ทำให้เขาเห็นว่า ตัวเขาเองนั้นเป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาลทั้งปวง ยิ่งในครอบครัวที่มีลูกคนเดียว ล้อมรอบด้วยพี่ป้าน้าอาปู่ย่าตายายคอยเอาใจ ยิ่งมีโอกาสให้เด็กเห็นความสำคัญของตนเองมาก่อนคนอื่นๆ ได้ เราจึงควรมีวิธีการจัดการให้ลูกมีความอดทนมากพอที่จะอยู่ร่วมสังคมกับคนอื่นได้
มาตรการด้านความอดทน จึงควรนำมาใช้ เพื่อฝึกให้เขาเหล่านี้โตขึ้นอย่างมีวินัย และรู้จักการ "อดทนรอ" ค่ะ โดยเริ่มจาก
ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
หากคุณเป็นพ่อแม่ประเภทที่ใจร้อน ต้องการความรวดเร็วในการทำสิ่งต่างๆ ก็ต้องบังคับตัวเองให้เป็นคนใจเย็น และอดทนมากขึ้น เพราะลูกจะเรียนรู้โดยดูจากพ่อแม่เป็นต้นแบบ การพาลูกไปซื้อของเป็นการฝึกให้เด็กเห็นถึงต้นแบบการอดทนที่ดี เพราะเด็กจะได้เห็นว่า พ่อแม่ของเขาต้องต่อคิวซื้อสินค้า ต่อคิวจ่ายเงิน เหมือนคนอื่น ๆ ทุกคนในร้านก็ต่อคิวซื้อกันหมด ไม่มีใครแซงกัน ที่สำคัญไม่ต้องเครียดเพราะความเร่งรีบด้วย
ตั้งเป้าหมายในการได้มาเหมาะสำหรับใช้ในกรณีที่มี ของ หรือ บางสิ่งบางอย่าง ที่ลูกต้องการ (ถ้ายิ่งต้องการมากๆ การตั้งเป้าหมายก็ยิ่งง่ายขึ้น) ในกรณีนี้พ่อแม่เพียงตั้งเป้าหมายให้ลูกทำให้บรรลุผล เช่น ทำตารางการอ่านหนังสือขึ้นมา หนังสือแต่ละเล่มก็เหมือนไอเท็มเกม 1 ชิ้น เด็กอ่านหนังสือจบ 1 เล่มก็เก็บไอเท็มได้ 1 ชิ้น ทำจนครบ แล้วจึงจะได้ของขวัญที่ต้องการ หรือจะทำตารางการช่วยงานบ้าน เช่น ล้างจาน พับผ้า ทิ้งขยะ ถูบ้าน ฯลฯ ให้ลูกได้ฝึกงานบ้าน พร้อมๆ กับการฝึกอดทนก็ได้เช่นกัน
บอกช่วงเวลาการรอคอยที่ชัดเจน
การฝึกให้เด็กอดทนรอ อาจต้องเลือกใช้คำที่เหมาะสม การที่ลูกมาร้องขอบางสิ่งบางอย่างใกล้ๆ แม่ ตอนที่แม่กำลังยุ่งกับงานในบ้าน หรืองานในครัว คุณแม่หลายท่าน (ที่ยังอารมณ์ดี) อาจบอกว่า รออีกแป๊บนึง แต่ก็จะพบว่า อีกไม่นาน เด็กๆ ก็จะกลับมาใหม่พร้อมคำถามเดิมๆ เพราะความอดทนของเขามันก็จะเกิดเพราะคำว่า แป๊บนึง เหมือนที่แม่บอก จนบางทีทำให้พ่อแม่หลายท่านเริ่มอารมณ์เสียที่ลูกมาถามบ่อยเกินไป ทางแก้คือ กำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสมไปเสียเลย เช่น รอให้แม่เตรียมข้าวเย็นเสร็จก่อนนะ หรือ ให้แม่กวาดบ้านเสร็จก่อน
พ่อแม่ก็ต้องทำตามเงื่อนไขด้วยคงไม่ใช่ครอบครัวชินจัง ที่มีแม่มิซาเอะตั้งกฎมากมายกำราบลูกจอมซนเพียงฝ่ายเดียว แต่พ่อแม่เองก็ต้องยอมรับและร่วมปฏิบัติตามกฎที่ตนตั้งเอาไว้ด้วย ผู้เขียนเคยพบพ่อแม่ลูกสามคนที่ชายทะเลแห่งหนึ่ง พ่อแม่สัญญากับลูกว่าต้องทานข้าวให้หมดก่อนแล้วจะพาไปเล่นน้ำทะเล แต่ปรากฏว่า พอทานข้าวกลางวันเสร็จ พ่อแม่เลือกที่จะนอนเอนหลังสบายบนเก้าอี้ผ้าใบ ส่วนลูกชายก็งอแงไม่ได้เล่นน้ำทะเลอย่างที่ต้องการ เพราะพ่อกับแม่ที่บอกว่าจะพาเขาไปเล่นน้ำ นอนหลับไปเสียแล้ว สุดท้ายเขาก็เลยต้องเล่นคนเดียวอย่างเหงาๆ
ดังนั้น ก่อนที่พ่อแม่จะเอ่ยปากสัญญากับลูก ก็ขอให้แน่ใจเสียก่อนว่า สามารถทำตามที่เอ่ยปากเอาไว้ได้จริงๆ เพราะมันจะทำให้ลูกๆ อดทนรออย่างเข้าใจ ว่าอีกไม่นานเขาก็จะได้ในสิ่งที่เขาต้องการ
มีรางวัลรออยู่สำหรับเด็กอดทนหากคุณเอ่ยปากชวนลูกๆ ให้ร่วมเดินทางไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า พร้อมตั้งเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นเด็กดี ไม่งอแง หรือวิ่งเล่นหายไปให้พ่อแม่เป็นห่วง และเด็กๆ ก็สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ตลอดรอดฝั่ง จนกระทั่งทุกคนในครอบครัวเดินกลับจากห้างสรรพสินค้าพร้อมกันอย่างมีความสุข ก็ไม่ผิดนักหากคุณจะมีของขวัญพิเศษให้กับลูกสำหรับความพยายามอดทนครั้งสำคัญนี้ เพราะมันจะทำให้พวกเขาได้ตื่นเต้นกันอีกรอบ อีกทั้งยังทำให้เด็ก ๆ รู้สึกดีกับการอดทนรอ และพร้อมจะทำมันต่อไปในอนาคตด้วย
Manager online