ก่อนกาลอันวุ่นวาย ..
โดย : ซุฟอัม อุษมาน
มนุษย์คือสัญลักษณ์ของความเผลอเรอ การใช้ชีวิตอย่างหลงลืมเป็นวิถีที่ได้รับความสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นๆ ทั้งหมด เพราะในความหลงลืมมีแต่ความสุข มีเสียงหัวเราะที่สนุกสนาน มีความสะดวกสบายและความรู้สึกปลอดภัยบางครั้งการหลงลืมของเราก็หาใช่ตั้งอยู่บนสิ่งที่ผิดไม่ หลายครั้งด้วยซ้ำที่เราพบว่าสิ่งที่ไม่เป็นบาปเป็นการทดสอบที่น่ากลัว ความสวยงามของวัยหนุ่มสาว การเป็นมิตรและเพื่อนฝูง งานและการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ลูกหลานและทรัพย์สิน หลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้เราเคลิบเคลิ้ม และหลงเสียดายไม่กล้าผละจากไปอยู่ในขณะนี้ คือม่านบังตาที่ทำให้เราไม่สามารถมองผ่านไปยังความโกลาหลอันวุ่นวายข้างหน้า
สำหรับผู้ที่เข้าใจศึกษาปรากฏการณ์ต่างๆ รอบตัวที่หมุนเวียนเปลี่ยนแปร ถ้าเราต่างสังเกตการเดินทางของชีวิตโลกเพียงแค่ชั่วครู่หนึ่ง แน่แท้เราจะได้พบว่า นับวันยิ่งมีชีวิตอยู่นานต่อไป การทำนายหลายๆ อย่างของคำสอนอันสูงส่ง เริ่มแสดงความจริงให้เห็นเป็นประจักษ์แก่มนุษย์ทุกผู้บนโลกทีละอย่างไป
“หามีปีใดหรือวันใดที่มาถึง นอกเสียจากมันต้องย่ำแย่หรือเลวกว่าวันก่อนๆ ที่ผ่านมา
จวบจนถึงเวลาที่พวกท่านได้พบองค์อภิบาล”
(โดยอัล-บุคอรีย์ ดู เศาะฮีหฺ อัล-ญามิอฺ 7068 และ 7576)
“วันแห่งการคิดบัญชีนั้นได้ใกล้เข้ามายังมนุษย์มากนักแล้ว ในขณะที่พวกเขายังคงอยู่ในความหลงลืมและผินหลังให้”
(ความหมายจากสูเราะฮฺ อัล-อันบิยาอฺ อายะฮฺที่ 1)
ก่อนวันแห่งโลกพินาศ จะมีกลียุคที่เต็มไปด้วยการทดสอบ ทดสอบความเข้มแข็งของเมล็ดพันธุ์อีมาน ความวุ่นวายที่จะฉุดมนุษย์ให้อยู่ในวงล้อของสังคมที่เสื่อมโทรม สังคมของฝูงชนที่มีศีลธรรมลดน้อยลงทุกวัน ความสะเปะสะปะ ความสกปรกของตัณหา ความไร้ยางอาย การครอบงำของด้านมืดในจิตใจ แพร่กระจายเข้าไปทุกที่ทุกแห่งที่มีมนุษย์อาศัย โดยเครื่องมือที่ถูกผลิตขึ้นด้วยเทคโนโลยี
♦ นับวันหัวใจยิ่งสับสนมากขึ้น เพราะความทันสมัยของเทคโนโลยีที่เราใฝ่หา ถูกสอดแทรกด้วยความสกปรกของการขาดจริยธรรม เป็นเครื่องล่อให้เราติดกับอย่างหนีไม่พ้น
♦ นับวัน ยิ่งมีชีวิตอยู่นานต่อไป ผู้คนยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น เพราะเสียงอึกทึกของสงคราม อาชญากรรม โศกนาฏกรรม การฆ่าฟัน เสียงปืนและลูกระเบิด ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ดังถี่ขึ้นทั่วทุกมุมโลก มันจะมีเยอะขึ้น เพราะนี่เป็นสัจธรรม เป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่กาลแห่งความวุ่นวาย
“แท้จริง ในจำนวนสัญญาณวันโลกาวินาศนั้นคือ ความรู้(ที่เป็นแสงส่องทางชีวิต)จะถูกยกขึ้น
ความไร้จริยธรรมจะเด่นชัด การผิดประเวณีจะแพร่ไปทั่ว ผู้คนจะเสพของมึนเมา
ผู้ชายจะเสียชีวิตจนเหลือน้อย จะมีแต่ผู้หญิงเสียส่วนมาก จนกระทั่งผู้หญิงห้าสิบคนจะมีผู้ชายที่รับผิดชอบเพียงคนเดียว”
(เศาะฮีหฺ อัล-ญามิอฺ 2206)
สุดท้ายสิ่งที่เราทำได้คือการบังคับตัวเองให้เตรียมตัว ฉกฉวยเวลาและโอกาสที่เหลืออยู่เพื่อสร้างคุณความดี ความดีที่จะเป็นสัมภาระในช่วงวันที่ต้องอยู่คนเดียวในสุสานที่แสนคับแคบและมืดมิด ก่อนกาลอันวุ่นวาย ที่จะไม่เหลือเวลาให้เราได้คิดทำอะไรอีกต่อไป
“จงรีบเร่งปฏิบัติความดีก่อนถึงกาลอันแสนวุ่นวายน่ากลัวเสมือนหนึ่งค่ำคืนที่มืดมิด
เวลานั้นคนผู้หนึ่งจะตื่นเช้าขึ้นมาด้วยอีมาน พอตกค่ำเขากลับกลายเป็นกาฟิรฺ
หรือตอนเย็นเป็นมุอฺมินแต่พอตื่นเช้าก็เป็นกาฟิรฺ เขาขายศาสนาด้วยเพียงทรัพย์ดุนยาอันน้อยนิด”
(เศาะฮีหฺ อัล-ญามิอฺ 2814)