การถือศีลอดเป็นของข้า และข้าจะตอบแทนมันเอง
  จำนวนคนเข้าชม  7811

 

“การถือศีลอดเป็นของข้า และข้าจะตอบแทนมันเอง”

 

แปลโดย  อิสมาอีล  กอเซ็ม


      หะดีษที่มีความยิ่งใหญ่ และได้มีการยืนยันจากท่านนะบี  โดยที่ท่านนะบีได้รายงานมาจากพระเจ้าของท่าน  พระองค์ ทรงตรัสว่า

 

“การงานทุกอย่างของลูกหลานอาดัม (หมายถึงมนุษย์) มันเป็นของเขา  นอกจากการถือศีลอดนั้นเป็นของฉัน และฉันจะตอบแทนเอง”

 

(บันทึกโดยอิหม่าม บุคอรีย์ ในหนังสือซอเฮี๊ยะของท่าน เล่มที่สอง หน้าที่ 226 จากหะดีษ อบูฮุรอยเราะฮ์เช่นเดียวกัน)

  

         หะดีษนี้ชี้ให้เห็นถึงความประเสริฐของการถือศีลอด  และตำแหน่งที่อยู่ของมันกับการงานอื่นๆ  โดยที่ อัลลอฮ์ ได้เกี่ยวโยงการถือศีลอดไปถึงพระองค์ ในการงานของบรรดาปวงบ่าว บรรดานักวิชาการได้กล่าวถึงความหมายของหะดีษ คำดำรัสของอัลลอฮ์ที่ว่า

"الصوم لي وأنا أجزي به"     “การถือศีลอด เพราะแท้จริงการถือศีลอดมันเป็นของฉัน”

  

         แท้จริงการงานต่างๆ ของลูกหลานอาดัม ต้องนำไปเสียค่าชดเชยให้แก่บรรดาผู้ที่ไปละเมิดในสิทธิต่างๆ ของผู้อื่น  ผู้ที่ถูกอธรรมจะเอาความดีจากการงานที่เขาได้ปฏิบัติไว้ในวันกิยามะห์  เหมือนที่มีปรากฏในหะดีษ ความว่า

 

“ชายคนหนึ่งมาในวันกิยามะห์  ด้วยกับงานที่ดีที่เขาปฏิบัติไว้ ดุจดั่งภูเขา  แต่ขณะเดียวกันเขาพามาพร้อมกับการงานนั้น

ด้วยการด่าทอคนอื่นๆ ไปทำร้ายคนนั้น หรือ โกงกินทรัพย์สินของคนนั้น คนนั้น

จนเป็นเหตุทำให้ความดีต่างๆ ของเขาต้องถูกแบ่งไป จนกระทั่งความดีของเขาไม่เหลืออยู่เลย 

สุดท้ายเขาต้องแบกรับเอาความชั่ว ของผู้ที่เขาได้อธรรมมาโยนให้แก่เขา และเขาจะถูกโยนลงในนรก”

( ดูซอเฮี๊ยะมุสลิม เล่มที่ 4หะดีษที่ 1997)  

         สำหรับหะดีษที่รายงานโดยท่านอบูฮุรอยเราะฮ์  ความหมายที่ว่า “ ยกเว้นการถือศีลอด ” เพราะแท้จริงการถือศีลอดจะไม่ถูกเอาไปจากคนที่เขาเป็นหนี้ในวันกิยามะห์ และ อัลลอฮ์  จะเก็บรักษาไว้ให้แก่ผู้ที่ถือศีลอด และจะตอบแทนให้แก่เขา โดยหลักฐานที่ชี้ถึงตรงนี้  คำดำรัสของอัลลอฮ์  (จากหะดีษอัลกุดซีย์)

  

قوله   "كل عمل ابن آدم له كفارة إلا الصوم فإنه لي وأنا أجزي به"

“การงานของมนุษย์ทุกอย่างสำหรับเขาแล้ว จะต้องมีการเสียค่าชดเชย (ชดเชยความดีให้แก่ผู้ที่เขาได้ไปอธรรม)

ยกเว้นการถือศีลอด เพราะว่าแท้จริง มันเป็นของข้า และข้าจะตอบแทนมันเอง”

  

          หมายความว่า การงานของมนุษย์นั้น ต้องเสียค่าชดเชยให้กับคนที่เป็นเจ้าหนี้ (หมายถึงคนที่ถูกอธรรมจากคนอื่น) ในวันกิยามะห์ผู้ถูกอธรรมจะมาเอาความดีจากการงานของผู้ที่อธรรมต่อเขา  แต่การงานที่ไม่ถูกแบ่งคือการถือศีลอด เพราะอัลลอฮ์ จะเก็บรักษาไว้  โดยที่ไม่มีการถูกแบ่งไปให้เจ้าหนี้ และอัลลอฮ์ จะเก็บไว้ให้เจ้าของ ของมันเท่านั้น

มีบางทัศนะ ให้ความหมายดำรัสของอัลลอฮ์  ที่ว่า

الصوم لي وأنا أجزي به"   “การถือศีลอดเป็นของข้า และข้าจะตอบแทนมันเอง”

 

          แท้จริงการถือศีลอดเป็นการงานที่อยู่ภายในไม่มีการเปิดเผย เจตนาซ่อนอยู่ในที่ที่ไม่มีใครสามารถทราบถึงเจตนานั้นได้นอกจากอัลลอฮ์ ซึ่งเป็นการตั้งเจตนาในจิตใจ ต่างกับการงานอื่นๆ  ที่ผู้คนสามารถมองเห็นได้  สำหรับการถือศีลอดเป็นการงานที่ซ่อนระหว่างผู้ที่เป็นบ่าวและพระเจ้าที่สูงส่งของเขา และด้วยเหตุนี้ อัลลอฮ์จึงตรัสว่า

 

 

“การถือศีลอดนั้นเป็นของฉัน และฉันจะเป็นผู้ที่ตอบแทนเอง

เนื่องจากว่าเขานั้นได้ละทิ้งอารมณ์ความต้องการของเขา อาหาร เคื่องดื่มของเขา เพื่อฉัน”

 

          การที่เขาละทิ้งอารมณ์ความต้องการ อาหารของเขาเพื่ออัลลอฮ์  คือการตั้งเจตนาที่อยู่ภายในจิตใจ ไม่มีใครรู้นอกจากอัลลอฮ์   ซึ่งแตกต่างกับการบริจาคทาน  หรือ การละหมาด การทำฮัจญ์ และการงานต่างๆที่แสดงออกมาให้ผู้คนสามารถเห็นได้ 

           การถือศีลอดไม่สามารถที่จะเห็นได้จากภายนอก เนื่องจากความหมายของการถือศีลอดนั้น ไม่ได้หมายความว่า การละทิ้งอาหาร และเครื่องดื่ม เท่านั้น แต่ต้องละทิ้งซึ่งข้อห้ามต่างในการถือศีลอด และการถือศีลอดนั้นจะต้องมีความบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮ์ ผู้ทรงสูงส่ง โดยที่คำดำรัสของพระองค์ที่ว่า

 

“เนื่องจากว่าเขานั้นได้ละทิ้งอารมณ์ความต้องการของเขา อาหาร เคื่องดื่มของเขา เพื่อฉัน”

 

ประโยคนี้มาอธิบายคำดำรัสของอัลลอฮ์ที่ว่า

 "الصوم لي وأنا أجزي به"

          บรรดานักวิชาการได้อธิบายความหมายหะดีษนี้ว่า การตั้งภาคีไม่สามารถเข้ามาปะปนกับการถือศีลอดได้ เพราะบรรดาผู้ที่ตั้งภาคีได้มอบสิ่งที่เป็นการเคารพภักดี ไม่ว่าจะเป็นการเชือด การบนบาน การเคารพภักดีในรูปแบบต่างๆ  เช่นการขอดุอาร์ ความกลัว ความหวัง  บรรดาผู้ที่ตั้งภาคีเข้าหาสิ่งที่พวกเขาเคารพภักดีด้วยกับอิบาดะห์ต่างๆ เหล่านั้น  ซึ่งแตกต่างกับการถือศีลอดบรรดา ผู้ที่ตั้งภาคี ไม่เคยถือศีลอดเพื่อรูปเจว็ดต่างๆ  ดังนั้นการถือศีลอดจึงเป็นอิบาดะห์ที่แม้แต่ผู้ตั้งภาคีในยุคของท่านนะบี  ยังปฏิบัติเฉพาะเจาะจงเพื่ออัลลอฮ์  เท่านั้น  ด้วยเหตุนี้ ความหมายของ คำดำรัสของอัลลอฮ์ ที่ว่า

 "الصوم لي وأنا أجزي به"  “การถือศีลอดเป็นของฉันและฉันจะตอบแทนเอง”

 

          จึงไม่มีการเจือปนของการตั้งภาคีในการถือศีลอด  และบรรดาผู้ที่ตั้งภาคีพวกเขาจะทำอิบาดะห์ให้กับรูปเจว็ดต่างๆ นอกจากการถือศีลอดเท่านั้นที่พวกเขาไม่ได้ทำให้กับรูปเจว็ด แต่เขามอบอิบาดะห์นี้ให้แก่ อัลลอฮ์  เพียงพระองค์เดียว

 

 

จากเวป อิสลามเวย์ โดยเชค ซอและห์ อัลเฟาซาน