การศึกษาสมัย คุลาฟาอ์ อัล รอชิดีน
สมัยคุลาฟาอ อัล รอชิดีนถือเป็นสมัยที่ต่อเนื่องจากสมัยของท่านศาสดา บรรดาคำสอนและตัวอย่างต่าง ๆ ที่บรรดาเศาะหาบะฮได้ร่ำเรียนหรือประสบมา ยังติดตาตรึงใจพวกเขาอยู่เสมอ แม้ในยุคต้น ๆ มีกลุ่มชนบางกลุ่มที่แสดงความเป็นปรปักษ์กับอิสลาม แต่กลุ่มดังกล่าวมีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับสมัยต่อมา และได้ถูกกำราบลงอย่างง่ายดาย
การศึกษาในสมัยนี้มีส่วนคล้ายกับการศึกษาในสมัยของท่านศาสดา เพราะบรรดาคุลาฟาอ อัลรอชิดีนเป็นผู้ปฏิบัติตามซุนนะฮ์ อย่างเคร่งครัด อีกทั้งเคาะลีฟะฮทั้งสี่เป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับท่านศาสดา ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติของคุละฟาอทั้งสี่เป็นที่ยอมรับในแง่ของชะรีอะฮ์
ท่านนะบีมุฮัมมัด กล่าวว่า
اوصيكم بتقوى الله والسمع والطاعة وان عبدا حبشيا فإنه من يعش منكم بعدى فسيري اختلافا كثيرا ، فعليكم بسنتي وسنة الخلفاء المهديين الراشدين ، تمسكوا بها وعضوا عليها بالنواجذ وإياكم ومحدثات الامور فإن كل محدثة بدعة وكل بدعة ضلالة. رواه ابوداود
“ ฉันขอเตือนท่านทั้งหลายให้พึงยำเกรงอัลลอฮ์ ท่านจงเชื่อฟังและภักดีต่อผู้ปกครองแม้เขาจะเป็นทาสผิวดำจากอบิสสิเนีย ( เอธิโอเปียในปัจจุบัน )
แน่นอนใครมีชีวิตอยู่ต่อไปหลังจากฉัน เขาจะได้เห็นความขัดแย้งอย่างมากมาย
ดังนั้นท่านทั้งหลายพึงยึดมั่นในแบบฉบับของฉัน และแบบฉบับของคุละฟาอ อัล รอชิดีนผู้ได้รับทางนำ
ท่านจงยึดไว้ให้มั่นและจงกัดไว้ด้วยฟันกราม ท่านทั้งหลายพึงระวังเรื่องบิดอะฮต่างๆ เพราะที่จริงทุกบิดอะฮ์เป็นเรื่องหลงผิด ”
(รายงานโดยอบู ดาวูด)
แม้ว่าการกระทำหรือการชี้แนะของคุละฟาอทั้งสี่จะเป็นที่ยอมรับ แต่พวกเขายังคงปฏิบัติตามแบบฉบับอย่างเคร่งครัด อะไรที่นะบี ปฏิบัติไว้ พวกเขาก็จะปฏิบัติตาม อะไรที่ท่านได้ห้าม พวกเขาก็จะละทิ้ง แม้ว่าในสมัยนี้คุละฟาอต้องประสบกับปัญหานานัปการ ซึ่งไม่เคยปรากฏในสมัยของท่านศาสดา แต่คุละฟาอทั้งสี่ก็ไม่ย่อท้อ และยังคงยึดมั่นกับหลักคำสอนตลอดมา
จากความใกล้ชิดอีกทั้งยังได้ประสบพบเห็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและการศึกษา คุละฟาอทั้งสี่จึงตระหนักดีว่าตัวอย่างที่แท้จริงของพวกเขาคือแบบอย่างจาก ศาสดามุฮัมหมัด ดังนั้นการศึกษาในสมัยคุละฟาอทั้งสี่ จึงไม่แตกต่างอะไรกับการศึกษาในสมัยของท่านศาสดา และการศึกษาในสมัยคุละฟาอ์ มีความผูกพันธ์กับอัล กุรอานและอัล หะดีษอย่างแน้นแฟ้น
ในสมัยของคุละฟาอทั้งสี่นี้แนวคิดนอกรีตแทบจะไม่มี หรือมีแต่น้อยมาก มุสลิมส่วนใหญ่ยึดมั่นกับตัวอย่างของท่านศาสดา อย่างจริงจัง หลังจากการเสียชีวิตของท่านศาสดา มัสยิดซึ่งเป็นสถาบันการศึกษายังคงดำเนินต่อไป (Afendi and Baloch, 1980 : 143)
- อับดุลลอฮ อิบนุ อุมัร (Abd Allah Ibnu Umar) สัยด อิบนุ ษาบิต (Zayd Ibnu Thabit) ญาบิร อิบนุ อับดุลลอฮ (Jabir Ibnu Abd Allah) และอาอิชะฮ (Aishah) มารดาแห่งศรัทธาชนเป็นผู้สอนอยู่ที่มัสยิดกูฟะฮ
- อบู มูซา อัล อัชอารี (Abu Musa al Ash ari) สอนอยู่ที่มัสยิดบัศเราะฮ
- และอบู ดัรดาอ (Abu Darda') สอนอยู่ที่มัสยิดดามัสกัส (Lunggulung, 1986 : 49)
นอกจากนี้เศาะหาบะฮบางคนจะถูกส่งไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อสอนศาสนาแก่ประชาชนที่พึ่งเข้ารับอิสลาม การปฏิบัติทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นสิ่งที่ท่านศาสดามุฮัมหมัด ได้ปฏิบัติเสมอมา มัสยิดมีความสำคัญและได้รับการเอาใจใส่เป็นพิเศษ
ในสมัยของเคาะลีฟะฮอุมัร ท่านได้แนะนำบรรดานักปราชญ์มุสลิมให้ตระหนักถึงหน้าที่ของตนเอง หน้าที่ของผู้เรียนซึ่งสรุปได้ดังนี้
1. ให้แสวงหาความรู้
2. ผู้ที่จะแสวงหาความรู้ต้องมีจิตใจที่สงบและมีมารยาทที่ดีงาม
3. ผู้แสวงหาความรู้ต้องถ่อมตน และเคารพครูบาอาจารย์
4. ผู้สอนต้องถ่อมตนต่อนักเรียนของเขา
5. อย่าเป็นนักปราชญ์ที่หยิ่งยโส เพราะความรู้จะไม่ให้ประโยชน์อะไรเลย หากผู้รู้นั้นมีมารยาทที่เลวทราม (Dalip, 1990 : 74)
Islamic Information center of psu Fathoni