อิสลามที่แท้จริง
  จำนวนคนเข้าชม  11190

 

อิสลามที่แท้จริง

 

     ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาต่อองค์อัลลอฮ์  ผู้ทรงเรืองอำนาจและยิ่งใหญ่ ทั้งหลาย อิสลามเป็นศาสนาที่ยกระดับและให้ความสำคัญต่อสติปัญญาของมนุษย์ โดยสติปัญญานี้เองทำให้มนุษย์สำนึกในหน้าที่ความรับผิดชอบ สติปัญญาทำให้มนุษย์รู้จักผู้สร้าง สติปัญญาคือคุณลักษณะที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์เดรัจฉาน ให้มนุษย์เป็นผู้แยกแยะในการรู้จักคิด รู้จักใช้เหตุผล รู้จักวิเคราะห์ รู้จักพิจารณาว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ถูก สิ่งไหนเป็นสิ่งที่ผิด

          อิสลามได้สอนให้มนุษย์มีสิทธิเสรีภาพทางความคิดอย่างมีขอบเขต ซึ่งไม่ผิดต่อหลักการของศาสนา ไม่ว่าจะเป็นพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน และพระวัจนะต่างๆของท่านนะบีมุฮัมมัด  ทั้งสองเป็นมรดกอันล้ำค่าที่สุดที่มีอยู่ในประชาชาติยุคนี้ และเป็นพื้นฐานแรกในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ การค้นคว้าทางด้านวิชาการในอิสลามเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่ง บทบัญญัติที่เกี่ยวกับศาสนกิจในอิสลามเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนจะต้องเคารพและปฏิบัติตาม

รายงานโดย อาบูเซด ได้กล่าวว่า

     " วิชาความรู้เป็นวิญญาณแห่งอิสลามและเป็นพื้นฐานแห่งการศรัทธา และผู้ใดทำการศึกษาวิชาความรู้อัลลอฮ์  จะทรงให้รางวัลแก่เขาอย่างสมบูรณ์

     และผู้ใดที่ได้ศึกษาและเขาก็ปฏิบัติ (ตามที่รู้นั้น) พระองค์จะทรงให้ความรู้แก่เขาในสิ่งที่เขายังไม่รู้ "


         ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย

          จงสังวรณ์ ไว้เถิด ทุกวันนี้เรานับถือศาสนาอิสลามอย่างถูกต้องแล้วหรือยัง ปฏิบัติในสิ่งที่อัลลอฮ์ ทรงใช้ และละทิ้งในสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามหรือไม่ ลองพิเคราะห์ พิจารณาดูเถิดว่าตั่งแต่เกิดมา จนกระทั่งปัจจุบัน เรานับถือศาสนาอิสลามเพราะอะไร ? ตามพ่อแม่ บรรพชนปู่ย่าตายาย หรือว่าเรานับถือศาสนาอิสลามด้วยความศรัทธาและความเชื่อมั่นอย่างแท้จริง เราดำเนินไปถูกทางแล้วหรือยัง นี่แหละ คือการใช้ วิจารณญาณทางปัญญา แล้วเหตุผลใดเล่า ไฉนเลยเราต้องทำลายสติสัมปชัญญะ ด้วยการรับประทานสิ่งของที่มึนเมา และสิ่งที่ให้โทษต่างๆที่มาทำลายระบบประสาท ระบบความคิด เนี้ยะมัตอันยิ่งใหญ่ที่อัลลอฮ์ ทรงประทานแก่มวลมนุษย์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นประเภทสัตว์ที่ประเสริฐที่สุดในโลกดุนยานี้ แล้วเราจะทิ้งความประเสริฐที่อัลลอฮ์  ทรงประทานให้มา กระนั้นหรือ ! 


          ปัจจุบันนี้ที่มุสลิมทะเลาะกันแตกแยกกันเองเพราะเหตุใด? เพราะขาดการศรัทธาโดยสิ้นเชิง

อัลกุรอาน โองการของอัลลอฮ์ ได้ตรัสไว้ว่า

"แท้จริงมวลผู้ศรัทธาเป็นพี่น้องกัน"

และฮาดีส ของ ท่านนะบี  ได้กล่าวไว้ว่า

"ผู้ศรัทธาต่อผู้ศรัทธานั้น เปรียบเสมือนสิ่งก่อสร้างอันเดียวกัน ซึ่งบางส่วนนั้นจะยึดอยู่กับอีกบางส่วน"


         ดังนั้นอิสลามจะยืนหยัดได้ด้วยการบริสุทธิ์ใจต่อกัน มีความสามัคคีซึ่งกันและกัน มีปัญหาอะไรก็ให้มีการปรึกษาหารือกัน ละซึ่งความโลภความมีเกียรติ ความมีชื่อเสียง โดยยึดเอาบทบัญญัติของอิสลามมาเป็นที่ตั้งและคำนึงถึงความถูกต้องของศาสนามาแยกแยะระหว่างปัญหาเหล่านั้น

ดังฮาดีษ บทหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า

     "แท้จริงอัลลอฮ์ไม่ทรงพิจารณารูปร่างของพวกท่าน วงศ์ตระกูลของพวกท่าน และทรัพย์สินของพวกท่าน แต่ทว่า พระองค์ทรงพิจารณาจิตใจของพวกท่านและการปฏิบัติของพวกท่าน"

          จิตใจและการปฏิบัติเท่านั้นที่อัลลอฮ์ ทรงพิจารณาด้วยเหตุนี้ ท่านจงประดับจิตใจและจงอย่ายึดมั่นในรูปร่าง วงศ์ตระกูล และความร่ำรวย หรือเกรียติยศ หรือชื่อเสียง

         4 ประการ ซึ่งถือเป็นความโชคร้าย คือ 1.ตาแข็ง 2. ใจกระด้าง 3. ความละโมภ 4.ความเพ้อฝัน กล่าวคือ

ตาแข็งคือ ไม่ได้ใคร่ครวญต่อสรรพสิ่งที่มองดูเลย

ใจกระด้าง คือ ไม่มีความเมตตา กรุณา

ความละโมภ คือ ไม่เคยรู้สึกพอเพียงต่อรายได้ของตัว

ความเพ้อฝัน คือ หวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เสมอ

 

         ดังนั้น ท่านจงริเริ่มทำกิจการด้วยการไตร่ตรองก่อน ถ้าเมื่อผลลัพธ์ดีท่านก็จงปฏิบัติ แต่ถ้าท่านกลัวจะเกิดความหลงท่านจงระงับเสีย

ท่านอิบนุอุมัร (รอฎิยัลลอฮุอันฮุ) ได้กล่าวว่า

"อันความดีมีมากหลาย แต่คนดีมีน้อย"

 

ด้วยเหตุนี้ท่านจงอย่ายอมตนให้อยู่ภายใต้การครอบงำของมารร้าย

 

 


ชมรมนักวิชาการปทุมธานี