เดือนที่มุสลิมจะได้รับผลตอบแทนจากการถือศีลอด
  จำนวนคนเข้าชม  5468

 

เดือนที่มุสลิมจะได้รับผลตอบแทนจากการถือศีลอด


ดร.อับดุลกุ๊ดดู๊ซ อิบนุ อุซามะฮฺ อัซซามัรรออียฺ

 

เป็นเดือนที่มุสลิมจะได้รับผลตอบแทนจากการถือศีลอด ในวันต่างๆของเดือนเชาวาลตลอดปี   มีรายงานจากอบู อัยยู๊บ อัลอันซอรียฺ  แจ้งว่า ท่านเราะซูลุลลอฮ์  กล่าวไว้ว่า

((  من صام رمضان ثم اتبعه ستا من شوال كان كصيام الدهر  ))

“ผู้ใดถือศีลอดในเดือนรอมฎอน แล้วได้ถือศีลอดของเดือนเชาวาลตามไปอีกหกวัน ก็เหมือนกับการถือศีลอดตลอดปี”

 

(รายงายโดย มุสลิมในเศาะเหี้ยหฺของท่าน เลขที่ 1164)

          ดังนั้น จึงจำเป็นที่เราจะต้องรักษาการถือศีลอดทั้งสองไว้ เพื่อที่เราจะได้รับผลตอบแทนจากอัลลอฮ์ และจะต้องรำลึกอยู่เสมอว่า การถือศีลอดหกวันของเดือนเชาวาลนั้น แท้ที่จริงแล้ว มันจะเกิดขึ้นหลังวันที่มีการละการถือศีลอด และการถือศีลอดนี้ร่วมตามติดไปกับเดือนรอมฎอน ซึ่งมีผลตอบแทนเท่ากับการถือศีลอดตลอดทั้งปีเพราะหนึ่งความดีนั้น มีค่าเท่ากับสิบเท่า เดือนรอมาฎอนมีค่าเท่ากับสิบเดือน หกวันเท่ากับสองเดือน ทั้งหมดนั้น เท่ากับหนึ่งปีเต็มพอดี


 

ของขวัญอันล้ำค่าเนื่องในโอกาสเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ
 

          เราจะต้องรักษาไว้ซึ่งการเคารพภักดีอย่างมั่นคง ภายหลังเดือนรอมาฎอน เพื่อที่จะส่งผลต่อการศรัทธา และก้าวสู่ขั้นต่างๆแห่งความใกล้ชิด และความรู้ ณ อัลลอฮ์  และต้องดำรงมั่นอยู่กับการเชื่อฟังหลักบัญญัติ แม้รอมาฎอน จะผ่านไปแล้วก็ตาม จากคำตรัสของอัลลอฮ์ แก่เราะซูล  ในกุรอาน ที่ว่า

 

“ดังนั้น เจ้า(มุฮัมมัด)จงดำรงมั่น เหมือนกับที่เจ้าได้รับบัญชามา และผู้ใดที่กลับเนื้อกลับตัวกับเจ้า และพวกเจ้าอย่าได้ฝ่าฝืนออกนอกลู่นอกทาง

แท้จริง พระองค์นั้น เป็นผู้ที่ทรงเห็นตลอด ในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ” 

 (ฮูด 112)

                 พื้นฐานของการดำรงมั่นบนความเที่ยงตรงนั้น ตั้งอยู่บนการแก้ไขปรับปรุงตัวจากภายในและไม่ฝ่าฝืนพระองค์จากภายนอก ซึ่งบรรดาผู้คนรุ่นก่อนๆ ได้สั่งเสียกันในเรื่องดังกล่าว ส่งเสริมลูกหลานให้ยึดมั่นอยู่กับความเที่ยงตรง มีการเน้นย้ำในเรื่องความรู้กับการกระทำ ทั้งในที่ลับ และที่แจ้ง และสิ่งต่างๆ ที่อยู่ภายในจะต้องสอดคล้องกับสิ่งที่อยู่ภายนอก หากความสมดุลนี้เกิดความบกพร่อง บ่าวจำเป็นจะต้องปรับปรุงตัว และหยุดยั้งไม่เข้าไปหาภยันตรายและการฝ่าฝืนจะทำให้เขาออกจากความจริง ทำให้เขาถลำลงไปสู่ความเท็จ และแท้จริง ทุกสิ่งที่ด้านในไม่ตรงกับสิ่งที่อยู่ด้านนอก ล้วนเป็นสิ่งที่เป็นเท็จทั้งสิ้น

 

อบู อับดุรเราะฮฺมาน อัลอะศ็อม ร่อฮิมะฮุลลอฮฺ กล่าวไว้ว่า

"من أصبح وهو مستقيم في أربعة أشياء ، فهويتقلب في رضالله تعالى ، أولها:الثقة بالله ثم التوكل عليه ثم الإخلاص ثم المعرفة والأشياءكلهاتتم بالمعرفة ،...ويعرف الإخلاص بالاستقامة والاستقامة بالرجاء والرجاء بالإرادة والإرادة بالمعرفة".

“ผู้ใดที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ในขณะที่เขาตั้งมั่นอยู่บนความเที่ยงตรง ในสี่ประการ เท่ากับว่า เขาเดินไปในความพึงพอพระทัยแห่งอัลลอฮ์

 คือ การมีความเชื่อมั่นในอัลลอฮ์ การมอบหมายต่อพระองค์ การมีความบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮ์ และการรู้จักอัลลอฮ์

และสิ่งต่างๆ ทั้งหมดนี้ จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ได้ด้วยความเข้าใจ...และการมีความบริสุทธิ์ใจ

 จะรู้ได้ด้วยการดำรงมั่น การดำรงมั่นจะรู้จักได้ด้วยความหวัง ความหวังจะรู้ได้ด้วยความต้องการ และความต้องการจะรู้ได้ด้วยการรู้จักอัลลอฮ์

 

         ความโปรดปรานของอัลลอฮ์ ที่มีต่อเรานั้นมีมากมาย อิสลาม อัลกุรอาน และ มุฮัมมัด นะบีท่านสุดท้าย เป็นความโปรดปรานประการหนึ่ง การละหมาดเป็นสื่อสัมพันธ์ระหว่างเราต่ออัลลอฮฺ และการถือศีลอดก็เช่นเดียวกัน เป็นสิ่งที่มีผลติดตามมาที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตแห่งโลกนี้ และโลกหน้าระหว่างเรากับอัลลอฮ์ และแท้จริง การขอบคุณในความโปรดปราน และไม่ลืมในความประเสริฐ จะทำให้บ่าวไปถึงซึ่งการรู้จักในความเมตตาของอัลลอฮ์ ความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ความสงสาร ความรักที่มีต่อบรรดาบ่าวของพระองค์

 

อบูสะอี๊ด อะฮฺมัด อิบนุ มุฮัมมัด อัลบัศรียฺ เราะฮฺมะตุลลอฮิ อะลัยฮฺ กล่าวไว้ว่า

"إن الله تعالى جعل نعمته سببا لمعرفته ، وتوفيقه سببا لطاعته ، وعصمته سببالاجتناب معصيته ، ورحمته سببا للتوبة ، والتوبة سببا لمغفرته ، والدنو منه...الأوقات كلها لله تعالى ، وأحسن الأوقات وقت يجري الحق فيه علي مايرضيه عني"

“แท้จริง อัลลอฮ์ ได้ทรงทำให้ความโปรดปรานของพระองค์ เป็นสิ่งที่จะนำพาไปสู่การรู้จักพระองค์ การประทานความสำเร็จของพระองค์ เป็นสิ่งที่จะนำไปสู่การเชื่อฟังพระองค์ และการปกป้องของพระองค์ เป็นสิ่งที่จะนำไปสู่การหลีกเลี่ยงออกห่างการฝ่าฝืนพระองค์ ความเมตตาของพระองค์ เป็นสิ่งที่จะนำไปสู่การกลับเนื้อกลับตัว และการกลับเนื้อกลับตัว เป็นทางที่จะนำไปสู่การให้อภัยของพระองค์ และการได้เข้าไปอยู่ใกล้พระองค์...

เวลาต่างๆทั้งหมด เป็นของอัลลอฮ์ และเวลาที่ดีที่สุด คือ เวลาที่ความจริงถูกนำมาปฏิบัติต่อกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้พระองค์ทรงพอพระทัย”

 

          เราขอต่ออัลลอฮ์  ทรงรับคำพูด และการกระทำที่ดีต่างๆของเราทุกคน ขอพระองค์ทรงปรับปรุงสภาพของเรา และบรรดามุสลิม ขอพระองค์ทรงให้พวกเขามีเอกภาพ มีความสมานฉันท์ ในการปฏิบัติดี และมีความยำเกรง ขอพระองค์ทรงเปิดหนทางแห่งความดีต่างๆแก่พวกเขา ขอพระองค์ทรงยกพวกเขาขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงส่ง และขอพระองค์ทรงทำให้พวกเขามีความมั่นคง เหมือนกับที่พระองค์ได้ทรงทำให้บรรดาผู้มาก่อนพวกเขามีความมั่นคงมาแล้ว...ขอพระองค์ทรงตอบรับด้วยเถิด

 

          มหาบริสุทธิ์แด่พระผู้เป็นเจ้า ขอความสุขสันติจงมีแด่บรรดาเราะซูล ขอสรรเสริญอัลลอฮ์ พระผู้เป็นเจ้าแห่งสากลโลก ขออัลลอฮ์  ทรงประทานพรแก่ท่านนะบี มุฮัมมัด ผู้นำของเรา  วงศ์วานของท่าน บรรดาสาวกของท่านทุกคน และบรรดาผู้ที่เจริญรอยตามพวกเขาเหล่านั้นด้วยดีจวบจนวันกิยามะฮ์ด้วยเถิด