วิเคราะห์พ่อแม่ยุคใหม่ ให้อิสระลูกนอกบ้านน้อยลง
"สังคมเปลี่ยน การเลี้ยงเด็กจึงต้องเปลี่ยน"
คำกล่าวข้างต้นไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องที่พ่อแม่หลายคนคงต้องยอมรับกับตัวเองว่า ครอบครัวของตนเองในตอนนี้ ไม่อาจเลี้ยงลูกในแบบเดียวกับที่เคยถูกพ่อแม่เลี้ยงมาในอดีตได้อีกต่อไปแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งเล่นทั่วหมู่บ้าน เล่นกีฬากับเพื่อน ๆ จนค่ำมืด เก็บผลไม้จากสวนเพื่อนบ้าน ยิงนก ตกปลา อันเป็นกิจกรรมที่คนในยุคเบบี้บูมเคยทำได้อย่างอิสระ มาถึงในวันนี้ กับเงื่อนไขในการเลี้ยงดูเด็กเจเนอเรชั่นนี้ หลายคนอาจต้องยอมรับว่าพวกเขาไม่อาจปล่อยให้ลูกเติบโตขึ้นมาภายใต้ความไว้เนื้อเชื่อใจ หรือสิ่งแวดล้อมเช่นวัยเยาว์เหล่านั้นได้อีกต่อไปแล้ว
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับครอบครัวในปัจจุบันก็คือ การที่พ่อแม่ผู้ปกครอง "เข้มงวด" กับเวลาและกิจกรรมที่ลูกอยู่นอกบ้าน ขณะเดียวกัน ก็ให้อิสระกับลูก ๆ เวลาอยู่ที่บ้านมากกว่าครอบครัวในยุค 70 ปีก่อน จนทำให้ปู่ย่าตายายมองเด็กในปัจจุบันว่า "ก้าวร้าวเกินวัย หรือเกินกำลังจะควบคุมดูแล"
"การที่พ่อแม่ผู้ปกครองเลือกให้อิสระกับลูก ๆ ในการแสดงออกทั้งด้านดีและด้านไม่ดีมากขึ้น เวลาที่ลูกอยู่ในบ้าน เป็นคำตอบที่สะท้อนให้เห็นว่า ครอบครัวของสังคมในปัจจุบันกำลังสร้างกำแพงขึ้นมาป้องกันลูกจากการมีส่วนร่วมกับครอบครัวอื่น ๆ ในชุมชนที่พวกเขาพักอาศัยอยู่"มาร์เคลล่า รูเธอร์ฟอร์ด (Markella Rutherford) นักวิจัยแห่ง Wellesley College ในแมสซาชูเสตต์ ผู้ศึกษาข้อมูล และเขียนรายงานชิ้นนี้กล่าวให้ความเห็น
นักวิจัยคนดังกล่าว ได้ทำการศึกษาโดยรวบรวมเอกสารคำแนะนำในการเลี้ยงลูกที่ตีพิมพ์ลงใน Parents Magazine ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1929 - 2006 จำนวน 300 ชิ้นและพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อคอลัมน์คำแนะนำต่าง ๆ สำหรับพ่อแม่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มักเน้นการสอนให้ลูกเชื่อฟัง หรือทำให้เด็กเคารพพ่อแม่ การแสดงออกทางความคิดของลูกที่ขัดแย้งกับพ่อแม่จึงเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับการยอมรับ
"พ่อแม่ในยุค 70 ปีที่แล้ว ได้รับคำแนะนำในเลี้ยงลูกว่า ควรวางระเบียบต่าง ๆ ภายในบ้านอย่างเข้มงวด กำหนดให้เป็นกิจวัตร ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การเข้านอน งานบ้านที่ต้องรับผิดชอบ ต่างจากเด็กในยุคนี้ที่พ่อแม่เปิดโอกาสให้ใช้ชีวิตในบ้านได้อย่างอิสระ"
สิ่งที่ตรงกันข้ามอีกประการหนึ่งก็คือ เด็ก ๆ ในยุคก่อนกลับได้อิสระในการเล่นนอกบ้านอย่างมาก เขาสามารถเดินไปทั่วชุมชน แวะบ้านนั้นทักบ้านนี้ ทำความรู้จักกับเด็ก ๆ บ้านใกล้เรือนเคียงได้ ขณะที่สื่อ หรือคอลัมน์แนะนำสำหรับพ่อแม่ยุคนี้กลับกลายเป็นว่า การออกไปเที่ยวข้างนอก หรือการเข้าร่วมกิจกรรมสาธารณะกลับเต็มไปด้วยกฎระเบียบ เช่น ต้องจูงมือไว้อย่าปล่อยให้หลุด ต้องเขียนป้ายชื่อใส่กระเป๋า ต้องหาโทรศัพท์มือถือให้ลูกใช้ติดต่อสื่อสาร ต้องไปนั่งเฝ้าที่หน้าสถาบันกวดวิชา ฯลฯ
สาเหตุที่ทำให้พ่อแม่ร่างกรอบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ สำหรับเวลานอกบ้านของลูก ๆ มากขึ้น ก็เพื่อให้มั่นใจว่าลูกของตนนั้นจะปลอดภัยจากสังคมในปัจจุบันนั่นเอง
"เป็นเพราะภัยสำหรับเด็กในยุคนี้ร้ายแรงขึ้นกว่าในอดีต มีทั้งเด็กถูกลักพาตัว เด็กถูกล่วงละเมิด เด็กถูกกดขี่ใช้แรงงานอย่างผิดกฎหมาย พ่อแม่จึงไม่อาจไว้วางใจสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อีกต่อไป นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า เพราะเหตุใด บทความ หรือคอลัมน์ต่าง ๆ ในสื่อจะพร้อมใจกันตอบสนองต่อปัญหาดังกล่าวกันถ้วนหน้า" มาร์เคลล่ากล่าว
อย่างไรก็ดี ผลการวิจัยอีกมากต่างก็มีความเห็นสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันว่า การเปิดโอกาสให้เด็กได้มีอิสระในการเล่นนอกบ้าน หรือการทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัวอื่น ๆ ในชุมชนเป็นสิ่งจำเป็น และมีความสำคัญต่อพัฒนาการเด็กไม่แพ้การทำกิจกรรมร่วมกับพ่อแม่ แม้สภาพสังคมในปัจจุบันจะไม่เอื้อต่อแนวทางนี้แล้วก็ตาม
เรียบเรียงจาก Time.com
Life & Family / Manager