เพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัว
พฤติกรรมต่างๆ ของมนุษย์ทั้งในทางที่ดีและชั่ว ได้รับอิทธิพลมาจากหลายๆ ปัจจัย หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ การคบเพื่อนเพื่อนฝูงและมิตรสหายนับได้ว่ามีความสำคัญต่อมนุษย์แต่ละคน เกือบจะพูดได้ว่าคนๆหนึ่งไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขถ้าหากเขาไม่มีเพื่อนที่สามารถร่วมแบ่งปันความสุขและแบ่งเบาความทุกข์ด้วยกัน
โดยปกติแล้ว บุคคลที่เป็นเพื่อนฝูงมักจะมีอะไรบางอย่างที่พอจะเป็นจุดดึงดูดให้สามารถคบหากันได้ เช่นความชอบในบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายกัน อุปนิสัยใจคอที่ตรงกัน เป็นต้น ดังนั้นผู้เป็นเพื่อนจึงมักจะมีอิทธิพลต่อกลุ่มเพื่อนด้วยกันอยู่เสมอ เพราะต้องอยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน ทำอะไรด้วยกันตลอดเวลา
การเลือกเพื่อนจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้าได้เพื่อนดีมาคบก็เสมือนว่าได้ของดีมาและช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้เราดีมากขึ้น แต่ถ้าได้เพื่อนชั่วก็เท่ากับว่ากำลังเดินตามหลังเพื่อนไปหาความชั่วนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม จึงได้เปรียบเทียบระหว่างเพื่อนดีและเพื่อนชั่วว่าเหมือนคนขายน้ำหอมและช่างตีเหล็ก
ในหะดีษของท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม บทหนึ่งมีใจความว่า
อุปมามิตรที่ดีและที่ชั่วนั้น เปรียบได้กับคนขายน้ำหอมและช่างตีเหล็ก
เพื่อนดีคือคนขายน้ำหอมซึ่งเขาอาจจะแจกน้ำหอมให้ท่าน
หรือไม่เช่นนั้นท่านก็ได้ซื้อน้ำหอมจากเขา
เพื่อนชั่วก็คือช่างตีเหล็กซึ่งเขาอาจจะทำให้ลูกไฟกระเด็นไปโดนเสื้อผ้าของท่านให้เกิดรอยไหม้
หรือไม่ก็ท่านจะต้องได้รับกลิ่นเหม็นจากเขา
(รายงานโดยอัล-บุคอรีย์และมุสลิม)
เพื่อนดีมักจะช่วยเหลือเพื่อนฝูงในทางที่ดี ในยามที่เพื่อนทำผิดเขากล้าที่จะเตือนสติให้เพื่อนสำนึกและคิดได้ คอยให้กำลังใจในทางถูกต้อง มีความจริงใจที่ต้องการให้เพื่อนได้ดีและหลีกห่างจากความชั่ว และในบางครั้งเขาอาจจะยังเป็นตัวอย่างที่ดีที่ชักจูงเพื่อนๆ คนอื่นให้อยากเป็นคนดีเช่นเดียวกับเขา
ส่วนเพื่อนที่ไม่ดีนั้น มีอิทธิพลในทางที่ไม่สมควรเป็นส่วนใหญ่ มักจะชักจูงกันทำในสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายโดยไม่ได้คิดไตร่ตรองถึงความถูกต้องและผลที่ตามมา อาจจะทำให้มีนิสัยพาล หรืออย่างน้อยที่สุดการคบเพื่อนที่ไม่ดีก็จะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นที่ครหาเพราะคบอยู่กับกลุ่มเพื่อนแบบนั้น
เป็นที่ทราบกันอย่างชัดเจนว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับวัยรุ่นในปัจจุบัน เช่น พฤติกรรมเบี่ยงเบน ติดยาเสพติด แก๊งค์กวนเมือง ฯลฯ มักจะมีกลุ่มเพื่อนมาเกี่ยวข้องแทบทั้งสิ้น และสร้างความลำบากความเดือนร้อนให้กับผู้อื่นอยู่เป็นนิจ
ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องฉลาดเลือกและฉลาดคบหากับเพื่อนฝูง โดยควรเลือกเพื่อนที่ดีเป็นมิตร เพื่อให้สามารถช่วยเหลือกันได้ในสิ่งที่ดี นอกจากนี้ตัวเราเองก็ควรเป็นเพื่อนที่ดีแก่เพื่อนฝูง สามารถให้คำแนะนำหรือคำตักเตือนแก่เพื่อนด้วยกันได้เมื่อเห็นเพื่อนประพฤติไม่เหมาะสม ต้องหวังดีกับเพื่อนโดยถือว่าเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในความดีงาม ซึ่งเป็นสิ่งที่อิสลามสนับสนุนอย่างยิ่ง
ที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ในวันอาคิเราะฮฺเราจะต้องอยู่กับเพื่อนฝูงที่เรารักอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่อันสงบสุขในสวรรค์ หรือสถานที่แห่งการทรมานในไฟนรก เช่นที่ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวไว้มีใจความว่า
คนๆ หนึ่งนั้นจะอยู่กับคนที่เขารัก
(รายงานโดยอัล-บุคอรีย์และมุสลิม)
อ.ซุฟอัม อุษมานIslam House