เดือน"รอมาฏอน" อันประเสริฐ

ดร.อับดุลกุ๊ดดู๊ซ อิบนุ อุซามะฮฺ อัซซามัรรออียฺ

 

เป็นเดือนที่มีผลสิ่งตอบแทนต่างๆ จากอัลลอฮฺ  ที่ไม่สามารถนับคำนวณได้

อบูฮูรอยเราะฮ์  กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลอฮ์   กล่าวไว้ว่า

((كل عمل ابن آدم يضاعف ، الحسنة عشرأمثالها إلى سبعمائة ضعف ، قال الله تعالى: إلاالصوم فإنه لي وأنا أجزي به ، يدع شهوته وطعامه من أجلي...))

“การงานของลูกหลานอาดัม ทุกอย่างจะได้รับการเพิ่มพูน หนึ่งความดีมีค่าเท่ากับสิบความดี ไปจนถึงเจ็ดร้อยเท่า อัลลอฮ์   ตรัสไว้ว่า :

นอกจากการถือศีลอด เพราะว่า มันเป็นของข้า และข้าจะเป็นผู้ตอบแทนให้ เขาได้ทิ้งความอยาก ความใคร่ของเขา และอาหารของเขาเพื่อข้า...” 

(รายงานโดย มุสลิม ในซอฮี๊ฮฺของท่าน เลขที่ 1151)

 

 เป็นเดือนที่มีการคาดโทษ สัญญาร้าย

          ดังนั้น จงระวังอย่าให้ สาเหตุต่างๆ ของความหายนะเกิดขึ้นแก่ท่านทั้งหลาย ทั้งนี้ เนื่องจากท่านนะบี มุฮัมมัด ได้เตือนผู้ที่มีโอกาสได้มีชีวิตอยู่ในเดือนรอมาฎอน แต่ไม่ได้ซักฟอกตัวของเขา หรือห้ามตัวของเขาจากบาป และการฝ่าฝืนต่างๆ และไม่ได้รับประโยชน์จากกลิ่นไอของเดือนที่มีเกียรตินี้ ว่า บั้นปลายของมันนั้น ช่าวชั่ว และเลวร้าย และขอความคุ้มครองต่ออัลลอฮ์   แล้วกล่าวว่า

 ((من لم يدع قول الزوروالعمل به ، فليس لله حاجة في أن يدع طعامه وشرابه))

 “ใครที่ไม่ละทิ้งการพูดเท็จ และการกระทำสิ่งที่เป็นเท็จแล้ว

อัลลอฮ์ มิทรงต้องการในการที่เขาจะอดอาหารของเขา และเครื่องดื่มของเขาแต่ประการใด” 

 (รายงานโดย บุคอรี ในซอฮี๊ฮฺของท่าน เลขที่ 1903)

 

เป็นเดือนที่บ่งบอกซึ่งอุปนิสัยใจคอและมารยาทของมุสลิม

          ท่านนะบี มุฮัมมัด   ได้สอนถ้อยคำที่จะใช้เตือนตัวของท่าน และตอบโต้ศัตรูของท่าน ซึ่งใครที่ได้ทำร้ายท่านด้วยคำพูด หรือการกระทำ ในร่มเงาแห่งเดือนรอมาฎอน ดังนั้น จำเป็นที่ท่านจะต้องยึดมั่นอยู่กับมารยาทของบรรดาผู้ถือศีลอด ใช้มารยาทที่ดีในการโต้ตอบศัตรู ทั้งนี้ เนื่องจากท่านนะบี มุฮัมมัด ได้กล่าวว่า

))...إذاكان يوم صوم أحدكم ، فلايرفث ولايصخب، فإن سابه أحد أوقاتله ، فليقل: إني صائم((

“...เมื่อคนหนึ่งคนใดของท่านทั้งหลายถือศีลอด เขาก็อย่าได้พูดจาชั่วช้าลามก และอย่าใช้เสียงดัง (เกินเหตุ)

แล้วหากคนหนึ่งคนใดมาด่าเขา หรือท้าตีท้าต่อย ก็ให้เขากล่าวว่า แท้จริง ฉันนี้ เป็นผู้ถือศีลอด”

(รายงานโดย บุคอรี ในซอฮี๊ฮฺของท่าน เลขที่ 1904)

อบุดดัรด๊าอฺ ได้รายงานว่า ท่านนะบี มุฮัมมัด กล่าวไว้ว่า

 ((ماشيء أثقل في ميزان المؤمن يوم القيامة من خلق حسن ، وإن الله ليبغض الفاحش البذيء))
 
“ไม่มีสิ่งใดในวันกิยามะฮฺมีน้ำหนักในตราชั่งของผู้ศรัทธามากไปกว่า มารยาทที่ดี และแท้จริง อัลลอฮฺ ทรงโกรธกริ้วผู้ที่พูดชั่วช้าลามก” 

(รายงานโดย ติมิซียฺ ในอัซซุนัน 4/362 เลขที่ 2002 และกล่าวว่า เป็นฮะดีษอะซันซอฮี๊ฮฺ)

 

เป็นเดือนที่มีป้อมปราการที่เหนียวแน่น

         มีรายงาน จากท่านเราะซูล ในเรื่องของความประเสริฐของการถือศีลอด และผลของมันที่จะย้อนกลับมาสู่ผู้เป็นมุสลิม

 ((الصيام جُنّة ، وحصن حصين من النار ))

“การถือศีลอดเป็นโล่ป้องกัน และป้อมปราการที่เหนียวแน่น ที่จะปกป้องให้รอดพ้นจากนรก”

(รายงานโดย  อิมามอะฮฺมัด ในมุสนัดของท่าน 2/402 ด้วยสายสืบที่ฮะซัน)

         ดังนั้น กลิ่นไอของของการถือศีลอดจะทำให้ท่านห่างไกลจากไอร้อนของนรก เป็นเวลาถึงเจ็ดสิบปีด้วยกัน ขอให้ได้ห่างไกลจากนรกมากๆ และยินดีต้อนรับการถือศีลอด ที่จะทำให้ท่านห่างไกลจากมัน และทำให้มันห่างไกลจากท่าน ดังมีรายงานมาจากท่านนะบี มุฮัมมัด ได้กล่าวไว้ว่า.

 ((مامن عبد يصوم في سبيل الله تعالى إلاباعدالله بذلك اليوم وجهه عن النار سبعين خريفا ))

“ไม่มีบ่าวคนใดที่ถือศีลอดในหนทางของอัลลอฮฺ 

นอกจากอัลลอฮ์  จะทรงให้ใบหน้าของเขาห่างไกลจากไฟนรกด้วยวันกิยามะฮ์ เป็นระยะเวลาถึง 70 ปีด้วยกัน” 

(รายงานโดย มุสลิม ในซอฮี๊ฮฺของท่าน เลขที่ 1153)

          ขออัลลอฮ์  ได้ประทานความสำเร็จแก่เรา  ท่านจงทำป้อมปราการเพื่อตัวของท่าน ที่จะปกป้องให้พ้นจากไฟนรก ด้วยการถือศีลอดหนึ่งเดือน ในปีหนึ่ง และนี่ช่างง่ายดายเสียเสียเหลือเกิน หากเราได้คิดถึงการประทานให้ที่ยิ่งใหญ่ 

      
เป็นเดือนที่ช่วยให้พ้นโทษที่มีการสะสม

           ดังนั้น จงรักษาการสะสมซึ่งการไถ่โทษต่างๆ ณ อัลลอฮ์  และจงรู้ไว้เถิดว่า มีรายงานมาจากท่านนบี มุฮัมมัด ท่านได้กล่าวไว้ว่า.

 ((الصيام والقرآن يشفعان للعبد يوم القيامة ، يقول الصيام: أي رب منعته الطعام والشهوة فشفعني فيه...))

“การถือศีลอด และอัลกุรอาน จะทำหน้าที่ในการขอชะฟาอะฮ์ (ไถ่โทษ) ให้แก่บ่าวในวันกิยามะฮ์ การถือศีลอดจะกล่าวว่า

 โอ้ พระผู้เป็นเจ้าของฉัน ฉันได้ห้ามเขาไม่ให้กินอาหาร และความอยากความใคร่

ดังนั้นขอพระองค์ได้ทรงให้ฉันได้ทำหน้าที่ในการขอชะฟาอะฮ์ (ไถ่โทษ) ให้แก่เขาด้วย...”    

( รายงานโดย อัลฮากิม ในมุสตัดร็อกของท่าน 1/554 และกล่าวว่า เป็นฮะดีษซอฮี๊ฮฺ)

เป็นเดือนที่จะมีการจบสิ้นลงด้วยดี

         ทั้งนี้ เนื่องจากว่า ท้ายสุดของการการเคารพภักดีในเดือนนี้ ทำให้ได้เข้าสวรรค์ เหมือนกับที่อับดุรเราะฮฺมาน อิบนุ ศ็อครฺ ได้รายงานว่า ท่านเราะซูลุลลอฮฺ กล่าวไว้ว่า.

)) من آمن بالله وبرسوله ، وأقام الصلاة ، وصام رمضان  كان حقاعلى الله أن يدخله الجنة ، جاهد في سبيل الله أوجلس في أرضه التي ولد فيها...((

“ผู้ใดที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และเราะซูล  ของพระองค์ และดำรงละหมาด และถือศีลอดในเดือนรอมาฎอน

ก็เป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์  ที่จะทรงให้เขาได้เข้าสวรรค์ไม่ว่า เขาได้ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์  หรือนั่งอยู่ในแผ่นดิน ที่เขาเกิดก็ตาม...”

(รายงานโดย บุคอรีในซอฮี๊ฮฺของท่าน 3/1028 เลขที่ 2637)

         ดังนั้น เมื่อการงานของท่านจบลงด้วยการถือศีลอด ท่านก็จงรู้ไว้เถิดว่า ท่านได้เป็นชาวสวรรค์คนหนึ่ง เนื่องจากมีการรายงานมาจากท่านเราะซูลุลลอฮฺ กล่าวไว้ว่า.

))...و من صام يوما ابتغاء وجه الله ختم له به دخل الجنة...((

“และผู้ใดถือศีลอดวันหนึ่งโดยหวังในพระพักตร์แห่งอัลลอฮฺ  เขาก็จะได้รับการประทับตรา เขานั้นจะได้เข้าสวรรค์”

(รายงงานโดย อะหฺมัดในมุสนัดของท่าน 5/391)

         มีรายงานมาจากฮุซัยฟะฮฺ กล่าวว่า ฉันได้เอาท่านนบี มุฮัมมัด มาแนบกับอกของฉัน แล้วท่านกล่าวว่า.

 ((من قال:لاإله إلاالله ، ختم له بهادخل الجنة ، ومن صام يوماابتغاء وجه الله ختم له به دخل الجنة ، ومن تصدق بصدقة ابتغاء وجه الله ختم له بها دخل الجنة))

“ผู้ใดกล่าวว่า"  ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจากอัลลอฮ์  เท่านั้น " จนกระทั่งเขาจบชีวิตลง เขาจะได้เข้าสวรรค์

และผู้ใดถือศีลอดวันหนึ่ง โดยหวังในพระพักตร์แห่งอัลลอฮ์  เขาจะได้เข้าสวรรค์

และผู้ใดที่ได้ทำทานหนึ่งทานใด โดยหวังในพระพักตร์แห่งอัลลอฮ์ เขาจะได้เขาสวรรค์”

(รายงานโดย อัลมุนซิธิรียฺในอัตตัรฆี๊บ วัตตัรฮี๊บ 2/51 เลขที่1460)

และกล่าวว่า อะหฺมัดได้รายงานไว้ ด้วยสายสืบที่ใช้ได้  และอัลอัศบะฮานียฺ ด้วยกับคำว่า       "ياحذيفة من ختم له بصيام يوم يريد به وجه الله عزوجل أدخله الله الجنة" .

 

เป็นเดือนแห่งการถือศีลอด ซึ่งไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน

          มีรายงานจากอบู อุมามะฮฺ  กล่าวว่า ฉันได้กล่าวว่า โอ้ ท่านเราะซุลุลลอฮ์ ขอให้ท่านได้ใช้ฉันซึ่งสิ่งที่อัลลอฮ์  จะทรงให้มันป็นประโยชน์แก่ฉัน  ท่านกล่าวว่า.

  (( عليك بالصيام ، فإنه لامثل له ))

“ขอให้ท่านได้ถือศีลอด เพราะว่า ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเสมอเหมือนอีกเลย”

(รายงานโดย อิมามอะฮฺหฺมัดในมุสนัดของท่าน 5/391)

 

 

 

หนังสือ ของขวัญอันล้ำค่าเนื่องในโอกาสเดือนรอมาฎอนอันประเสริฐ