เดือนของการเปิดประตูแห่งความเมตตา
ดร.อับดุลกุ๊ดดู๊ซ อิบนุ อุซามะฮฺ อัซซามัรรออียฺ
โอ้ มุสลิมที่มีเกียรติ:
ท่านอย่าได้ปล่อยให้เดือนรอมาฎอนผ่านไป ในขณะที่ท่านอยู่ในสภาพของผู้ปล่อยปละละเลย แต่ท่านจะต้องรีบเร่งไปสู่การทำให้มันเกิดภาคผลแห่งความดีออกมา ในขณะที่ท่านรู้ถึงความประเสริฐอันยิ่งใหญ่ของมัน คุณค่าแห่งเวลาของมัน ในขณะที่ท่านเป็นผู้ที่มีการเตรียมพร้อม มีสติปัญญา เอาจริงเอาจัง มีความขยันหมั่นเพียร เพราะเป็นเดือนที่มีของขวัญอันล้ำค่าต่างๆมากมาย
การเปิดประตูฟากฟ้า สวรรค์ และความเมตตา
อบูฮุรอยเราะฮฺ รายงานว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ กล่าวไว้ว่า
(( إذاجاء رمضان فتحت أبواب الجنة .))
“เมื่อเดือนรอมาฎอนได้มาถึง ประตูของสวรรค์จะถูกเปิด”
(รายงานโดย อัลบุคอรียฺ 1898)
ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องให้โอกาสที่มีการเปิดประตูสวรรค์ ที่มีภาคผลออกมา และประกอบกิจกรรมเพื่อจะได้อยู่ในบรรดาผู้ที่มีสิทธิ์เข้าสวรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากประตูของบรรดาผู้ถือศีลอด ทั้งนี้เนื่องจาก สะฮ์ลฺ อิบนุ สะอ์ดฺ ได้รายงานจากท่านนบี มุฮัมมัด กล่าวไว้ว่า
((في الجنة ثمانية أبواب فيها باب يسمى الريان لايدخله إلاالصائمون .))
“ในสวรรค์นั้น มีประตูอยู่แปดบานด้วยกัน บานหนึ่งมีชื่อว่า "อัรรอยยาน"
จะไม่มีใครเข้าไปทางประตูนี้ได้ นอกจากบรรดาผู้ถือศีลออดเท่านั้น”
(รายงานโดย บุคอรียฺ ในซอฮี๊ฮฺของท่าน 3/1188, เลขที่ 3084)
เดือนรอมาฎอนจึงเป็นเดือนแห่งความหวังของบรรดาผู้ถือศีลอด ในการที่จะได้เข้าสู่สวรรค์ "อัรรอยยาน " ซึ่งเป็นประตูของบรรดาผู้ถือศีลอดในสวรรค์
(( إن في الجنة بابايقال له الريان ، يدخل منه الصائمون يوم القيامة ، لايدخل معهم أحدغيرهم ، يقال: أين الصائمون ؟ فيدخلون منه ، فإذادخل آخرهم ، أغلق فلم يدخل منه أحد .))
“ในสวรรค์นั้น มีประตูอยู่ประตูหนึ่ง มีชื่อว่า อัรรอยยาน ซึ่งบรรดาผู้ถือศีลอดจะได้เข้าไปทางประตูนี้ ในวันกิยามะฮ์
ไม่มีผู้ใด นอกเหนือนอกจากเขาจะเข้าไปกับพวกเขาได้
จะมีเสียงเรียกขึ้นมาว่า บรรดาผู้ถือศีลอดอยู่ไหน ? แล้วพวกเขาจะเข้าไปทางประตูนั้น
เมื่อคนสุดท้ายของพวกเขาเข้าไปแล้ว ประตูจะถูกปิด จะไม่มีคนหนึ่งคนใดเข้าไปทางประตูนี้ได้”
(รายงานโดย มุสลิม เลขที่ 1152)
ท่านทั้งหลายจงพยายามให้ได้เป็นคนหนึ่งจากพวกเขาเถิด .
เป็นเดือนที่มีการล่ามโซ่พวกมารร้าย ประตูของนรกถูกปิด
รายงานของอบู ฮุรอยเราะฮฺ ว่า ท่านร่อซูลุลลอฮฺ กล่าวไว้ว่า
(( إذادخل شهررمضان فتحت أبواب السماء ، وغلقت أبواب جهنم ، وسلسلت الشياطين . ))
“เมื่อเดือนรอมฎอนได้มาถึง ประตูต่างๆ ของชั้นฟ้าจะถูกเปิด
ประตูต่างๆ ของนรกจะถูกปิด และพวกมารร้ายก็จะถูกล่ามโซ่”
(รายงานโดย บุคอรียฺ ในซอฮี๊ฮฺของท่าน 3/1188, เลขที่ 1899)
บรรดามุสลิมจะต้องแสวงหาประโยชน์จากการช่วยเหลือของอัลลอฮ์ เมื่อพระองค์ได้ล่ามโซ่แก่พวกมารร้าย (ชัยฏอน) บดบังเล่ห์กลของพวกมัน และทำให้การงานของพวกมันเสียหาย พวกท่านจงระลึกเสมอว่า อัลลอฮฺ นั้น ได้ทรงหยิบยื่นให้แก่เราในเดือนที่มีเกียรตินี้ ด้วยพลังแห่งศรัทธาต่อพระองค์ ตราชั่งในเดือนนี้มีน้ำหนักมากกว่า กำลังของชัยฏอน และพลังของทางนำเป็นสิ่งที่ปรากฏชัด ในการเอาชนะสิ่งคลุมเครือต่างๆของความใคร่ ผู้ที่มีสติปัญญา คือ ผู้มีความรอบรู้ และทำการปฏิบัติตนด้วยเครื่องหมายแห่งการศรัทธา และใช้ช่วงเวลาที่มีค่านี้หมดไปกับการทำให้ความดีงาม เพื่อให้ความเที่ยงตรงได้ดำรงอยู่ตลอดไป
ประตูต่างๆแห่งความเมตตาจะถูกเปิด
. (( ...فتحت أبواب الرحمة )) “…ประตูต่างๆ แห่งความเมตตาถูกเปิด”
(รายงานโดย มุสลิม เลขที่ 1079)
ใครที่มีการฝ่าฝืนในบทบัญญัติอิสลาม หรือมีการขาดตกบกพร่องในการเคารพภักดี ก่อนที่จะเข้าสู่เดือนรอมาฎอน เพราะฉะนั้นเขาจึงเป็นผู้ที่จะต้องมีความระมัดระวังอย่างมาก ในการไขว่คว้าเพื่อให้ได้รับความเมตตาแห่งพระผู้เป็นเจ้า และใช้ประโยชน์จากเวลาที่มีอยู่ ดังนั้นมุสลิมจะต้องฝึกฝนตนเอง ให้มีความปรารถนาการเมตตาจากอัลลอฮ์ อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะในเทศกาลแห่ง การทำความดีงาม
ในเดือนรอมาฎอน อัลลอฮ์ ได้ทรงตรัสว่า การแสวงหาความเมตตานั้น ตั้งอยู่บนรากฐานที่มั่นคง เช่น การศรัทธาต่อพระองค์ การรักษาการงานที่ดี การดำรงมั่นที่บริสุทธิ์ผุดผ่องเพื่อพระองค์ หมายความว่า เราต้องดำเนินตามหนทางแห่งความเมตตา เพื่อให้ได้มาซึ่งภาคผลของความดีงาม
อัลลอฮฺ ตรัสไว้ว่า
“แล้วสำหรับบรรดาผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ และยึดมั่นอยู่กับพระองค์
พระองค์ก็จะทรงให้พวกเขาได้เข้าอยู่ในความเมตตา และความโปรดปรานของพระองค์
และพระองค์จะทรงนำทางพวกเขาสู่บนหนทางที่เที่ยงตรงของพระองค์ ”
(อัลนิซาอฺ 175)
ถึงแม้มุสลิมจะเคารพภักดีมากขนาดไหนก็ตาม เขาก็ยังมีความต้องการความเมตตาจากพระองค์อัลลอฮฺ ซึ่งพระองค์ เป็นผู้ที่มีความเมตตาอย่างมากมาย ให้อภัยตลอดเวลา ประตูแห่งความเมตตาของพระองค์ มีมากเสียจนสามารถที่จะเปิดรับบรรดาบ่าวที่ให้เอกภาพแด่พระองค์ ที่กลับเนื้อกลับตัวและปรับปรุงแก้ไข ถึงแม้จะเกิดความผิดพลาดโดยไม่เจตนา ในการฝ่าฝืนพระองค์
อัลลอฮฺ ตรัสว่า
“และเมื่อบรรดาผู้ที่ศรัทต่อบรรดาโองการต่าง ๆ ของเราได้มาหาเจ้า เจ้าก็จงกล่าวว่า
ขอศานติจงบังเกิดแก่พวกเจ้า พระผู้เป็นเจ้าของเจ้าได้ทรงกำหนดแก่ตัวของพระองค์ให้มีความเมตตา
แท้จริง ผู้ใดในพวกเจ้าที่ทำความชั่ว ด้วยความไม่รู้ หลังจากนั้นเขากลับเนื้อกลับตัวในภายหลัง และปรับปรุงแก้ไข
แท้จริง พระองค์นั้น เป็นผู้ให้อภัยเสมอ ทรงเอ็นดูเมตตาตลอด”
(อัลอันอาม 54)
อัลกุรอานได้บันทึกเรื่องราวต่างๆของชนรุ่นก่อนๆว่า ทั้งที่พวกเขาเป็นนบียฺได้รับความรักจากอัลลอฮฺ อย่างมาก แต่พวกเขามีความหมั่นเพียรพยายาม ในการขอความเมตตาจากพระองค์ตลอดเวลา
อัลลอฮฺ ตรัสว่า
“โอ้ พระผู้เป็นเจ้าของเรา ขอพระองค์อย่าได้ทรงให้หัวใจของเราเฉไฉไป หลังจากที่พระองค์ได้ทรงนำทางเรา
และขอพระองค์ได้ทรงให้ความเมตตา จาก ณ ที่พระองค์ท่านแก่เรา ซึ่งแท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ที่ให้อย่างมากมาย”
(อาละอิมรอน 8)
นั่นเพราะว่า ความเมตตาจากอัลลอฮฺ นั้นเมื่อได้เกิดแก่บ่าวแล้วก็จะมีสิ่งบ่งบอกของความโปรดปราน การประทานความสำเร็จ จากพระองค์ ทั้งในโลกนี้ และโลกหน้า:
“และสำหรับบรรดาผู้ที่ใบหน้าของพวกเขาขาวผ่อง พวกเขาก็อยู่ในความเมตตาของอัลลอฮฺ
พวกเขาอยู่จะในนั้นไปตลอดกาล”
(อาละอิมรอน 107)
เป็นเดือนที่มีการป้องกันให้พ้นจากการทดสอบ
ดังนั้น เมื่อท่านต้องการที่จะปกป้องตัวของท่านให้พ้นจากการทดสอบทั้งที่มองเห็น และมองไม่เห็น และปกป้องวิญญาณให้พ้นจากความชั่วร้ายของจิตใจ และปกป้องร่างกายให้พ้นจากโรคร้ายต่างๆ และทำให้ร่างกายตระหนักด้วยการงดละ และลดภาระต่างๆของอาหาร เครื่องดื่ม และผลกระทบต่างๆที่มีความรุนแรงตลอดระยะเวลาหนึ่งปี จึงต้องถือศีลอด เนื่องจากท่านนบี มุฮัมมัด กล่าวไว้ว่า
((..والصيام جُنَّة...))
“...และการถือศีลอดนั้น เป็นโล่ปองกัน...”
(รายงานโดย บุคคอรี เลขที่ (1904) และมุสลิม เลขที่ 1151)