คืนลัยละตุล-ก็อดร์
หลักฐานจากอัล-กุรอาน และซุนนะฮฺ
เรียบเรียงโดย ดร.อุษมาน อัล-อัมร์
อัลลอฮฺตรัสว่า
“แท้จริงเราประทานมัน(อัล-กุรอาน)ลงมาในคืนลัยละตุลก็อดร์”
“และอะไรเล่าที่ทำให้เจ้าทราบได้ว่า คืนลัยละตุลก็อดร์นั้นคืออะไร”
“คืนลัยละตุลก็อดร์ คือค่ำคืนที่ดีกว่าหนึ่งพันเดือน”
“บรรดามะลาอิกะฮฺ และอัร-รูห์(ญิบรีล)จะลงมาในคืนนั้น โดยอนุมัติแห่งพระผู้ทรงอภิบาลของพวกเขา เนื่องจากกิจการทุกสิ่ง”
“คืนนั้นย่อมมีแต่ความศานติ จนกระทั่งรุ่งอรุณ”
( ซูเราะฮฺอัล-ก็อดร์ / อายะฮฺที่ 1-5 )
“แท้จริงเราได้ประทานอัล-กุรอานลงมาในคืนอันจำเริญ แท้จริงเราเป็นผู้ตักเตือน”
“ในค่ำคืนนั้นทุกๆกิจการที่สำคัญถูกจำแนกไว้แล้ว”
“โดยทรงบัญชามาจากเรา แท้จริงเราเป็นผู้ส่งมา”
“เป็นความเมตตาจากองค์อภิบาลของเจ้า แท้จริงพระองค์เป้นผู้ทรงได้ยิน เป็นผู้ทรงรอบรู้ยิ่ง”
( ซูเราะฮฺอัด-ดุคอน / อายะฮฺที่ 3-6 )
รายงานจากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ: ท่านนบี กล่าวว่า
“บุคคลใดถือศีลอดในรอมฏอนด้วยความอีม่าน และมุ่งหวังอย่างแท้จริง
ย่อมถูกอภัยให้แก่เขาซึ่งความผิดบาปของเขาที่ผ่านมาในอดีต
และผู้ใดได้ยืนขึ้น(เพี่อทำอิบาดะฮฺ)ในคืนลัยละตุลก็อดร์ด้วยความอีม่าน และมุ่งหวังอย่างแท้จริง
ย่อมถูกอภัยให้แก่เขาซึ่งความผิดบาปของเขาที่ผ่านมาในอดีต(ด้วยเช่นกัน)”
(บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์ และมุสลิม)
และรายงานจากท่านอนัส บินมาลิกกล่าวว่า : เมื่อเข้าสู่เดือนรอมฏอน ท่านเราะซูล ก็ได้กล่าวขึ้นว่า
“แท้จริงเดือนนี้ได้ย่างกรายมายังพวกท่านแล้ว อันเป็นเดือนที่มีค่ำคืนหนึ่งในนั้นดีกว่าหนึ่งพันเดือน
หากบุคคลใดพลั้งพลาดจากมัน ราวกับเขาพลั้งพลาดจากความดีงามทั้งหลายไป
ส่วนบุคคลที่จะพลั้งพลาดมันไป ย่อมมีเพียงผู้ที่อัปโชคเท่านั้น”
(หะดิษหะซัน บันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ)
จากท่านมาลิกเล่าว่า เขาได้ยินมาจากผู้มีความรู้ที่เชื่อถือได้ กล่าวว่า
“แท้จริงท่านเราะซูลุลลอฮฺ ถูกแสดงให้เห็นถึงอายุขัยของมนุษย์ทั้งหลายก่อนหน้านี้ หรือสิ่งที่อัลลอฮฺทรงประสงค์ให้ชีวิตของพวกเขาเป็นไป กระทั่งทำให้ท่านรู้สึกว่าอายุขัยของประชาชาติของท่านนั้นช่างแสนสั้นเสียเหลือเกิน จนแทบมิทันปฏิบัติภารกิจใดๆให้ลุล่วงอย่างเช่นผู้คนอื่นๆ(ก่อนหน้านี้)ได้เลย เพราะมีอายุยืนยาวกว่า ดังนั้นอัลลอฮฺจึงทรงได้ประทานคืน “ลัยละตุลก็อดร์” ซึ่ง(คืนหนึ่งนั้น)ดีกว่าหนึ่งพันเดือนให้แก่ท่าน(เป็นการทดแทน)”
(บันทึกโดยอิม่ามมาลิก ในหนังสือ “อัล-มุวัฏเฏาะอ์” ซึ่งท่านอิบนุอับดิลบิรร์กล่าวว่า : นี้คือ 1 ใน 4 หะดีษที่ไม่มีปรากฏในตำราหะดีษเล่มใดนอกจาก“อัล-มุวัฏเฏาะอ์” เท่านั้น)
และจากท่านมาลิกเช่นกัน เล่าว่าเขาได้รับรายงานว่าท่านสะอีด บินอัล-มุซัยยิบเคยกล่าวไว้ว่า
“บุคคลใดได้ร่วมละหมาดอีชาอ์ในคืน(ที่ตรงกับ)ลัยละตุลก็อดร์ แน่นอนเขาย่อมได้รับโชคผลของเขาแล้วจากคืนนั้น”
บันทึกโดยอิม่ามมาลิกในหนังสืออัล-มุวัฎฎออ์ ท่านอิบนุอับดิลบิรร์ให้กล่าวว่า คำพูดของท่านสะอีด บินอัล-มุซัยยิบดังกล่าวหาใช่ทัศนะของท่านเองไม่ แต่ยึดถือมาอย่างถูกต้อง ในขณะที่สายรายงานของท่านนี้ก็ถือเป็นสายรายงานหนึ่งที่ถูกต้องที่สุด
จงแสวงหาคืนลัยละตุลก็อดร์ และพยายามทำอิบาดะฮฺให้มากที่สุด
รายงานจากท่านหญิงอาอีชะฮฺว่า ท่านเราะซูล เมื่อล่วงสู่สิบวันสุดท้ายของเดือนรอมฏอน ท่านก็จะกล่าวว่า
“พวกท่านทั้งหลายจงแสวงหาลัยละตุลก็อดร์ในช่วงสิบคืนสุดท้ายของรอมฏอนเถิด”
(หะดีษมุตตะฟะกุลอะลัยฮฺ)
อีกรายงานหนึ่งจากท่านหญิงอาอีชะฮฺเช่นกันว่า : แท้จริง ท่านเราะซูล กล่าวว่า
“พวกท่านทั้งหลายจงแสวงหาลัยละตุลก็อดร์ในวันที่จำนวนเป็นคี่จากสิบคืนสุดท้ายของรอมฏอนเถิด”
(หะดีษมุตตะฟะกุลอะลัยฮฺ)
จากท่านอิบนุอุมัรเล่าว่า : มีชายกลุ่มหนึ่งจากบรรดาเศาะฮาบะฮฺของท่านนบี ถูกให้เห็นคืนลัยละตุลก็อดร์ ในความฝันในช่วง 7 คืนสุดท้าย
ท่านนบี จึงกล่าวว่า
“ฉันได้เห็นเหมือนเช่นความฝันของพวกท่านนั้นแหล่ะว่ามันได้เกิดขึ้นในช่วง 7 คืนสุดท้าย
ดังนั้นหากผู้ใดต้องการแสวงหามัน ก็จงแสวงหาในเจ็ด(คืน)สุดท้ายเถิด”
(หะดีษมุตตะฟะกุลอะลัยฮฺ)
จากท่านหญิงอาอีชะฮฺอีกว่า : ท่านเราะซูล เมื่อเข้าสู่ช่วงสิบวันสุดท้าย(ของรอมฏอน)ท่านจะรัดผ้านุ่งของท่านจนแน่นและสร้างสรรค์(บรรยากาศ)เวลายามค่ำคืนของท่าน(ด้วยอิบาดะฮฺ) รวมทั้งปลุกครอบครัวของท่านให้ตื่นขึ้นมาด้วย”
(หะดีษมุตตะฟะกุลอะลัยฮฺ)
อีกรายงานหนึ่งจากนางเช่นกัน เล่าว่า : ท่านเราะซูล จะมุ่งมั่นพยายามเป็นที่สุดในช่วงเดือนรอมฏอน อย่างเช่นไม่เคยพยายามในเดือนอื่นๆ และในช่วงสิบวันสุดท้ายของรอมฏอน ท่านก็จะยิ่งมุ่งมั่นพยายามเป็นที่สุดอย่างเช่นไม่เคยพยายามในช่วงอื่นๆเลย”
(บันทึกโดยมุสลิม)
และรายงานจากท่านหญิงอาอีชะฮฺอีกเช่นกันเล่าว่า :
ฉันเคยถามว่า “โอ้ท่านเราะซูลุลลอฮฺ ขอให้ท่านบอกมาเถิด หากฉันทราบได้ว่าคืนไหนเป็นคืนลัยละตุลก็อดร์ ฉันควรกล่าวเช่นใดหรือ ?”
ท่านตอบว่า “ให้เธอกล่าวขอดุอาอ์ว่า"
ข้อความดุอาอ์
คำอ่าน : อัลลอฮุมมะ อินนะกะอะฟูวุน ตุหิบุลอัฟวะ ฟะอ์ฟุอันนีย์
ความหมาย “โอ้อัลลอฮฺ แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงอภัย และใจบุญยิ่ง ที่ทรงรักซึ่งการอภัย ดังนั้นขอพระองค์ได้ทรงโปรดอภัยแก่ฉันด้วยเถิด”
(บันทึกโดยอัต-ติรมิซีย์ กล่าวว่าเป็นหะดีษหะซัน และเศาะหี๊ห์)
เครื่องหมายของคืนลัยละตุลก็อดร์
ท่านอับดุลลอฮฺ บินมัสอูดกล่าวว่า : บุคคลใดได้ปฏิบัติกิยามุลลัยล์ตลอดทั้งปีเขาย่อมได้พบกับคืนลัยละตุลก็อดร์
ท่านอุบัยย์จึงกล่าวเสริมขึ้นว่า : ขอสาบานต่ออัลลอฮฺผู้ทรงไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ว่า มันย่อมอยู่ในเดือนรอมฏอนแน่นอน และขอสาบานต่ออัลลอฮฺว่าแท้จริงฉันได้ทราบแล้วว่ามันคือคืนไหน มันคือค่ำคืนที่ท่านเราะซูล เคยสั่งใช้ให้เราตื่นขึ้นทำกิยามุลลัยล์ มันคือคืนที่ 27 โดยเครื่องหมายของมันก็คือดวงอาทิตย์จะโผล่ขึ้นมาในเช้าวันใหม่ในสภาพสีขาวนวล ปราศจากแสงที่ร้อนจ้า”
ท่านอิบนุอับบาสรายงานจากท่านนบี กล่าวถึงเกี่ยวกับคืนลัยละตุลก็อดร์ว่า
“ยามค่ำคืนของมันนั้นแจ่มใส ไม่ร้อนและไม่หนาวจัด ครั้นตกมายามเช้าวันนั้นดวงอาทิตย์จะมีสีแดงอ่อน”
(บันทึกโดยอิบนุคุซัยมะฮฺ)
จากท่านญาบิร บินอับดิลลาฮฺ รายงานว่า : ท่านเราะซูล กล่าวว่า
“แท้จริงฉันเคยพบกับคืนลัยละตุลก็อดร์ แต่ต่อมาฉันก็ลืมมันไป แต่ทั้งนี้มันจะอยู่ช่วงสิบวันสุดท้ายในตอนกลางคืน
ซึ่งเป็นคืนที่บรรยากาศแจ่มใส ปรอดโปร่ง ไม่ร้อนและไม่หนาวจัด”
ท่านอัซ-ซุยาดีย์กล่าวเพิ่มเติมว่า
“ในค่ำคืนนั้นดวงจันทร์จะปรากฏขึ้นพร้อมบรรดาดวงดาวต่างๆของมันถึงรุ่งสาง”
ทั้งสองยังกล่าวอีกว่า
“ชัยฎอนของเวลาค่ำคืนนั้นจะไม่ออกมา จนกระทั่งแสงเวลารุ่งอรุณขึ้น”
(บันทึกโดยอิบนุคุซัยมะฮฺ)
รายงานจากท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ ว่า ท่านเราะซูล กล่าวว่า
“คืนลัยละตุลก็อดร์ คือค่ำคืนที่ 27 หรือ 29 ซึ่งค่ำคืนนั้น
จะมีบรรดามลาอิกะฮฺปรากฏขึ้นในโลกจำนวนมากมายเท่าจำนวนเม็ดทราย”
(บันทึกโดยอิบนุคุซัยมะฮฺ)
ซึ่งนับเป็นความดีงามอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่ได้ใช้เวลาของค่ำคืนดังกล่าวหมดไปกับการทำอิบาดะฮฺ(กิยามุลลัยล์) อ่านอัล-กุรอาน ซิกรุลลอฮฺ อิสติฆฟารและดุอาอ์ โดยเริ่มตั้งแต่เวลาหัวค่ำหรือดวงตะวันตกดิน จนกระทั่งแสงอรุณขึ้นเริ่มเช้าของวันใหม่ พร้อมทั้งเขาได้ทำละหมาดตะรอเวียะห์เพื่อสร้างคุณค่าให้กับคืนนั้นด้วย