ทรัพย์สินทางปัญญา
โดย .. มุร็อด บินหะซัน
ลิขสิทธิ์ นับเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่เก่าแก่ประเภทหนึ่ง เพราะมีการยอมรับให้คุ้มครองลิขสิทธิ์ โดยมีกฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับแรกในประเทศอังกฤษปี ค.ศ.1709 นอกจากนี้ประเทศต่างๆทั่วโลกได้ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองสิทธิระหว่างประเทศ จึงทำให้เกิดข้อตกลง ระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการให้ความคุ้มครองลิขสิทธิ์มากมาย ซึ่งมีทั้งรูปแบบของอนุสัญญาและการจัดตั้งองค์กรขึ้นมาดูแลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา เช่น wip [world intellectual property] โครงสร้างของกฎหมายลิขสิทธิ์ไทยแบ่งออกได้เป็นสองส่วนใหญ่ๆตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ได้แก่การคุ้มครองลิขสิทธิ์และการคุ้มครองสิทธิ์ของนักแสดง ลิขสิทธิ์ทั้งสองประเภทนี้ได้กำหนดเรื่องการคุ้มครองที่แตกต่างกัน ไม่ว่าในเรื่องที่เกี่ยวกับการได้สิทธิหรือสิทธิของผู้ทรงสิทธิเป็นต้น นอกจากนี้พระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์ฉบับ พ.ศ. 2537 ยังได้บัญญัติระบบการอนุญาตโดยกฎหมายบังคับมาใช้บังคับเกี่ยวกับการแปลเป็นครั้งแรกในประเทศไทยสิทธิทางปัญญา คือ สิทธิของบุคคลหนึ่งในการเอาประโยชน์จากสิ่งที่บุคคลนั้นคิดค้นขึ้นมา เช่น การแต่งตำรา การประดิษฐ์สิ่งต่างๆ เป็นต้น หมายความว่าบุคคลนั้นมีสิทธิจะทำการใดๆแต่เพียงผู้เดียวในสิ่งนั้นๆและยังมีสิทธิ์ที่จะห้ามมิให้บุคคลอื่นกระทำการใดๆอันเป็นการละเมิดสิทธิของตน (นิวัฒน์ มีลาภ, 2546 : 7)
ลิขสิทธิ์ หมายความว่าสิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะทำการใดๆ ตามพระราชบัญญัตินี้ (พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ฉบับ พ.ศ. 2537) เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำขึ้นการได้มาซึ่งลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 แยกออกได้ดังนี้
การได้ลิขสิทธิ์ในฐานะผู้สร้างสรรค์
การได้ลิขสิทธิ์โดยการจ้างทำของ
การได้ลิขสิทธิ์โดยการจ้างแรงงาน
การได้ลิขสิทธิ์ในฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐ
การได้ลิขสิทธิ์โดยการรับโอน
การได้ลิขสิทธิ์โดยทางมรดก
การได้ลิขสิทธิ์โดยการควบบริษัท
การได้ลิขสิทธิ์โดยการรวบรวม
การได้ลิขสิทธิ์โดยการดัดแปลง
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 นี้ประการหนึ่งของการได้มาซึ่งลิขสิทธิ์ได้แก่การได้ลิขสิทธิ์โดยการรับมรดก ซึ่งการรับโอนลิขสิทธิ์โดยทางมรดกนี้ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งอาจจะรับมรดกลิขสิทธิ์ในฐานะทายาทโดยชอบธรรมหรือรับโอนมาโดยทางพินัยกรรม เพราะลิขสิทธิ์เป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่งของผู้ตาย (นิวัฒน์ มีลาภ, 2546 : 24)ส่วนทรัพย์สินทางปัญญาในกฎหมายอิสลามในยุคก่อนนั้นไม่มีปรากฏว่ามีบทบัญญัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่อที่เกิดขึ้นใหม่จากสาเหตุของระบบเศรษฐกิจและกฎระเบียบสมัยใหม่ ซึ่งกฎหมายบ้านเมืองได้ให้การยอมรับก็เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นใหม่จากสาเหตุของระบบเศรษฐกิจและกฎระเบียบสมัยใหม่ ซึ่งกฎหมายบ้านเมืองได้ให้การยอมรับก็เพื่อส่งเสริมให้บุคคลมีการคิดคันประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆและมีความมั่นใจในการที่จะได้รับประโยชน์จากสิ่งที่เขาคิดคันได้อย่างเต็มที่โดยมีกฎหมายคุ้มครองผลงานของเขา มิให้ผู้อื่นเอา ประโยชน์ในเชิงธุรกิจจากผลงานของเขา
ทัศนะของนักกฎหมายอิสลามสมัยใหม่เกี่ยวกับสิทธิทางปัญญา
นักกฎหมายอิสลามสมัยใหม่ได้พิจารณาถึงพื้นฐานของบทบัญญัติของสิทธิประเภทนี้ในหลักการอิสลาม บางท่านให้การยอมรับสิทธิประเภทนี้ว่าถูกต้อง โดยอาศัยกฎเกณฑ์ของอัลมะศอลิหฺ อัลมุรสะละฮฺ (ผลประโยชน์ที่ไม่มีตัวบทพูดถึง) ซึ่งก็เป็นแหล่งที่มาของกฎหมายอิสลาม สิทธิทางปัญญานั้นจัดอยู่ในสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งยังไม่พบว่ามีหลักฐานคัดค้านในบทบัญญัติของอัลอิสลาม การใช้กฎเกณฑ์ของผลประโยชน์ดังกล่าวจึงถือเป็นบทบัญญัติในเรื่องนี้บางทัศนะเห็นว่าการยอมรับสิทธิประเภทนี้ตรงตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติอิสลามที่ใช้ให้มีการปกป้องผลประโยชน์ของบุคคลและห้ามละเมิดกระทำอันตรายต่อบุคคลอื่นการลอบเอาผลประโยชน์ขอบผู้สร้างสรรค์ผลงานขึ้นถือเป็นการกระทำความผิด
บางทัศนะเห็นว่าเป็นไปได้ทีจะผนวกเอาสิทธิประเภทนี้เข้าอยู่ในความหมายของคำว่าทรัพย์ เพราะจุดประสงค์ของคำว่าทรัพย์ในกฎหมายอิสลามไม่ได้มีการกำหนดเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นวัตถุเสมอไป แต่สิทธิที่เป็นนามธรรมก็เข้าอยู่ในคำว่าทรัพย์สินในหลักการอิสลามเช่นเดียวกัน เพราะเป็นสิทธิที่มีค่ามีราคาและ อนุญาตให้เอาประโยชน์ได้ตามหลักการของอัลอิสลาม ซึ่งเป็นที่รู้กันระหว่างบุคคลทั่วไป ในเมื่อ เป็นสิทธิส่วนบุคคล การมีกรรมสิทธิ์ของเขาในสิ่งนั้นย่อมถูกต้องชัดเจนบางทัศนะเห็นว่าสิทธิประเภทนี้ไม่เคยมีในสังคมอิสลามแม้จะมีการแต่งตำรากันอย่างมาก มายในสมัยก่อนตามที่ทัศนะนี้ได้อ้างมานั้นก็ไม่ได้เป็นหลักฐานที่ชี้ถึงว่าสิทธิประเภทนี้ไม่มี แต่การที่สิทธิประเภทนี้ไม่เคยเกิดขึ้นและไม่เป็นที่รู้จักกันในกฎหมายอิสลามมาก่อนนั้น ก็เพราะนักวิชาการที่แต่งตำราในสมัยก่อนมิได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับทรัพย์สิน ผลประโยชน์ที่จะกลับมายังพวกเขา แต่สิ่งที่เขาเหล่านั้นให้ความสำคัญกว่าก็คือการเผยแพร่วิชาความรู้เท่าที่จะทำได้ โดยอนุญาตให้บุคคลทั่วไปได้เอาประโยชน์จากตำราที่เขาเหล่านั้นแต่งขึ้นอย่างเต็มที่ (อิสมาแอ อาลี, 1985 : 72 )
สิทธิดังกล่าวเป็นมรดกหรือไม่ ?
ผู้วิจัยมีความเห็นว่า สิทธิทางปัญญาเป็นสิทธิที่สามารถรับมรดกได้ เพราะเป็นสิทธิที่สามารถเอาประโยชน์ได้ มีราคา มีค่าตอบแทนและถือว่าเป็นส่วนหนึ่งจากทรัพย์มรดก ท่านเชค อิบรอฮีม อิบนุ อับดุลลอฮฺ อัลฟารอฎีย์ ได้ให้ความหมายของคำว่าทรัพย์มรดกเอาไว้ว่า คือสิ่งที่เจ้ามรดกได้ทิ้งไว้จากทรัพย์สิน ค่าชดเชยจากฆาตกร สิทธิในการเลือกระหว่างการซื้อหรือยกเลิกการซื้อ หรือสิทธิในการบังคับขายในของที่ครอบครองกรรมสิทธิ์ร่วมกัน สิทธิในการครอบครองสิ่งที่มีประโยชน์แต่ไม่อนุญาตให้ขาย เช่น มูลสัตว์และของมึนเมา (al-Faradi, 1953 : 13)ในเมื่อสิทธิการครอบครองสิ่งที่มีประโยชน์แต่ไม่อนุญาตให้ขายได้ยังเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์มรดกแล้ว สิทธิของทรัพย์สินทางปัญญาย่อมเป็นสิทธิที่สามารถรับมรดกได้ยิ่งกว่าและในเมื่อกฎหมายอิสลามได้รักษาผลประโยชน์ของผู้ครอบครองสิทธิ การรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ที่สร้างสรรค์ในสิทธิทางปัญญาที่เกิดขึ้นจากความพยายามในด้านความคิดสร้างสรรค์จนกระทั่งประสบความสำเร็จ ย่อมต้องได้รับการคุ้มครอง
ที่มา : มิฟตาฮุ่ลอุลูมิดดีนิยะห์ บ้านดอน