อากีเกาะฮ์
อากีเกาะฮ์ (العقيقة) เป็นซุนนะฮ์ มุอักกัดอากีเกาะฮ์ คือ สิ่งที่จะถูกนำมาเชือดในวันที่ 7 ของเด็กแรกเกิด โดยจะเชือดให้กับเด็กผู้ชายคือแกะ 2 ตัว และให้กับเด็กผู้หญิงคือแกะ 1 ตัว
อากีเกาะฮ์ตามหลักภาษาแล้ว คือชื่อของเส้นผมที่อยู่บนหัวของเด็กแรกเกิด
และความหมายของอากีเกาะฮ์ตามหลักนิติบัญญัติ คือ ชื่อของสิ่งที่จะถูกเชือดในวันที่ 7 ของเด็กแรกเกิด ซึ่งเป็นวันที่มีการโกนผมไฟ
หลักฐานในการทำอากีเกาะฮ์อากีเกาะฮ์เป็นซุนนะฮ์ ซึ่งได้มีรายงานจากพระนางอาอีชะฮ์ และฮาดิษ จากท่านอื่นๆ เช่น
ฮาดิษของท่านสัมเราะฮ์ ได้กล่าวว่า
قال رسول الله - صلى الله عليه وسلم - (( الغُلاَمُ مُرْتَهَنٌ بِعَقِيْقَتِهِ يُذْبَحُ عَنْه فِي اليَوْمِ السَّابِعِ ، وَيُحْلَقُ رَأْسُهُ وَيُسَمَّى )) رواه الإمام أحمد والترميذي وصححه الحاكم وصحح إسناده.
ความว่า: ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮฺ ได้กล่าวว่า
เด็กนั้นถูกประกันด้วยกับอากีเกาะห์ของเขา ซึ่งอากีเกาะห์ของเขาจะถูกเชือดแทนเขาในวันที่ 7 (ของวันที่เด็กเกิด) และเด็กจะถูกโกนผมไฟ และถูกตั้งชื่อ (ในวันนั้น)
อากีเกาะฮ์จะเชือดให้กับเด็กผู้ชายด้วยกับแกะ 2 ตัว และให้กับเด็กผู้หญิงแกะ 1 ตัว ดังที่มีรายงานจากอุมมู่กัรซฺ ว่า
أن النبي - صلى الله عليه وسلم - قال (( عَنِ الغُلاَمِ شَاتَانِ وعَنِ الجَارِيةِ شَاةٌ )) أخرجه أبو داود.
ความว่า: แท้จริงท่านนะบี ได้กล่าวว่า จะแทนเด็กผู้ชาย 2 ตัวแกะ และจะแทนเด็กผู้หญิง 1 ตัวแกะ
และได้มีฮาดิษ จากพระนางอาอีชะฮ์ว่า
(( أَمَرَنَا رَسُولُ الله - صلى الله عليه وسلم أنْ نَعُقَّ عَنِ الغُلامِ بِشَاتَيْنِ وَعَنِ الجَارِيةِ بِشَاةٍ )) رواه الترميذي وابن ماجه وابن حبان في صحيحه.
ความว่า: ท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮฺได้สั่งใช้เราให้ทำอากีเกาะห์ให้กับเด็กผู้ชายด้วยกับแกะ 2 ตัว และให้กับเด็กผู้หญิงด้วยกับแกะ 1 ตัว
ในวันที่เด็กเกิดจะถูกนับไป 7 วัน ซึ่งวันนั้นจะถูกนับตั้งแต่แสงอรุณขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก หากว่าเด็กเกิดหลังจากพระอาทิตย์ตกไปแล้วให้เริ่มนับวันถัดไป ท่านรอฟีอีและคนอื่นๆได้กล่าวเสริมว่า ไม่ควรเกิน 7 วัน
ในหนังสืออัลอุดดะห์และหนังสืออัลฮาวีย์ของท่านมาวัรดีย์ได้ระบุว่า
แท้จริงอากีเกาะฮ์หลังวันที่ 7 จะต้องชดใช้ หากเกิน 7 วันไปแล้ว ที่ดีไม่ให้เกินระยะการหมดนิฟาสของมารดา (นิฟาส คือเลือดที่ออกมาขณะคลอดบุตร ซึ่งอย่างน้อยของนิฟาสคือช่วงเวลาไม่กี่นาที และอย่างมากไม่เกิน 10 วัน) และหากว่าเกินระยะหมดนิฟาส ที่ดีก็ไม่ให้เกินระยะการให้นมเด็ก (2 ปีเต็มตามศาสนบัญญัติ) และหากว่าเกินระยะการให้นมเด็ก ที่ดีก็ไม่ให้เกิน 7 ปี และหากว่าเกิน 7 ปี ที่ดีก็ไม่ให้เกินบรรลุนิติภาวะของเด็ก และหากว่าเกินบรรลุนิติภาวะ อากีเกาะห์จะหลุดไป โดยตกไปอยู่ในการรับผิดชอบของผู้ถูกกำเนิด ดังนั้นเขาจะต้องเป็นผู้เลือกในการทำอากีเกาะห์ให้กับตัวเองในตอนโต
ขั้นตอนหลังจากให้กำเนิดบุตรสิ่งที่ควรทำหลังจากให้กำเนิดบุตร
1. ให้แจ้งข่าวดี เพราะอัลลอฮ์ทรงตรัสไว้ว่า
أَنَّ اللَّهَ يُبَشِّرُكَ بِيَحْيَى
ความว่า: แท้จริงอัลลอฮ์ทรงแจ้งข่าวดีให้กับท่านด้วยกับยะห์ยา
2. ให้อาซานใส่หูขวา และอิกอมะฮ์ใส่หูซ้ายเด็ก
ได้มีฮาดิษของท่านอบีรอเฟียะอฺว่า
แท้จริงฉันเห็นท่านศาสดาอาซานละหมาดใส่หูท่านฮาซัน อิบนุ อาลี ในขณะที่พระนางฟาติมะห์ให้กำเนิด
และมีสุนัตให้อ่านอัลกุรอานบทอาละอิมรอนโองการที่ 36 ว่า
وَإنِّى أُعِيْذُها بِكَ وَذُرِّيَّتَهَا مِنَ الشَّيْطَانِ الرَّجِيْمِ
3. ให้ป้ายเพดานปากด้วยกับอินทผลัม
ได้มีฮาดิษของท่านอบีมูซาว่า
ลูกชายของฉันได้ถูกให้กำเนิด แล้วฉันก็ได้นำตัวไปหาท่านนะบี แล้วท่านได้ตั้งชื่อให้ว่า อิบรอฮีม และได้ป้ายเพดานปากด้วยกับอินทผลัม
สิ่งที่ควรทำในวันที่ 7 หลังคลอดบุตร1. โกนผมไฟ
โกนผมไฟ และให้บริจาคเป็นเงินเท่ากับน้ำหนักของเส้นผมที่โกน
ศาสดามูฮัมมัดได้กล่าวกับพระนางฟาติมะห์เมื่อคลอดท่านฮาซันว่า
จงโกนผมฮาซันและจงจ่ายซอดาเกาะฮ์ เท่ากับน้ำหนักของเส้นผมเป็นเงินให้กับคนยากจน2. ตั้งชื่อเด็ก
โดยอนุญาตให้ตั้งชื่อได้ในวันที่ 1 หรือวันที่ 3 จนวันที่ 7 ซึ่งเป็นวันทำอากีเกาะฮ์
ท่านนะบีได้กล่าวว่า
ในคืนนั้นลูกของฉันถูกให้กำเนิด แล้วฉันก็เรียกชื่อเขาว่า อิบรอฮีม
3. ทำการขลิบอวัยวะเพศ
ซึ่งเวลาของการขลิบ บางทรรศนะได้กล่าวว่า จะต้องอยู่ในช่วงสัปดาห์แรกจากการเกิด บางทรรศนะกล่าวว่า ให้ขลิบก่อนบรรลุนิติภาวะ และที่ถูกต้องและประเสริฐที่สุด คือ วันที่ 7 หลังจากถูกให้กำเนิด
ได้มีฮาดิษของท่านญาบีรว่า
ท่านศาสดามูฮัมมัดได้ทำอากีเกาะฮ์ ในกับท่านฮาซันและฮูเซ็น และได้ทำการขลิบอวัยวะเพศของทั้งสองในวันที่ 7
แน่นอนการขลิบสำหรับผู้ชายถือว่าเป็นวายิบ สำหรับผู้หญิงคือสุนัต
ลักษณะของแกะที่จะนำมาทำอากีเกาะฮ์ ต้องครบ 1 ปีเต็ม และจะต้องไม่มีตำหนิ และสามารถที่จะนำเอาอูฐหรือวัวมาทำอากีเกาะฮ์ได้
ให้ทำการกล่าว باسم الله ، اللهم منك وإليك عقيقة فلان ขณะเชือด และให้เชือดขณะพระอาทิตย์ขึ้น ท่านอิหม่ามนาวาวีย์ได้ให้น้ำหนักว่า ควรที่จะเชือดอากีเกาะห์หลังจากโกนผมไฟ เพราะได้ปฏิบัติตามการกล่าวอย่างเป็นลำดับของฮาดิษที่ว่า
เด็กนั้นถูกประกันด้วยกับอากีเกาะฮ์ของเขา ซึ่งอากีเกาะฮ์ของเขาจะถูกเชือดแทนเขาในวันที่ 7 (ของวันที่เด็กเกิด) และเด็กจะถูกโกนผมไฟ และถูกตั้งชื่อ (ในวันนั้น)
ให้ฟันเนื้ออากีเกาะฮ์โดยไม่ให้กระดูกแตก เพื่อเป็นการทำให้เกิดลางดีด้วยกับการมีอวัยวะที่สมบูรณ์และปราศจากข้อตำหนิของเด็ก (อ้างอิงหนังสือ: อัลวาซีต ฟีลมัซฮับ เล่มที่ 7 หน้าที่152-153 หนังสือ ตั้วะฟะตุ้ลอะวัซย์)
ท่านอิบนุ อัซซิบาฆได้กล่าวว่า หากว่ากระดูกแตก ก็ไม่ถือว่าเป็นที่ต้องห้ามแต่อย่างได้ (เพราะการถือลางดีนั้นท่านนบีสนับสนุน แต่การถือลางร้ายนั้นท่านนบีห้ามเด็ดขาด)
ให้นำเนื้ออากีเกาะฮ์ มาทำเป็นอาหารและนำไปแจกจ่ายให้กับคนยากจน
โดย อะห์หมัด มุสตอฟา อาลี โต๊ะลง