ซิรอต้อลมุสตะกีม
  จำนวนคนเข้าชม  16781

ซิรอต้อลมุสตะกีม


         วันกิยามะห์ เป็นวันแห่งความสะพรึงกลัว ไม่มีมนุษย์คนใดที่จะพ้นวันแห่งความหวัดกลัวนี้ไปได้ ซึ่งในวันนั้นหัวใจของพวกเขาจะเต็มไปด้วยความกลัว

         ในวันนั้นอัลลอฮฺจะทรงสั่งใช้ให้ประชาชาติแต่ละประชาชาติติดตามผู้นำของตน ผู้ใดสักการะสิ่งใดก็จะติดตามสิ่งนั้นไป ดังนั้นผู้ใดสักการะพระอาทิตย์ก็จะตามพระอาทิตย์ ผู้ใดสักการะพระจันทร์ก็จะตามพระจันทร์ โดยที่สิ่งเหล่านี้จะนำพวกเขาไปสู่นรก และจะคงเหลือแต่เพียงประชาชาติอิสลามเท่านั้น ซึ่งในประชาชาติอิสลามนั้นรวมทั้งคนดีและคนชั่ว สะพาน “ซิรอต้อลมุสตะกีม” จะทอดผ่านนรกให้พวกเขาได้ข้ามไป ซึ่งขอบสะพานนั้นเต็มไปด้วยตะขอและหอก แน่นอนอัลลอฮฺจะทรงสั่งใช้ให้พวกเขาข้ามไปโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ และในวันนั้นบรรดารอซู้ลจะเรียกร้องต่ออัลลอฮฺ  โดยกล่าวว่า اللهم سَلِّم سَلِّم   โอ้ อัลลอฮฺ  ขอพระองค์ทรงทำให้ปลอดภัย ขอพระองค์ทรงทำให้ปลอดภัย และบุคคลแรกที่จะเดินผ่านสะพานนี้ไปก็คือ ท่านศาสดามูฮัมมัด

ได้มีรายงานจะท่านอบีฮุรอยเราะห์ว่าท่านศาสดามูฮัมมัดได้กล่าวไว้ว่า

(( يجمع الله الناس يوم القيامة، فيقول: من كان يعبد شيئا فليتبعه، فيتبع من كان يعبد الشمس الشمس، ويتبع من كان يعبد القمر القمر، ويتبع من كان يعبد الطواغيت الطواغيت، وتبقى هذه الأمة فيها منافقوها، فيأتيهم الله فيقول: أنا ربكم، فيقولون: هذا مكاننا حتى يأتينا ربنا، فإذا جاءنا ربنا عرفناه، فيأتيهم الله في صورته التي يعرفون، فيقول: أنا ربكم، فيقولون: أنت ربنا، فيتبعونه ويضرب الصراط بين ظهري جهنم، فأكون أنا وأمتي أول من يجيزها، ولا يتكلم يومئذ إلا الرسل، ودعوى الرسل يومئذ؛ اللهم: سلم سلم . وفي جهنم كلاليب مثل شوك السعدان، هل رأيتم السعدان ؟ قالوا: نعم يا رسول الله، قال: فإنها مثل شوك السعدان غير أنه لا يعلم ما قدر عظمها إلا الله، تخطف الناس بأعمالهم...)) رواه البخاري

ความว่า:

 “ในวันกิยามะห์อัลลอฮฺ  จะทรงรวมมนุษย์เอาไว้ แล้วพระองค์ก็ทรงกล่าวว่า ผู้ใดที่สักการะสิ่งใด ก็จงตามสิ่งนั้นไป

ดังนั้นผู้ใดสักการะพระอาทิตย์ ก็จะตามพระอาทิตย์

ผู้ใดสักการะพระจันทร์ จะตามพระจันทร์

และผู้ใดสักการะเทวรูป ก็จะตามเทวรูป

และจะเหลือแต่ประชาชาตินี้ ซึ่งในกลุ่มนี้จะมีพวกมุนาฟิกอยู่ด้วย

แล้วอัลลอฮฺจะทรงนำพวกเขามา แล้วกล่าวว่า ฉันคือพระเจ้าของพวกท่าน

แล้วพวกเขาก็กล่าวว่า นี้คือสถานที่ของเรา เพื่อพระเจ้าของเราจะมาหาเรา ดังนั้นเมื่อพระเจ้าของเรามาหาเรา เราจะรู้จักพระองค์

แล้วอัลลอฮฺ  ก็มาหาพวกเขาในรูปของพระองค์ที่พวกเขารู้จัก แล้วกล่าวว่า ฉันคือพระเจ้าของพวกท่าน

แล้วพวกเขาก็กล่าวว่า ท่านคือพระเจ้าของเรา แล้วพวกเขาก็ตามอัลลอฮฺ  ไป แล้วไปข้ามสะพานที่ทอดอยู่เหนือนรก ญะฮันนัม

แน่นอนฉัน (มูฮัมหมัด) และประชาชาติของฉันจะเป็นกลุ่มแรกที่เดินผ่านสะพานนี้ไป และในวันนั้นจะไม่มีใครพูดอะไรใดๆ นอกจากบรรดารอซู้ลเท่านั้น

ในวันนั้นบรรดารอซู้ลจะเรียกร้อง (ต่ออัลลอฮฺ) ว่า  โอ้ อัลลอฮฺ  ขอพระองค์ทรงทำให้ปลอดภัย ขอพระองค์ทรงทำให้ปลอดภัย 

และใน นรกญะฮันนัมนั้นมีหอก ที่มีลักษณะคล้ายหนามของต้น ซะอฺดาน (ต้นไม้มีหนามจำพวกหนึ่ง) พวกท่านเคยเห็นต้นซะอฺดานหรือไม่?

พวกเขา (ซอฮาบะห์) กล่าวว่า ครับ ท่านรอซูลุ้ลลอฮฺ

ท่านรอซู้ลกล่าวต่อไปว่า แท้จริงหอกนั้นคล้ายกับหนามของต้นซะอฺดาน ซึ่งไม่มีใครรู้ถึงขนาดความใหญ่ของมัน นอกจากอัลลอฮฺ ซึ่งมันจะฉุดมนุษย์โดย (พิจารณา) การงานของพวกเขา...”


ประเภทของผู้ที่ผ่านสะพานซิรอต้อลมุสตะกีม

          ผู้ที่เดินผ่านไปบนสะพานนี้จะมีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยขึ้นอยู่กับผลบุญและการงานที่เขาได้เคยทำเอาไว้ บ้างผ่านไปอย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบ บ้างผ่านไปดั่งลมพัด บ้างผ่านไปอย่างนกบิน บ้างเดินด้วยเท้า บ้างคลานไป ซึ่งบรรดาเราะซูล จะยืนอยู่บนสะพานและกล่าวเรียกร้องต่ออัลลอฮฺ ว่า

"โอ้ อัลลอฮฺ  ขอพระองค์ทรงทำให้ปลอดภัย ขอพระองค์ทรงทำให้ปลอดภัย คอยให้ความช่วยเหลือประชาชาติของตน และเตือนถึงภัยร้ายที่อยู่ใต้สะพาน"


ลักษณะของสะพาน

           ลักษณะของ สะพานซิร็อต มีความลื่นมาก มีความคมยิ่งกว่าคมดาบ มีความเล็กยิ่งกว่าเส้นผม ดังที่มีรายงานมาจากอิบนิมัสอูดว่าท่านศาสดาได้กล่าวไว้ว่า

(( فيمرون على الصراط، والصراط كحد السيف، دحض مزلة.. )) رواه الحاكم.

ความว่า "แล้วพวกเขาจะเดินผ่านสะพานซิร็อต โดยที่สะพานนั้นเสมือนกับคมดาบ ลื่นทะไหล .."

และได้มีรายงานจะท่านสะอีด อัล-คุดรีย์ได้รายงานว่าท่านศาสดามูฮัมหมัด ได้กล่าวว่า

(( الصراط جسر أدق من الشعر وأحد من السـيف يضربه اللـه جل وعلا على ظهر جهنم ليمر عليه المؤمنون إلى جنــات النعيم والمشركون إلى جهنم وبئس المصير، فهو قنطرة بين الجنة والنار )) رواه مسلم.

ความว่า “อัซ-ซิร็อต นั้นคือสะพานที่มีความละเอียด (เล็ก) กว่าเส้นผม และมีความคมยิ่งกว่าคมดาบ ซึ่งอัลลอฮฺ  ได้ทรงทอดมันไปด้านบน (หลัง) ของนรกญะฮันนัม  เพื่อให้ผู้ศรัทธาได้ผ่านมันไปยังสวนสวรรค์ต่างๆโปรดปราน และเพื่อให้ผู้ตั้งภาคีได้ผ่านมันไปยังนรกญะฮันนัมและที่พำนักอันเลวร้าย ดังนั้นมันคือสะพานกอนตอเราะห์ที่อยู่ระหว่างนรกและสวรรค์”


สะพานที่สอง คือสะพานกอนตอเราะห์ ซึ่งทอดระหว่างสวรรค์และนรก

          เมื่อผู้ศรัทธารอดพ้นจากสะพานซิร็อตมาแล้ว พวกเขาจะถูกกักขังอยู่ ณ ที่สะพานแห่งนี้ โดยพวกเขาจะต้องชดใช้ความผิดที่เขาได้เคยกระทำไว้ ก่อนที่พวกเขาจะเข้าสวรรค์ ดังที่ท่านศาสดาได้กล่าวไว้ว่า

(( يخلص المؤمنون من النار فيحبسون على قنطرة بين الجنة والنار فيُقَصُّ لبعضهم من بعض مظالم كانت بينهم في الدنيا حتى إذا هذبوا ونقوا أذن لهم في دخول الجنة .. ))

ความว่า “บรรดาผู้ศรัทธาจะรอดพ้นจากไฟนรก และจะถูกกักกันที่สะพาน “กอนตอเราะห์” ซึ่งอยู่ระหว่างสวรรค์และนรก บางคนจากพวกเขาจะถูกลงโทษด้วยกับความผิดบางประการที่เขาได้กระทำในช่วงที่อยู่ในโลกดุนยา (ภพนี้) จนกระทั่งเมื่อพวกเขาสะอาด บริสุทธิ์ พวกเขาจะถูกอนุญาตให้เข้าสวรรค์ได้…”

         แน่นอนสะพานนี้จะขจัดและชำระล้างความผิดต่างๆ ถึงแม้ว่าจะเลยเท่าผงธุลีที่เกี่ยวกับบ่าวด้วยกันให้หมดไปจากตัวและจิตใจของผู้ศรัทธา ไม่ว่าจะเป็นความอิจฉาริษยา ความโกรธแค้นซึ่งกันและกัน ก่อนที่จะนำตัวเข้าสวนสวรรค์ ดังที่อัลลอฮฺ ทรงบอกลักษณะของชาวสวรรค์ไว้ในซูเราะห์ อัลหะญัร โองการที่ 47 ว่า

 ونزعنا ما في صدورهم من غل إخوانا على سرر متقابلين

ความว่า “และเราได้ขจัดความขุ่นแค้นที่มีอยู่ในหัวอกของพวกเขาให้กลายเป็นพี่น้องกันโดยพำนักอยู่บนเตียงหันหน้าเข้าหากัน”

และนี่แหละคือ สะพานอัซ-ซิร็อต และ สภาพความสะพรึงกลัวที่เกิดขึ้นในวันกิยามะห์

พี่น้องผู้ศรัทธา

          พวกท่านได้เตรียมตัวเพื่อวันนั้นแล้วหรือยัง พวกท่านได้สำรวจตัวเองแล้วหรือยังครับว่า สิ่งที่พี่น้องได้ทำไปนั้นมันมีข้อผิดพลาดและบกพร่องอะไรไปบ้าง แน่นอนความตายนั้นอยู่ใกล้ตัวเรามาก โดยที่ไม่มีใครคาดคิด และรู้ว่าในอีกไม่กี่วินาทีของหน้า ชีวิตของเขาจะหมดสิ้นลมหายใจหรือไม่

 

โดย..อะห์หมัด มุสตอฟา อาลี โต๊ะลง