หลักการของพินัยกรรม
โดย .. มุร็อด บินหะซัน
พินัยกรรมเป็นนิติกรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งกฎหมายอิสลามได้ให้การยอมรับ แม้จะมีลักษณะขัดกับหลักการก็ตาม กล่าวคือตามหลักการนั้นการทำนิติกรรมจะทำได้ในขณะที่บุคคลยังมีชีวิตอยู่เท่านั้นหากบุคคลได้ตายไปแล้วไม่สามารถทำนิติกรรมใดๆเกี่ยวกับทรัพย์สินของตนได้อีกต่อไป เพราะทรัพย์สินทั้งหมดได้ตกเป็นของทายาทไปแล้ว อย่างไรก็ตามการทำพินัยกรรมนั้น แม้ว่าจะกระทำในช่วงเวลาที่ผู้ทำยังมีชีวิตอยู่ก็จริง แต่กำหนดให้มีผลหลังจากผู้ทำได้เสียชีวิตแล้ว จึงเหมือนกับการทำนิติกรรมหลังจากผู้ทำได้เสียชีวิตไปแล้ว
แต่กฎหมายอิสลามได้เปิดช่องหรือโอกาสให้เจ้าของทรัพย์สินมีโอกาสกำหนดการเผื่อตายด้วยการให้เขาสามรถกระทำบางอย่างโดยหวังผลบุญ หรือเพื่อตอบแทนบุคคลที่เคยมีบุญคุณต่อเขา หรือแม้แต่เพื่อหวังให้ความช่วยเหลือเพื่อนพ้องหรือญาติมิตรสหายบางคน ซึ่งไม่ใช่ทายาทโดยธรรมของเขา ขณะเดียวกันหากเขาได้ยกทรัพย์ให้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ก็กลัวว่าจะทำให้มีผลกระทบต่อฐานะของตัวเองได้ กฎหมายอิสลามจึงเปิดโอกาสให้เขาทำนิติกรรมโดยให้มีผลเมื่อเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว (อิสมาแอ อาลี, 2546 : 94)
พระองค์อัลลอฮฺได้ตรัสว่า
การทำพินัยกรรมให้แก่ผู้บังเกิดเกล้าทั้งสองและญาติสนิทโดยชอบธรรมนั้น ได้ถูกกำหนดแก่พวกเจ้า เมื่อความตายได้มายังคนหนึ่งคนใดในพวกเจ้าทั้งหลายหากพวกเจ้าได้ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของผู้ยำเกรงทั้งหลาย (สูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 180)
พระองค์อัลลอฮฺได้ตรัสไว้อีกว่า
ทั้งนี้หลังจากพินัยกรรมที่เขาได้สั่งเสียไว้ หรือหลังจากหนี้สิน (อันนิสาอฺ อายะฮฺที่ 11)
พระองค์อัลลอฮฺได้ตรัสไว้อีกว่า
หลังจากพินัยกรรมที่พวกเจ้าสั่งเสียมันไว้หรือหลังจากหนี้สิน (อันนิสาอฺ อายะฮฺที่ 12)
พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานอายะฮฺแรกได้บ่งบอกถึงบทบัญญัติการทำพินัยกรรมให้กับบิดามารดาและญาติสนิท ส่วนสองอายะฮฺถัดมาได้บ่งบอกถึงการดำเนินการจัดการตามพินัยกรรมนั้นต้องกระทำภายหลังจากการใช้หนี้เสียก่อน (al-Zuhaili, 1987 : 10)
ส่วนหลักฐานจากอัลหะดีษนั้น หะดีษของท่านสะอัด บุตรอบีวักก็อศที่ต้องการทำพินัยกรรมเศษหนึ่งส่วนสามหรือครึ่งหนึ่งของทรัพย์สินทั้งหมดของเขา เพราะไม่มีทายาทที่จะรับมรดก นอกจากบุตรสาวของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น โดยท่านนะบี ได้กล่าวกับเขาว่า
แท้จริงอัลลอฮฺได้ทรงมอบให้แก่พวกเจ้าหนึ่งในสามจากทรัพย์สินของพวกเจ้าตอนที่พวกเจ้าเสียชีวิต เพื่อเพิ่มความดีของพวกเจ้า ทั้งนี้เพื่อพระองค์จะได้ทรงเพิ่มผลงานของพวกเจ้า (หะดีษบันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ หะดีษหมายเลข 2709)
ท่านนะบีได้กล่าวไว้อีกว่า
ไม่ใช่สิทธิของมุสลิมคนหนึ่งที่เขาจะนอนเป็นเวลาสองคืน โดยที่เขามีสิ่งที่ต้องการทำพินัยกรรม นอกเสียจากว่าพินัยกรรมของได้ถูกบันทึกไว้อยู่ที่เขา (หะดีษบันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ หะดีษหมายเลข 2699)
ความหมายของพินัยกรรม
พินัยกรรม ตามคำนิยามของนักกฎหมายอิสลามหมายถึง การยกกรรมสิทธิ์ให้กับผู้อื่นที่มีผลภายหลังจากการตายโดยความเสน่หา จะเป็นวัตถุหรือผลประโยชน์ก็ตาม (al-Zuhaili, 1987 : 8)
องค์ประกอบของพินัยกรรม
องค์ประกอบของการทำพินัยกรรมมี 4 ประการผู้ทำพินัยกรรม
ผู้รับพินัยกรรม
ทรัพย์สินพินัยกรรม
ศีเฆาะฮฺ (al-Sharbini, 1958 : 39)
ที่มา : มิฟตาฮู่ลอุลูมิดดีนียะห์ บ้านดอน