สัมผัสรักเหนือจินตนาการ ด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ 4 มิติ

        คุณแม่หลายๆ ท่านเคยสงสัยกันบ้างไหมครับว่า ตอนนี้ลูกน้อยในครรภ์ของเราจะเป็นอย่างไรบ้าง จะทำอะไรอยู่ หรือสมบูรณ์แข็งแรงแค่ไหน ซึ่งจริงอยู่ที่สามารถไปตรวจอัลตราซาวนด์ดูภาพของลูกน้อยได้ แต่ก็สามารถมองเห็นเป็นแบบ 2 มิติ (แบบเก่า) นั่นคือสภาพที่มีความกว้าง และความยาว หรือภาพตัดขวางตามแนวของคลื่นเสียงที่ถูกส่งออกไปเท่านั้น ทำให้เห็นภาพลูกได้ไม่ชัดเจน และไม่เหมือนจริง
      
       แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเครื่องมือทางการแพทย์ขึ้น เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจดูว่า ลูกน้อยในครรภ์นั้นมีพัฒนาการไปถึงขั้นไหนแล้ว ซึ่งเครื่องมือทางการแพทย์นี้เรียกว่า “อัลตราซาวนด์ 4 มิติ” ที่ใช้สำหรับตรวจสุขภาพครรภ์หญิงตั้งครรภ์ เพื่อตรวจดูสุขภาพของทารก หรือหาความผิดปกติของทารกที่อาจเกิดขึ้นได้ ตลอดจนการติดตามการเจริญเติบโตของทารกที่อยู่ในครรภ์ของคุณแม่ได้ละเอียด และชัดเจนมากขึ้น
      
       สำหรับการทำงานของเจ้าเครื่องตัวนี้ จะเก็บสะสมปริมาณของเสียงที่สะท้อนออกมาหาหัวตรวจในแบบดิจิทัล และแสดงภาพออกมาเป็นภาพ 3 มิติ ซึ่งมีความลึกของภาพ ทำให้ภาพของทารกดูเหมือนจริงมากขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถเก็บภาพ 3 มิติ แต่ละภาพไว้ แล้วนำมาแสดงผลเรียงต่อกันกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวเสมือนเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในขณะนั้น จึงเรียกภาพที่เห็นนี้ว่า “Real Time” นั่นเอง
      
       ** อัลตราซาวนด์ 4 มิติ ตรวจได้อะไรบ้าง **
      
       การตรวจอัลตราซาวนด์ 4 มิติเป็นการตรวจที่แพทย์จะทำการประเมินว่า ทารกมีการเจริญเติบโต และมีพัฒนาการในครรภ์เป็นไปอย่างเหมาะสมหรือไม่ และตรวจดูความพร้อมสมบูรณ์ในเรื่องต่างๆ ดังนี้
      
       - ตำแหน่งทารก สายสะดือ และปริมาณน้ำคร่ำอยู่ล้อมรอบทารก
       - โครงสร้างกะโหลกศีรษะ และสมองของทารก
       - หัวใจ และการไหลเวียนเลือดของทารก
       - กระดูกสันหลัง กระเพาะอาหาร กระเพาะปัสสาวะ และไตของทารก
       - แขน ขา มือ เท้า และนิ้วของทารก
       - ใบหน้า และอวัยวะต่างๆ บนใบหน้าของทารก
       - เพศของทารก (หากต้องการทราบ)
       - อัตราการเจริญเติบโตของทารก ขนาดรอบศีรษะ ความยาว และน้ำหนัก
      
       ** ข้อดีจากการตรวจอัลตราซาวนด์ 4 มิติ **
      
       - สามารถมองเห็นอวัยวะภายนอกของทารกในครรภ์ได้ชัดเจนกว่าการตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์แบบ 2 มิติ เช่น จะเห็นภาพใบหน้า แขน ขา หรือนิ้วมือได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
      
       - เห็นภาพอิริยาบถต่างๆ ของทารกในครรภ์ สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งการตรวจด้วยอัลตราซาวนด์แบบ 2 มิติ อาจมองเห็นได้ยากกว่า หรืออาจจะไม่เห็นเลยก็ได้ เช่น ทารกกำลังหาว ดูดนิ้ว ยิ้ม กลืนน้ำคร่ำ กะพริบตา หรือขยับนิ้วมือ เป็นต้น
      
       - สร้างความผูกพันให้เกิดขึ้นในครอบครัว สานสัมพันธ์ระหว่างพ่อ แม่ และลูก เริ่มต้นตั้งแต่เจ้าตัวน้อยยังอยู่ในครรภ์
 
 
       ** ช่วงอายุครรภ์ในการทำอัลตราซาวนด์ 4 มิติ **
      
       โดยทั่วไป สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ในระยะ 3 เดือนแรก แพทย์จะดูขนาดความยาวของทารก โดยวัดการเต้นของหัวใจ ตรวจดูความผิดปกติอื่นๆ ของมดลูก และปีกมดลูก สำหรับอายุครรภ์ที่มากขึ้น แพทย์จะตรวจเพื่อคะเนอายุครรภ์ และน้ำหนักทารก ตรวจดูอวัยวะต่างๆ ของทารก เช่น สมองและกระดูกสันหลัง ใบหน้า ทรวงอก และหัวใจ ช่องท้อง แขนขา
      
       นอกจากนี้ก็จะดูรก สายสะดือ และวัดปริมาณน้ำคร่ำด้วย และเป็นที่ทราบกันดีว่า การทำอัลตราซาวนด์นั่น สามารถที่จะตรวจด้วยอัลตราซาวนด์แบบ 4 มิติได้ทุกช่วงอายุครรภ์ ซึ่งจะเริ่มตรวจกันตั้งแต่อายุครรภ์น้อยๆ ซึ่งจะช่วยให้สามารถมองเห็นภาพของทารกทั่งร่างกาย และหากทำอัลตราซาวนด์ในช่วงที่อายุครรภ์มากขึ้น ก็จะช่วยให้สามารถมองเห็นรายละเอียดต่างๆ ของร่างกายทารกได้มากขึ้นกว่าช่วงแรก เนื่องจากทารกมีการพัฒนาอวัยวะต่างๆ ของร่างกายที่เติบโตขึ้น
       
       อย่างไรก็ตามสำหรับการตั้งครรภ์เดี่ยวนั้น ช่วงอายุครรภ์ที่จะให้ภาพที่ดีที่สุด มักจะอยู่ในช่วงอายุครรภ์ที่ 26-33 สัปดาห์ ขณะที่การตั้งครรภ์แฝดช่วงอายุครรภ์ที่ 24-28 สัปดาห์จะทำให้ได้ภาพที่ดีที่สุดเช่นกัน
      
       ** ตรวจอัลตราซาวนด์ 4 มิติได้ที่ไหน **
      
       เนื่องจากเครื่องตรวจอัลตราซาวนด์ 4 มิติ เป็นเทคโนโลยีทันสมัยที่มีราคาสูง จึงยังไม่ค่อยมีบริการแก่คุณแม่ตั้งครรภ์มากนักตามโรงพยาบาลทั่วไป เพราะส่วนใหญ่จะมีใช้เฉพาะโรงพยาบาลขนาดใหญ่ และในโรงพยาบาลเอกชน แต่หากคุณแม่ตั้งครรภ์ได้มีโอกาสตรวจด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ 4 มิติ ถือเป็นสิ่งที่ดีทั้งต่อตัวคุณแม่ และลูกน้อยเอง นั่นเพราะสามารถตรวจหาความผิดปกติได้อย่างละเอียด และเห็นภาพการตรวจได้ชัดเจนมากขึ้น
       
ขอขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลปิยะเวท

Life & Family