เงินสี่ร้อยรูปี
  จำนวนคนเข้าชม  9479

 

เรื่องเล่าจากเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย ^^!
 

เงินสี่ร้อยรูปี
 

เมื่อวานได้มีโอกาสไปเยี่ยมเพื่อนแขกคนหนึ่งมา..ตามประเพณีก็เสริฟชาหรือที่เรียกกันว่า "จาย" ตามด้วย veg-Sandwich หรือแซนวิชแบบไม่มีเนื้อสัตว์ (งงไหม๊ @_@)

 
พูดคุยกันตามประสาเพื่อนกัน แล้วฉันก็ได้เห็นแม่บ้านในชุดส่าหรีกำลังล้างจาน ถูบ้าน ด้วยความอยากรู้แต่ไม่อยากเห็น...จึงถามเพื่อนไปว่า เขาเป็นแม่บ้านหรือ แล้วจ้างเขาทำหรือ เพื่อนก็ตอบมาว่าใช่แล้ว มาดามคนนี้คือแม่บ้านที่เขาจ้างให้มาทำงานบ้านทุกวัน สิ่งที่มาดามต้องทำคือ ตั้งแต่ล้างจาน กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า สรุปก็คือ งานบ้านทั้งหมด
 
.....ฉันก็คิดในใจว่า โห....แหมสบายจังเลยน่ะเจ้าของบ้านเป็นเจ้าของบ้านแต่ไม่มีงานบ้านให้ทำ โฮะๆๆ ><
 
สุดท้ายสิ่งที่สงสัยมากที่สุดก็ได้ถามไปว่า แล้วจ่ายค่าจ้างเท่าไหร่หรอ....(ก่อนที่จะถามฉันคิดว่าจ่ายเป็นวัน ก็คงประมาณวันละร้อยมั้ง)....เพื่อนตอบมาว่า เดือนละสี่ร้อยรูปี !!!!!!!!!!!!!
 
โอ้....ฉันตกใจ O_O
 
เพราะสี่ร้อยรูปีถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ สองร้อยปแดสิบกว่าบาท.....ถ้าต่อวันก็ถือว่าโอเคแล้วแต่นี่ ต่อเดือน.......
 
ฉันตกใจเกินเหตุ..ทำเอาเพื่อนแขก งง ว่าแซนวิชติดคอหรือ......
 
ฉันเลยบอกไปว่าถ้าประเทศไทยนี้เงินค่าจ้างขั้นต่ำวันละ ร้อยบาทน่ะ ทำไมถูกจัง เขาก็ตอบมาว่าตอนถามมาดามคนนี้ให้มาทำก็ตกลงราคากันเขาโอเค...เพื่อนก็เลยโอเค  
 
...อย่างว่าอ่ะน่ะ....คนมีกินก็จะมองว่าน้อย...(แต่ไม่ใช่ฉันน่ะ ><") ส่วนคนที่ไม่มีกินก็จะมองว่ามาก...หากทำเงินตกหล่นพื้นคนที่นี่จะรีบเก็บแล้วจุ๊ฟเงิน.....ทำให่ฉันคิดได้มากเลยหล่ะว่าเงินแม้ว่าจะรูปีเดียว หรือ 0.82 บาท ก็มีค่า...หากเอาเงินหนึ่งรูปีมาใส่กระปุกวันละหนึ่งรูปีสามสิบวันก็สามสิบรูปี เท่ากับค่าจ้างแรงงานของคนอินเดียบางคนด้วยซ้ำไป....
 
ฉันกลับมาคิด คิด และคิด และทบทวนตัวเอง 

-----------------------------------

อัลฮัมดุลิลลาฮ์
 
ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2551 ถึงวันนี้  ประเทศนี้ได้สอนอะไรฉันหลายๆ อย่าง...ฉันอยู่ที่นี่เกือบหนึ่งปี...

ใช่แต่เพียงได้ความรู้  แต่สิ่งที่ฉันต้องการคือ...บทเรียนของชีวิต
 
เขาว่ากันว่า ที่สุดของที่สุด คือที่นี่
 
...ไม่มีที่ไหนที่จะสามารถหาภาพ   คน สุนัข วัว ควาย กำลังคุ้ยหาอาหาร ในกองขยะ...
 
...ขอทานก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกรู้จักประเทศนี้...
 
วันหนึ่งฉันเคยโดนขอทานตาม...ขอทานมาล้อมฉัน...ดึงเสื้อฉันฉันไม่รู้จะทำยังไง...ฉันงงกับสถานการณ์...ฉันวิ่งหนี....หนี....และก็หนี....ฉันอยากให้ตังค์เขา...แต่ฉันกลัว.....กลัวว่าให้ไปแล้วจะมีอีกกี่สิบคนตามมาล้อมอีก...ฉันไม่รู้ว่าจะเอาตังค์ออกมาจากกระเป๋าได้อย่างไร...ฉันถูกจับแขน...ฉันร้องไห้....(ขอทานไม่ได้ทำอะไรฉันหรอกน่ะ)ฉันสงสารพวกเขา.....

สุดท้าย...

เขาเหล่านั้นที่เราเรียกว่า ขอทาน ได้ก้มลงที่พื้น...ที่เท้าฉัน....แล้ว...เอามือแตะที่เท้าฉัน...แล้ว...เอาไปแตะที่ท้องและปาก
 
ฉันจึงเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วหาตังค์ให้เขา   และก็มีอีก....มีอีก.....มีอีก...ตามกันมา วิ่งกันกรูเข้ามาหาฉัน     เอาหล่ะ.... งานเข้าแล้วพี่น้อง !
 
โอ้...ฉันตกใจกว่าเดิม  O_O
 

-------------------------------------
 

อัลลอฮ์  ทรงตรัสความว่า

[2.3] ผู้ที่ศรัทธาในสิ่งที่พ้นญาณวิสัย และพวกเขาดำรงการนมาซ และใช้จ่าย  (ในหนทางของเรา)  จากสิ่งที่เรา ได้ประทานให้แก่พวกเขา

[2.261] การบริจาคของบรรดาผู้ใช้จ่ายทรัพย์สินของพวกเขาในหนทางของอัลลอฮ์ อาจเปรียบได้ดังเมล็ดพืชที่งอกออกมา 7 รวง และแต่ละรวงมี 100 เมล็ด ในทำนองเดียวกัน อัลลอฮ์ทรงทบทวีทาน ของผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ เพราะอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงไพบูลย์ ผู้ทรงรอบรู้

[2.276] อัลลอฮ์จะทรงบั่นทอนความจำเริญออกจากดอกเบี้ยและจะทรงเพิ่มพูนกุศลทาน และอัลลอฮ์ไม่ทรงรักคนบาปหนาที่เนรคุณทุกคน

[3.134] คือบรรดาผู้ที่บริจาคทั้งในยามสุขสบาย และในยามเดือดร้อน  และบรรดาผู้ข่มโทษและบรรดาผู้ให้อภัยแก่เพื่อนมนุษย์และอัลลอฮ์นั้นทรงรักผู้กระทำดีทั้งหลาย

[8.3] คือบรรดาผู้ที่ดำรงไว้ซึ่งการละหมาดและส่วนหนึ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา พวกเขาก็บริจาค

[8.4] ชนเหล่านี้แหละพวกเขาคือ ผู้ศรัทธาอย่างแท้จริง โดยที่พวกเขาจะได้รับหลายชั้น ณ พระเจ้าของพวกเขา และจะได้รับการอภัยโทษและปัจจัยยังชีพอันมากมาย

[13.22] และบรรดาผู้อดทนโดยหวังพระพักตร์  (ความโปรดปราน)  ของพระเจ้าของพวกเขา และดำรงการละหมาดและบริจาคสิ่งที่เราได้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่พวกเขา โดยซ่อนเร้นและเปิดเผย และพวกเขาขจัดความชั่วด้วยความดี ชนเหล่านั้นสำหรับพวกเขาคืนที่พำนักในปั้นปลายที่ดี
 


...กลิ่นไอจากสวรรค์...

◕‿◕ ✿Ausanee✿ ◕‿◕