ลำดับขั้นในสวรรค์
  จำนวนคนเข้าชม  17746


ลำดับขั้นในสวรรค์

ชั้นต่าง ๆ ของสรวงสวรรค์

1.อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :

ความว่า : เจ้าจงดูซิ (มุหัมมัด) ว่าเราได้ให้บางคนพิเศษกว่าอีกบางคนอย่างไร และโลกอาคิรัตนั้นย่อมมีชั้น ๆ และมีความพิเศษที่ยิ่งใหญ่มโหฬารกว่า (อัลอิสรออ์ : 21)

2. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :

ความว่า : ผู้ใดมาที่นั่นในสภาพเป็นผู้ศรัทธาที่กระทำกรรมดีมาก่อน พวกเขาเหล่านั้นก็จะได้รับชั้นฐานะอันสูงส่ง คือสรวงสวรรค์อัดน์(เอเดน)ที่มีแม่น้ำสายต่าง ๆ ไหลผ่านเบื้องล่าง พวกเขาจะคงอยู่ที่นั่นไปตลอดกาล และนั้นแหล่ะคือสิ่งตอบแทนสำหรับผู้ที่ขัดเกลาตน  (ฏอฮา : 75-76)

3. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :

ความว่า : และชาวอัสสาบิกูนผู้มาก่อนหน้า พวกเขาคือผู้ใกล้ชิด พวกเขาอยู่ในสวรรค์อันนะอีม พวกเขาประกอบด้วยส่วนหนึ่งของชนรุ่นก่อน ๆ และส่วนน้อยของชนรุ่นหลัง   (อัลวากิอะฮฺ : 10-14)

4. มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ- เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ- ว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม-ได้กล่าวว่า :

وعن أبي هريرة رضي الله عنه قال: قال النبي صلى الله عليه وسلم : «مَنْ آمَنَ بِالله٬ وَبِرَسُولِـهِ، وَأَقَامَ الصَّلاةَ، وَصَامَ رَمَضَانَ، كَانَ حَقاً عَلَى الله٬ أَنْ يُدْخِلَـهُ الجَنَّةَ، جَاهَدَ فِي سَبِيْلِ الله٬، أَوْ جَلَسَ فِي أَرْضِهِ الَّتِي وُلِدَ فِيهَا» فقالوا يا رسول الله: أفلا نبشر الناس؟.
قال: «إنَّ فِي الجَنَّةِ مِائَةَ دَرَجَةٍ أَعَدَّهَا اللهُ لِلْـمُـجَاهِدِينَ فِي سَبِيلِ الله٬، مَا بَيْنَ الدَّرَجَتَينِ كَمَا بَيْنَ السَّمَاءِ وَالأَرْضِ فَإذَا سَأَلْتُـمُ اللهَ فَاسْأَلُوهُ الفِرْدَوسَ فَإنَّهُ أَوْسَطُ الجَنَّةِ، وَأَعْلَى الجَنَّةِ»، أراه قال: «وَفَوقَهُ عَرْشُ الرَّحْـمَنِ، وَمِنْـهُ تَفَجَّرُ أَنْـهَارُ الجَنَّةِ». أخرجه البخاري. برقم (2790).

ความว่า : “ผู้ใดศรัทธาต่ออัลลอฮฺและต่อเราะสูลของพระองค์ ดำรงการละหมาด และถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอน ก็ย่อมเป็นหน้าที่ของอัลลอฮฺที่จะให้เขาได้เข้าสวรรค์อย่างแน่นอน ไม่ว่าเขาจะออกไปต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺหรือพักอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองก็ตาม"

พวกเขากล่าวว่า" โอ้ ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ให้เราบอกคนอื่นได้ไหม?"

ท่านกล่าวต่อไปว่า "แท้จริง ในสวรรค์นั้นมีหนึ่งร้อยชั้นที่อัลลอฮฺเตรียมไว้สำหรับผู้ที่ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ ช่วงระหว่างสองชั้นนั้นมีระยะห่างราวฟ้ากับดิน ดังนั้น เมื่อพวกท่านขอสวรรค์ ก็จงขออัลลอฮฺให้ประทานสวรรค์ฟิรดาวส์ เพราะมันคือสวรรค์ที่อยู่ตรงกลางและสูงที่สุด "

(อบูฮุร็อยเราะฮฺกล่าวว่า) ฉันรู้สึกว่าท่านยังกล่าวว่า "และเบื้องบนของมันคือบรรลังค์ของอัลลอฮฺผู้ทรงปรานี และจากที่นั่นเช่นกันที่แม่น้ำแห่งสรวงสวรรค์สายต่าง ๆ พุ่งกำเนิดขึ้น"  

(บันทึกโดยอัลบุคอรียฺ หมายเลข 2790)


การได้เลื่อนชั้นของบุตรหลานคนมุมินแม้ว่ามีสาเหตุมาจากการปฏิบัติของคนอื่นก็ตาม

อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :

ความว่า : และบรรดาผู้ศรัทธาซึ่งลูกหลานของพวกเขาต่างเจริญรอยตามพวกเขาด้วยความศรัทธา เราได้ให้ลูกหลานของพวกเขาได้อยู่ร่วมกับพวกเขา โดยที่เราจะไม่ถูกลดหย่อนผลบุญจากการงานของพวกเขาแม้แต่น้อย แต่ละคนจะได้รับการประกันในสิ่งที่เขาได้ขวนขวายไว้ (อัลฏูร : 21)


ลักษณะร่มเงาในสวรรค์

1. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :

ความว่า : และบรรดาผู้ศรัทธาและประกอบความดีนั้น เราจะให้เขาได้เข้าในสวนสวรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านข้างใต้ ซึ่งพวกเขาจะคงอยู่ที่นั่นไปตลอดกาล จะมีคู่ครองที่บริสุทธิ์สำหรับพวกเขาอยู่ในนั้น และเราจะให้เขาอยู่ในร่มเงาที่หนาทึบ  (อันนิสาอ์ : 57)

2.อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :

ความว่า : และชาวอัศหาบุลยะมีนล่ะ สูเจ้ารู้หรือเปล่าว่าชาวอัศหาบุลยะมีนนั้นอยู่ในสภาพเช่นใด? อยู่ท่ามกลางต้นพุทราที่ไร้หนาม ท่ามกลางต้นกล้วยที่ออกผลดกเป็นเครือติดแนบแน่นเป็นเนื้อเดียวกันโดยไม่เห็นลำต้นตั้งแต่ยอดจรดโคนต้น ท่ามกลางร่มเงาไม้ที่แผ่กระจายยาวเหยียดไม่ขาดกัน ท่ามกลางสายน้ำที่ไหลรินตลอดเวลา และท่ามกลางผลไม้อันหลากหลายนานา  (อัลวากิอะฮฺ : 27-33)

3. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :

ความว่า : พวกเขาจะอยู่ในสภาพนั่งนอนอิงเอนบนพนักพิงโดยไม่พบเห็นดวงตะวันและความเย็นเหยือกเลย และร่มเงาของมันจะปกคลุมพวกเขาอย่างใกล้ชิด และช่อผลของมันจะถูกโน้มลงต่ำเป็นอย่างยิ่ง  (อัลอินสาน : 13-14 )

4. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :

ความว่า : อุปมาสวนสวรรค์ซึ่งถูกสัญญาแด่บรรดาผู้ยำเกรงก็คือ มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านเบื้องล่าง ผลไม้และร่มเงาของมันมีอยู่ตลอดกาล นั้นคือบั้นปลายชีวิตของบรรดาผู้ยำเกรง ส่วนบั้นปลายชีวิตของบรรดาผู้ปฏิเสธคือไฟนรก (อัลเราะอฺด์ : 35)


ความสูงส่งและความกว้างใหญ่ของสรวงสวรรค์

1.อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :

ความว่า : ใบหน้าหลายคนในวันนั้นจะเบิกบาน ชื่นชมกับการงานของพวกเขา อยู่ในสวนสวรรค์อันสูงส่ง โดยเขาจะไม่ได้ยินเรื่องไร้สาระใด ๆ เลยในที่นั้น  (อัลฆอชิยะฮฺ : 8-11)

2. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :

ความว่า : และสูเจ้าจงแข่งขันชิงการอภัยโทษจากพระเจ้าของสูเจ้าและสรวงสวรรค์ที่มีความกว้างใหญ่เท่ากับชั้นฟ้าต่าง ๆ และแผ่นดินซึ่งถูกจัดตรียมไว้ให้สำหรับผู้ยำเกรง  (อาละอิมรอน : 133)

3. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :

ความว่า : สูเจ้าจงแข่งขันชิงการอภัยโทษจากพระเจ้าของสูเจ้าและสวนสวรรค์ที่ความกว้างใหญ่ของมันเหมือนกับความกว้างใหญ่ของฟ้าและแผ่นดิน ซึ่งมันถูกเตรียมไว้สำหรับผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและบรรดาศาสนทูตของพระองค์ นั้นคือสิ่งพิเศษของอัลลอฮฺที่ทรงมอบแด่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ และอัลลอฮฺนั้นทรงมีสิ่งพิเศษที่ใหญ่หลวงยิ่ง  (อัลหะดีด : 21)


ชั้นสูงสุดในสรวงสวรรค์

มีรายงานจากอับดุลลอฮฺ บิน อัมรฺ บิน อัลอาศ- เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ-ว่าเขาได้ฟังท่านนบี-ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม-กล่าวว่า :

عن عبدالله بن عمرو بن العاص رضي الله عنهما أنه سمع النبي صلى الله عليه وسلم يقول: «إذَا سَمِعْتُـمُ المؤذِّنَ فَقُولُوا مِثْلَ مَا يَـقُولُ، ثُمَّ صَلُّوا عَلَيَّ، فَإنَّهُ مَنْ صَلَّى عَلَيَّ صَلاةً، صَلَّى اللهُ عَلَيهِ بِـهَا عَشْراً، ثُمَّ سَلُوا اللهَ لِيَ الوَسِيلَةَ، فَإنَّهَا مَنْزِلَةٌ فِي الجَنَّةِ لا تَنْبَـغِي إلَّا لِعَبْدٍ مِنْ عِبَادِ ا٬، وَأَرْجُو أَنْ أَكُونَ أَنَا هُوَ، فَمَنْ سَأَلَ لِي الوَسِيلَةَ حَلَّتْ لَـهُ الشَّفَاعَةُ». أخرجه مسلم. برقم (384)

ความว่า : “เมื่อพวกท่านได้ยินเสียงมุอัซซิน (ผู้ประกาศเชิญชวนให้มาละหมาด) ขอให้พวกท่านจงกล่าวทวนคำพูดของเขา จากนั้นขอให้กล่าวเศาะละวาต ขอพรให้แก่ฉัน เพราะผู้ใดที่เศาะละวาตให้แก่ฉันหนึ่งครั้ง อัลลอฮฺจะทรงประทานพรตอบแทนแก่เขาสิบครั้ง จากนั้นพวกท่านจงขอให้อัลลอฮฺประทานอัลวะสีละฮฺให้แก่ฉัน เพราะคือชั้นในสวรรค์ที่มีไว้สำหรับบ่าวของอัลลอฮฺเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งฉันหวังว่าเขาคนนั้นคงเป็นตัวฉัน ดังนั้น ผู้ใดที่ขออัลวะสีละฮฺให้แก่ฉัน เขาจะได้รับชะฟาอะฮฺ (การค้ำประกัน) จากฉัน "   (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 384)


ชาวสวรรค์ชั้นสูงสุดและชาวสวรรค์ชั้นต่ำสุด

มีรายงานจากอัลมุฆีเราะฮฺ-เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ-ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ-ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม-ได้กล่าวว่า :

عن المغيرة بن شعبة رضي الله عنه أن رسول الله صلى الله عليه وسلم قال: «سَأَلَ مُوسَى رَبَّهُ: مَا أَدْنَى أَهْلِ الجَنَّةِ مَنْزِلَةً؟ قَالَ: هُوَ رَجُلٌ يَـجِيءُ بَـعْدَ مَا أُدْخِلَ أَهْلُ الجشَنَّةِ الجَنَّةَ فَيُـقَالُ لَـهُ: ادْخُلِ الجَنَّةَ، فَيَـقُولُ: أَيْ رَبِّ كَيْفَ وَقَدْ نَزَلَ النَّاسُ مَنَازِلَـهُـمْ وَأَخَذُوا أَخَذَاتِـهِـمْ؟

 فَيُـقَالُ لَـهُ: أَتَرْضَى أَنْ يَكُونَ لَكَ مِثْلُ مُلكِ مَلِكٍ مِن مُلُوكِ الدُّنْيَا؟ فَيَـقُولُ: رَضِيْتُ رَبِّ، فَيَـقُولُ: لَكَ ذَلِكَ وَمِثْلُـهُ، وَمِثْلُـهُ، وَمِثْلُـهُ، وَمِثْلُـهُ، فَقَالَ فِي الخَامِسَةِ رَضِيتُ رَبِّ، فَيَـقُولُ: هَذَا لَكَ وَعَشَرَةُ أَمْثَالِـهِ، وَلَكَ مَا اشْتَـهَتْ نَفْسُكَ، وَلَذَّتْ عَيْنُكَ، فَيَـقُولُ: رَضِيْتُ رَبِّ.
قَالَ: رَبِّ فَأَعْلاهُـمْ مَنْزِلَةً؟ قَالَ: أَوْلَئِكَ الَّذِينَ أَرَدْتُّ، غَرَسْتُ كَرَامَتَـهُـمْ بِيَدِي، وَخَتَـمْتُ عَلَيهَا، فَلَـمْ تَرَ عَيْنٌ، وَلَـمْ تَسْمَعْ أُذُنٌ، وَلَـمْ يَـخْطُرْ عَلَى قَلْبِ بَشَرٍ» قال: ومصداقه في كتاب الله عز وجل: (ﮠ ﮡ ﮢ ﮣ ﮤ ﮥ ﮦ ﮧ ﮨ). . أخرجه مسلم برقم (189).

ความว่า : นบีมูสาได้ถามพระเจ้าว่า "ชาวสวรรค์ที่ต่ำต้อยที่สุดเป็นอย่างไร?"

พระองค์ตอบว่า "เขาคือชายที่มาหลังจากที่ชาวสวรรค์คนอื่น ๆ ต่างถูกนำตัวเข้าไปในสวรรค์หมดแล้ว แล้วเขาก็จะได้ถูกกล่าวว่า "ท่านจงเข้าสวรรค์ได้"

เขากล่าวว่า "โอ้ พระเจ้าข้า จะให้ฉันเข้าอย่างไรล่ะ เพราะคนอื่นต่างเข้าในสถานที่ของพวกเขาและจับจองสิ่งของต่าง ๆ หมดแล้ว?"

เขาจะถูกกล่าวว่า "เจ้าพอใจไหมที่จะมีสถานะเหมือนกับจอมราชันย์คนหนึ่งของโลกดุนยา?"

เขาตอบว่า "ฉันพอใจ โอ้พระเจ้าข้า"

พระองค์กล่าวว่า "สิ่งนั้นจะมีแด่เจ้า และอีกเช่นนั้น อีกเช่นนั้น อีกเช่นนั้น และอีกเช่นนั้น"

แล้วเขาก็ชิงพูดขึ้นก่อนครั้งที่ห้าว่า "พอใจแล้ว พระเจ้าข้า"

พระองค์กล่าว "สิ่งนี้ให้สำหรับเจ้าและอีกสิบเท่าของมัน และเจ้าจะได้ทุกสิ่งที่ใจเจ้าใฝ่ฝันและตาเจ้าอยากดู"

เขาจึงตอบว่า "ฉันพอใจแล้ว พระเจ้าข้า"

แล้วมูสาก็ถามต่อว่า "โอ้พระเจ้าข้า แล้วคนที่มีเกียรติสูงสุดล่ะ เป็นเช่นไร?"

พระองค์ตอบว่า "พวกเขาแหล่ะคือผู้ที่ฉันคัดเลือก ฉันกำหนดเกียรติศักดิ์ฐานันดรของพวกเขาด้วยมือของฉันเองและฉันก็ประทับตรามิให้มีการเปลี่ยนแปลงหรือคลาดเคลื่อนจากที่ฉันได้กำหนดไว้ ดังนั้นความสูงส่งของสถานะภาพของพวกเขาจึงไม่มีดวงตาใด ๆ เคยมองเห็น  ไม่มีใบหูใด ๆ เคยได้ยิน และไม่เคยเป็นที่นึกฝันในใจมนุษย์ใด ๆ มาก่อนเลย "

ท่านกล่าวว่า "และหลักฐานของสิ่งนี้มีอยู่ในคัมภีร์ของอัลลอฮฺที่ว่า

 " (แปลว่า ดังนั้น จึงไม่มีใครรู้ทราบถึงสิ่งซ่อนเร้นขวัญเนื้อขวัญตาที่ถูกเตรียมไว้สำหรับพวกเขา)" (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข   189)

และในอีกสำนวนหนึ่ง ได้ระบุถึงสถานะภาพของคนชั้นต่ำที่สุดในหมู่ชาวสวรรค์ว่า

وفي لفظ في بيان أدنى أهل الجنة: «فَإنَّ لَكَ مِثْلَ الدُّنْيَا وَعَشَرَةَ أَمْثَالِـهَا». متفق عليه أخرجه البخاري برقم (6571)، ومسلم برقم (186).

ความว่า : “แท้จริง สำหรับเจ้านั้นจะได้รับเท่าโลกดุนยาและอีกสิบเท่าของมัน ”

(มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หมายเลข  6571 และมุสลิม หมายเลข  186)


ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวสวรรค์

1. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :

ความว่า : อัลลอฮฺทรงสัญญาแก่บรรดาผู้ศรัทธาชายและผู้ศรัทธาหญิงซึ่งสวนสวรรค์ที่มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่านเบื้องล่างโดยพวกเขาจะคงอยู่ที่นั่นไปตลอดกาล อีกทั้งสถานพำนักที่หรูหราในสวรรค์อัดนฺ แต่ความโปรดปรานของอัลลอฮฺนั้นยิ่งใหญ่กว่า นั้นแหล่ะคือชัยชนะอันใหญ่หลวง   (อัลเตาบะฮฺ : 72)

2. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :

ความว่า : หลายใบหน้าในวันนั้นจะเปล่งปลั่งเบิกบานยิ่ง ที่ได้มองเห็นพระเจ้าของเขา       (อัล-กิยามะฮฺ : 22-23)

3. อบูฮุร็อยเราะฮฺ-เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ-เล่าว่ามีคนกลุ่มหนึ่งได้ถามท่านเราะสูลุลลอฮฺ-ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม-ว่า :

وعن أبي هريرة رضي الله عنه أن ناساً قالوا لرسول الله صلى الله عليه وسلم: يا رسول الله هل نرى ربنا يوم القيامة؟ فقال رسول الله صلى الله عليه وسلم: «هَلْ تُضَارُّونَ فِي رُؤْيَةِ القَمَرِ لَيْلَةَ البَدْرِ؟». قالوا: لا يا رسول الله، قال: «هَلْ تُضَارُّونَ فِي الشَّمْسِ لَيْسَ دُوْنَـهَا سَحَابٌ؟». قالوا: لا يا رسول الله، قال: «فَإنَّكُمْ تَرَوْنَـهُ كَذَلِكَ». متفق عليه أخرجه البخاري برقم (806)، ومسلم برقم (182)، واللفظ له.

ความว่า : “โอ้ ท่านเราะสูลุลลอฮฺ เราจะได้เห็นพระเจ้าของเราในวันกิยามะฮ์หรือเปล่า?"

ท่านเราะสูลุลลอฮฺ-ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม-ตอบว่า "พวกท่านถูกกีดกันในการมองเห็นดวงจันทร์ในคืนวันเพ็ญหรือเปล่า?"

พวกเขาตอบว่า "ไม่เลย โอ้ ท่านเราะสูลุลลอฮฺ"

ท่านถามต่อไปว่า"พวกท่านถูกกีดกันในการมองเห็นดวงอาทิตย์ที่ไร้หมู่เมฆมาบดบังหรือเปล่า?"

พวกเขาตอบว่า "ไม่เลย โอ้ท่านเราะสูลุลลอฮฺ"

ท่านกล่าวว่า "แท้จริง พวกท่านจะได้มองเห็นพระองค์เช่นนั้นแหล่ะ" 

(มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หมายเลข  602 และมุสลิมตามสำนวนนี้ หมายเลข  182)

4. มีรายงานจากศุหัยบฺ-เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ-ว่าท่านนบี-ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม-ได้กล่าวว่า :

وعن صهيب رضي الله عنه عن النبي صلى الله عليه وسلم قال: «إذَا دَخَلَ أَهْلُ الجَنَّةِ الجَنَّةَ، قَالَ: يَـقُولُ اللهُ تَـبَارَكَ وَتَعَالَى، تُرِيدُونَ شَيْئاً أَزِيْدُكُمْ؟ فَيَـقُولُونَ: أَلَـمْ تُبَيِّضْ وُجُوهَنَا؟ أَلَـمْ تُدْخِلْنَا الجَنَّةَ، وَتُنَجِّنَا مِنَ النَّارِ؟ قَالَ: فَيَكْشِفُ الحِجَابَ، فَمَا أُعْطُوا شَيْئاً أَحَبَّ إلَيْـهِـمْ مِنَ النَّظَرِ إلَى رَبِّهِـمْ عَزَّ وَجَلَّ». أخرجه مسلم برقم (181).

ความว่า : “เมื่อชาวสวรรค์ได้เข้าไปในสวรรค์ อัลลอฮฺ ผู้สูงส่งจะกล่าวว่า "พวกเจ้าอยากได้อะไรให้ฉันเพิ่มเติมไหม?"

 พวกเขาตอบว่า "พระองค์ไม่ได้ทำให้ใบหน้าพวกเขาเบิกบานดอกหรือ? พระองค์ไม่ทรงนำพวกเขาเข้าสู่สวนสวรรค์และปกป้องพวกเราให้พ้นจากไฟนรกดอกหรือ?"

แล้วพระองค์ก็ทรงเปิดม่านออก ซึ่งปรากฏว่าพวกเขาไม่มีสิ่งประทานใด ๆ ที่พวกเขารักชอบมากไปกว่าการได้มองพระเจ้าผู้สูงส่งของพวกเขา"  

(บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 181)

 

มุหัมมัด อิบรอฮีม อัตตุวัยญิรีย์

ที่มา : มุคตะศ็อรฺ อัลฟิกฮิล อิสลามีย์

แปลโดย : สุกรี นูร จงรักสัตย์

Islam House