ประโยชน์ของการเรียนรู้อายะฮ์มักกิยยะฮ์และอายะฮ์มะดะนิยยะฮ์
โดย อ. อับดุลเราะมัน เจะอารง
บรรดาอายาตอัลกุรอานที่ประทานลงมายังท่านเราะซูล ทั้งในช่วงที่ท่านอาศัยอยู่ที่นครมักกะฮ์และในช่วงที่ท่านได้อพยพไปอาศัยอยู่ที่ ณ นครมะดีนะฮ์ช่วงที่ 2 อายาะฮฺ(โองการ)ทั้งหมดประกอบด้ว 30 ภาค(ญุซฺอ) ในจำนวน 114 บท(ซูเราะฮ์) และมีอายะฮ์ทั้งหมดหกพันสองร้อยกว่าอายะฮ์ การนับอายะฮ์มีมากบ้างน้อยบ้าง แตกต่างกันตามการจัดวรรคตอน แต่เนื้อหาถ้อยกระทงความ ทุก ๆประโยค ทุกคำตรงกันหมด มิได้มีข้อความมากน้อย หรือผิดแผกแตกต่างกันประการใด
ดังนั้น ในเรื่องจำนวนอายะฮฺอัลกุรอาน ยืนยันได้ว่ามุสลิมมีอัลกุรอานเล่มเดียวกัน มีอายะฮ์และ ซูเราะฮ์อัลกุรอานที่เหมือนกันหมดทุกประการ เมื่ออายะฮ์อัลกุรอานประทานลงมาใน 2 ช่วง และผู้คนที่อัลกุรอานกล่าวถึงนั้นมีลักษณะที่แตกต่างกัน ช่วงแรกกล่าวถึงผู้ที่ยังไม่ได้รับอิสลามและช่วงที 2 กล่าวถึงผู้ที่ได้รับอิสลามแล้ว ดังนั้นสำนวนการพูดและลีลาภาษาจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
อายะฮ์ที่ประทานลงมา ณ ที่นครมักกะฮ์มีลักษณะเด่นดังนี้
1. เป็นอายะฮ์ที่ใช้ให้มนุษย์ก้มกราบ(สุยูด)เมื่ออ่านหรือได้ยินการอ่านอายะฮ์
2. เป็นประโยคที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า (كلاَّ)
3. เป็นประโยคที่เริ่มด้วยคำว่า (يا أيُّها النَّاس)
4. เป็นอายะฮ์ที่เล่าเกี่ยวกับประวัติบรรดานะบี ท่านนะบีมุฮัมมัดและประชาชาติก่อนๆ
5. เป็นซูเราะฮ์ที่เริ่มต้นด้วยพยัญชนะภาษาอาหรับ เช่น (ق) (يس) (آلم)
6. เป็นอายะฮ์ที่กล่าวถึงประวัติท่านนะบีอาดัมและความดื้อดึงของอิบลีส
7. เป็นอายะฮ์ที่ชักชวนให้เคารพภักดีต่อพระองค์อัลลอฮ์ เพียงองค์เดียว และกล่าวว่าโลกหน้าจะมีจริงอย่างแน่นอนและมนุษย์ทุกคนจะฟื้นคืนชีพอีกครั้งหนึ่ง
8. เป็นอายะฮ์ที่สั้นๆ และประกอบกับมีคำศัพท์ที่ฟังแล้วหนักหู
ส่วนอายะฮ์ที่ประทานลงมา ณ นครมะดีนะฮ์มีลักษณะเด่นดังนี้1. เป็นอายะฮ์ที่มีการกล่าวถึงฟะรีเฎาะฮ์(การบัญญัติให้ปฏิบัติ) และหุดู๊ด(บทการลงโทษ)
2. เป็นอายะฮ์ที่มีการกล่าวถึงบรรดามุนาฟิกีน(ผู้กลับกลอก)
3. เป็นอายะฮ์ที่มีการกล่าวถึงชาวคัมภีร์(ชาวยิวและชาวคริสต์) และโต้เถียงกับพวกเขา ชักชวนให้พวกเขายอมรับศาสดามุฮัมมัด และการบิดเบือนคัมภีร์ของพวกเขา
4. เป็นอายะฮ์ที่พูดถึงเรื่องอิบาดาต(เรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่ที่พึงปฏิบัติต่อพระองค์อัลลอฮ์ ) มุอามะลาต (เรื่องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างมุสลิมกับมุสลิมด้วยกันและระหว่างมุสลิมกับผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม) กฎหมายครอบครัว กฎหมายมรดก ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในยามสงบและยามสงคราม ระบบการกปครอง ฯลฯ
5. เป็นอายะฮ์ที่เปิดเผยและแฉอุปนิสัยของบรรดามุนาฟิก(ผู้กลับกลอก)
6. เป็นอายะฮ์ที่แต่ละอายะฮ์จะมีความยาวโดยใช้ศัพท์ที่ไพเราะ
ประโยชน์ของการเรียนรู้อายะฮฺมักกิยยะฮ์และมะดะนิยยะฮ์
ส่วนประโยชน์ของการเรียนรู้อายะฮ์มักกิยยะฮฺและมะดะนิยยะฮ์มีดังนี้
1. ช่วยในการอรรถาธิบายอายะฮ์อัลกุรอานได้ถูกต้อง
การเรียนรู้สถานที่ประทานอายะฮ์อัลกุรอานและสาเหตุของการประทานอายะฮ์ช่วยให้ผู้อธิบายอัลกุรอานได้อธิบายอย่างถูกต้อง ตรงประเด็น ถึงแม้ว่าเราควรยึดทัศนะที่สนับสนุนให้วิเคราะห์อายะฮ์ ตามสำนวนภาษาที่ให้ความหมายที่กว้างและครอบคลุม ไม่ใช่วิเคราะห์อายะฮ์ตามสาเหตุของการประทานอายะฮ์อัลกุรอาน ในกรณีที่มีอายะฮ์อัลกุรอาน 2 อายะฮ์ที่มีความขัดแย้งกันและไม่สามารถที่จะรวบรวมกันได้ เราสามารถตัดสินได้ว่าอายะฮ์ที่ประทานก่อนนั้นถูกยกเลิกโดยอายะฮ์ตามหลัง เป็นต้น
2. เข้าใจและซาบซึ้งถึงบริบทของอายะฮ์มักกิยยะฮ์และอายะฮ์มะดะนิยยะฮ์
มนุษย์มีหลายประเภทและมีรสนิยมที่แตกต่างกัน เราพอจะสังเกตได้จากอายะฮ์อัลกุรอานที่กล่าวถึงชาวมักกะฮ์แตกต่างจากอายะฮ์ที่กล่าวถึงชาวมะดีนะฮ์ โดยมีสำนวนและลีลาการใช้ภาษาที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่จะนำคำสอนของอิสลามมาเผยแผ่แก่ผู้อื่น ผู้ที่มีความสามารถในการดึงดูดผู้อื่นคือผู้ที่พูดได้ใช้ให้ถูกกาลเทศะและสามารถเลือกคำสอนที่เหมาะสมกับบุคคล จึงถือว่าประสบความสำเร็จในการเผยแผ่สัจจธรรมให้แก่ผู้อื่นเป็นอย่างดี
3. กำหนดประวัติศาสตร์อิสลาม
อายะฮฺอัลกุรอานที่ประทานลงมาจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับการเผยแผ่ศาสนาของท่านเราะซูล ทั้งในช่วงที่อาศัยอยู่ ณนครมักกะฮ์และในช่วงที่อาศัยอยู่ ณ นครมะดีนะฮ์ เริ่มจาก อายะฮ์แรกที่ประทานลงมาจนถึงอายะฮ์สุดท้ายที่ประทานลงมาก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตเพียงเล็กน้อย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้บันทึกโดย นักบันทึกประวิติศาสตร์ที่สอดคล้องกับสิ่งที่ได้ระบุในคัมภีร์อัลกุรอานทั้งสิ้น