แบบอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน
  จำนวนคนเข้าชม  11119

                
                       

แบบอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน

الحمدلله من إختار حجته إتقاه ولم يلتقت إلي سواه فكان معه القوة التي لاتغلب والحارس الذي لاينام والهادئ الذي لايضل وأشهدأن لاإله إلا الله من
كان معه راقبه في سره وعلي نيته فحسنت معاملته وسيرته ودنياه واخرته

قال الله سبحانه وتعالى من عمل صالحا من ذكر وانثى وهو مؤمن فلنحيينه حياة طيبة ولنجزينهم أجرهم بأحسن ماكانوا يعملون
وأشهدأن سيدنامحمدارسول الله كان مع الله في ليله ونهاره وسره وجهاره وقوله وعمله وخلقه
وسائرأحواله فكان الله معه نوره وشرح صدره ورفع ذكره ونصر ه الله نصرا عزيزا وقال صلوات الله وسلامه عليه أفضل الإيمان أن تعلم أن الله معك حيثما كنت اللهم صل وسلم على سيدنا محمد وعلى آله وصحبه الذي عرفواربهم بطاعته وعلى الدوام فعرفهم بحفظ الإيمان والنصر والإكرام أما بعد 

          ท่านพี่น้องผู้ศรัทธาต่อเอกองค์อัลลอฮ์ และศาสนฑูตของพระองค์ ทั้งหลาย มนุษย์เราย่อมต้องแสวงหาเสบียงเพื่อการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในโลกดุนยานี้หรือเสบียงเพื่อการเดินทางในโลกอาคีเราะฮ์และแน่แท้เสบียงสำหรับอาคีเราะฮ์ทีเราในฐานะที่เป็นมุสลิม ทีต้องตระเตรียมในโลกนี้ คือการตักวา(ยำเกรง)ต่ออัลลอฮ มนุษย์คนหนึ่งเขาจะไม่มีอะไรติดตัวเขาไปเลยหากว่าเขายังไม่ได้ปฏิบัติในสิ่งทีพระองค์ทรงใช้ และยังละเว้นไม่ได้ในสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม

          ท่านพี่น้องทีรักทั้งหลาย ท่านทั้งหลายเคยคิดไหมว่า การดำเนินชีวิตของเราแต่ละวัน ล้วนแล้วแต่ต้องการ แบบอย่างที่เราต้องดำเนินรอยตาม หลายชนชาติ หลายเผ่าพันธ์ ที่เขาต้องพินาศและย่อยยับ เพราะการดำเนินตามแบบอย่างและแนวทางที่ไม่ถูกต้อง ท่านทั้งหลายเคยคิดบ้างไหมครับว่า โลกเรา สังคมเราปัจจุบัน ต้องประสบกับความวิกฤติ จนต้องหาทางแก้ไขกันให้วุ่นวาย มันเกิดเพราะเหตุใด ไม่ใช่เพราะการคุกคามของวัฒนธรรม ของผู้ที่ต้องการจะทำลายล้างแบบฉบับอันดีงามของอัลอิสลามหรอกหรือ ? ที่ทำให้ลูกๆไม่ยอมเชื่อฟังพ่อ แม่ ไม่ใช่สิ่งเหล่านี่หรอกหรือที่ทำให้สามีลืมหน้าที่ ที่มีต่อภรรยา ภรรยาต้องลืมหน้าที่ ที่มีต่อสามี 

          ท่านพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย อัลลอฮ ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนในเรื่องของแบบฉบับอันดีงามที่เราผู้มีความศรัทธาต้องปฏิบัติตาม นั้นก็คือแบบฉบับของท่านศาสดามุฮัมมัด ดังที่พระองค์ได้ทรงตรัสไว้ในโองการหนึ่ง

لقدكان لكم في رسول الله أسوة حسنة

ความว่า แน่แท้มีให้กับสูเจ้าทั้งหลายในศาสนทูตของพระองค์นั่น คือแบบฉบับอันดีงาม 

    จากความเข้าใจของโองการนี้อัลลอฮ์ใช้ให้เราปฏบัติตามแนวทางของท่านศาสดา มุฮัมมัด   นอกเหนือจากการที่เราต้องปฏิบัติตามท่านศาสดาผู้รู้หรือที่เราเรียกเขาว่าเป็นนักการศาสนาเราก็สามารถนำท่านเหลานั้นมาเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเราได้ ในการดำเนินชิวิตประจำวันหากว่าพวกท่านเหล่านั้นทรงไว้ซึงลักษณะของผู้นำที่ดี

           สิ่งที่เคยเป็นแบบอย่างที่เราท่านทั้งหลายควรจะต้องปฏิบัติตามมันหายไปใหน ทุกอย่างกำลังจะถูกลบล้างไปแล้วเหรอ ถามว่าสิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นๆได้อย่างๆไร คำตอบก็คือ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้แน่ เมื่อผู้นำยังใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง เกิดขึ้นได้แน่ถ้าผู้รู้ไม่ยอมปฏิบัติ ตามความรู้ที่เขามีอยู่           

         

          ท่านพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลาย นอกจากอัลกุรอาน ที่ถือว่าเป็นนิติบัญญัติที่เราต้องปฎิบัติตามแล้วยังมีซุนนะฮ์ของท่านศาสดานะบีมุฮัมมัด ทีเราจำเป็นต้องเรียนรู้และปฏิบัติตาม

         ทุกๆคำกล่าว ของท่านศาสดา ทุกๆกริยาบท แม้กระทั่งการนิ่งของท่านศาสดาล้วนแล้วแต่เป็นแบบอย่างและคำสอนสั่งที่เราต้องปฏิบัติตาม ฉะนั้นการที่เราจะได้รับความรับความเมตตาจากองค์พระผู้อภิบาลเราจะต้องรักษาและปฏิบัติตามซุนนะฮ์ของท่านนะบี มุฮัมมัด ดังที่พระองค์ได้ทรงตรัสกับท่านบีมุฮัมมัด  ว่า

قل إن كنتم تحبون الله فإتبعوني يحببكم الله

ความว่า จงกล่าว เถิด มุฮัมมัด หากว่าพวกเขามีความรักใคร่ในอัลลอฮ์ ก็ให้พวกเขาปฏิบัติตามเจ้าแล้วเราก็จะเป็นผู้ที่รักพวกเขา 

          กระผมใคร่จะขอกล่าวถึงคุณสมบัติของนักการศาสนาที่ดี ซึ่งแน่นอนในระหว่างผู้ที่รู้กับผู้ที่ไม่มีความรู้ย่อมมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังคำดำรัสของพระองค์อัลลอฮ์ ที่ว่า

قل هل يستوى الذي يعلمون والذي لايعلمون

ความว่า  จงกล่าวเถิดโอ้มุฮัมมัด ผู้ที่มีความรู้กับผู้ที่ไม่มีความรู้นั้นย่อมแตกต่างกัน 

     

        จากความหมายของโองการนี้ชี้ถึงความไม่เท่าเทียมกันระหว่างผู้ที่มีความรู้กับผู้ที่ไม่มีความรู้ดั้งนั้นผู้ที่จะถูกเรียกว่าเป็นผู้รู้ได้นั้นเขาจะต้องปะกอบไปด้วยคุณสมบัติต่างๆ

          คุณสมบัติ ของนักการศาสนา ในเชิงทฤษฎี นั้นไม่มีความแตกต่าง กับคุณสมบัติ ของนักการศาสนา ในอดีต ทีอาจแบ่งออก เป็นสองปะการดังนี้

ประการแรก

          คือ คุณสมบัติ ในเชิงวิชาการ เช่น การมีความรู้ความเข้าใจในอัลกุรอ่าน พร้อมอรรถาธิบายอย่างถูกต้อง มีความรู้วิชาฮะดิษ และวิชาทีเกี่ยวข้องกับฮะดิษ รวมทั้งรู้เรื่องกฎหมายต่างๆของอิสลาม และประวัติศาสตร์ อิสลาม

 ประการที่สอง

          คุณสมบัติเฉพาะตัว อาทิ เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต ความถ่อมตน สุภาพอ่อนโยน เคารพผู้อื่น ความเสียสละต่อสวนรวม มีสัจจะวาจา ความอดทน รักษาสัญญา กระนั้นก็ดี คุณสมบัติ ของนักการศาสนา ทีมีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็น ดัชนีชี้วัดความสำเร็จก็คือ การอีหม่าน ต่ออัลลอฮ์  ด้วยหัวใจที่แท้จริงและมีความบริสุทธิ์ใจต่อพระองค์

          นอกจากคุณสมบัติดังกล่าวยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อีก ที่จะเป็นองค์ประกอบเสริม อาทิ การเรียนรู้ทางด้านสามัญ เรียนรู้เกี่ยวกับระเบียบทางโลก เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและสังคม คุณสมบัติที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ การรู้จักหาแนวทางในการสร้างความรัก การปรองดอง และความสามัคคี สมานฉันท์ ให้เกิดขึ้น ในหมู่นักวิชาการมุสลิม

          นอกจากคุณสมบัติของนักการศาสนา ดังกล่าวข้างต้นที่พึงมีแล้วยังมีคุณสมบัติอื่นๆอีกมากมายที่ไม่สามารถนำมากล่าว ณ ที่นี้ได้ทั้งหมด บางคุณสมบัติก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เวลา และสถานทีในขณะนั้น

          เราในฐานะที่อยู่ในรั้วและครรลองของอิสลาม การเลือกที่จะปฏิบัติตัวหรือตามแบบอย่างในการดำเนินชีวิตของเราแต่ละวันนั้น ก็ขอให้ได้คำนึงถึงหลักคำสอนของศาสนาเป็นทีตั้ง และรู้จักที่จะปลูกฝังให้กับลูกหลาน ให้เขาได้ซึมซับเอาแบบฉบับอันดีงามนี้ไปปฏิบัติ เพราะหลักคำสอนต่างๆนั้นขึ้นอยู่กับแบบอย่าง ที่จะทำให้ลูกหลานเหล่านั้นได้นำเอาไปเป็นแบบอย่าง

          จึงเห็นได้ว่าแบบอย่างที่ดีนั้นมันมีค่า และความสำคัญไม่น้อยไปกว่าคำสอน จากตรงนี้เราจะเห็นได้ว่าความรู้ของคนหนึ่งจะเกิดประโยชน์ขึ้นมาได้ เขาจะต้องปฏิบัติตามสิ่งทีเขาได้เรียนรู้มาและรู้จักทีจะบอกกล่าวตักเตือนในเรื่องที่ศาสนาห้ามและชักจูงให้ปฏิบัติตามสิงที่ศาสนาใช้

          สิ่งที่เป็นปัจจัยหลักและสำคัญทีสุด ที่อยากจะกล่าวย้ำอีกครั้งหนึ่ง ในที่นี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นองค์ประกอบที่จะทำให้การทำงานเพื่ออิสลามนั้นบรรลุผลสำเร็จทั้งโลกนี้และโลกหน้า ก็คือ การทีเรามีอีหม่านศรัทธาต่ออัลลอฮ์  และ เราะซูล ของพระองค์ด้วยหัวใจที่แท้จริง และ มีความ บริสุทธิ์ใจด้วยใจจริงต่อ ศาสนา โดยมีความตั้งใจจริง และมีความอดทน เป็นแรงส่ง และเป็นแรงหนุน ที่จะทำให้งานนั้นๆสำเร็จ และบรรลุผล เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งหากขาดปัจจัยหลักในส่วนนี้แล้ว การทำงานแม้จะดูประหนึ่งว่าประสพผลสำเร็จ แต่มันจะเป็นประหนึ่งดังภาพหลอนหรือภาพฟองสบู่ที่รอวันแตกสลายในวันหนึ่งวันใดข้างหน้า และ เมื่อนั้นท่านจะเป็นผู้หนึ่งทีมีชีวิตอยู่อย่างขาดทุน ทั้ง ดุนยานี้ และ อาคิเราะฮ์ (โลกหน้า)

......
         

 ที่มา : ชมรมนักวิชาการมุสลิมปทุมธานี