ลักษณะสรวงสวรรค์
(ผู้ที่ได้เข้าสวรรค์)
บุคคลแรกที่จะได้เข้าสวรรค์ท่านอนัส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัมได้กล่าวว่า :
عن أنس رضي الله عنه قال: قال رسول الله صلى الله عليه وسلم : «آتِي بَابَ الجَنَّةِ يَومَ القِيَامَةِ فَأَسْتَفْتِـحُ، فَيَـقُولُ الخَازِنُ: مَنْ أَنْتَ؟، فَأَقُولُ: مُـحَـمَّدٌ، فَيَـقُولُ: بِكَ أُمِرْتُ لَا أَفْتَـحُ لأَحَدٍ قَبْلَكَ». أخرجه مسلم برقم (197).
ความว่า : ฉันมาถึงประตูสวรรค์ในวันกิยามะฮฺแล้วฉันก็ขอให้เปิด ผู้รักษาประตูจึงถามว่า ท่านคือใคร? ฉันตอบว่า มุหัมมัด เขากล่าวว่า ฉันได้รับคำสั่งให้เปิดประตุแก่ท่าน โดยฉันจะไม่เปิดให้แก่ผู้ใดก่อนหน้าท่าน (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 197)
ประชาชาติแรกที่จะได้เข้าสวรรค์มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
عن أبي هريرة رضي الله عنه قال: قال رسول الله صلى الله عليه وسلم : «نَحْنُ الآخِرُونَ الأوَّلُونَ يَومَ القِيَامَةِ، وَنَحْنُ أَوَّلُ مَنْ يَدْخُلُ الجَنَّةَ». متفق عليه، أخرجه البخاري برقم (876)، ومسلم برقم (855)، واللفظ له.
ความว่า : พวกเราคือพวกสุดท้ายที่อยู่ในลำดับแรกในวันกิยามะฮฺ และพวกเราคือพวกแรกที่ได้เข้าสวรรค์ (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หมายเลข 876 และมุสลิมตามสำนวนนี้ หมายเลข 855)
คนกลุ่มแรกที่ได้เข้าสวรรค์1.มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
عن أبي هريرة رضي الله عنه قال: قال رسول الله صلى الله عليه وسلم: «إنّ أَوَّلَ زُمْرَةٍ يَدْخُلُونَ الجَنَّةَ عَلَى صُورَةِ القَمَرِ لَيْلَةَ البَدْرِ، ثُمَّ الَّذِينَ يَلُونَـهُـمْ عَلَى أَشَدِّ كَوْكَبٍ دُرِّيٍّ فِي السَّمَاءِ إضَاءَةً، لا يَبُولُونَ، وَلا يَتَغَوَّطُونَ، وَلا يَتْفِلُونَ، وَلا يَـمْتَـخِطُونَ، أَمْشَاطُهُـمُ الذَّهَبُ، وَرَشْحُهُـمُ المِسْكُ، وَمَـجَامِرُهُـمُ الألُوَّةُ، وَأَزْوَاجُهُـمُ الحُورُ العِينُ، عَلَى خَلْقِ رَجُلٍ وَاحِدٍ، عَلَى صُورَةِ أَبِيْـهِـمْ آدَمَ سِتُّونَ ذِرَاعاً فِي السَّمَاءِ». متفق عليه، أخرجه البخاري برقم (3327)، واللفظ له، ومسلم برقم (2834).
ความว่า : กลุ่มคนแรกที่ได้เข้าสวรรค์นั้น (มีความงดงาม) ดั่งดวงเดือนในคืนจันทร์เพ็ญ จากนั้นผู้ถัดจากพวกเขา (จะมีความงดงาม) เจิดจรัสยิ่งกว่าดวงดาวที่ทอแสงประกายบนท้องฟ้า พวกเขาไม่ถ่ายปัสสาวะ ไม่ถ่ายอุจจาระ ไม่ถ่มน้ำลาย ไม่สั่งน้ำมูก หวีของพวกเขาเป็นหวีทอง เหงื่อของพวกเขาเป็นชะมดเชียง ไม้หอมที่พวกเขาจุดเป็นควันคือไม้อุลวะฮฺ (ไม้หอมอินเดีย) คู่ครองของพวกเขาคือนางงามแห่งแดนสวรรค์ สัดส่วนเรือนร่างพวกเขาเป็นสัดส่วนของชายคนเดียว คืออยู่ในรูปทรงเรือนร่างของอาดัม บิดาของพวกเขา สูงหกสิบศอก (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 3327 และมุสลิม หมายเลข 3843)
2. มีรายงานจากสะฮฺล์ บินสะอฺด์ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
وعن سهل بن سعد رضي الله عنه أن رسول الله صلى الله عليه وسلم قال: «لَيَدْخُلَنَّ الجَنَّةَ مِنْ أُمَّتِي سَبْعُون أَلْفاً أَوْ سَبْعُمِائَةِ أَلْفٍ مُتَـمَاسِكُونَ آخِذٌ بَـعْضُهُـمْ بَـعْضاً، لا يَدْخُلُ أَوَّلُـهُـمْ حَتَّى يَدْخُلَ آخِرُهُـمْ، وُجُوهُهُـمْ عَلَى صُورَةِ القَمَرِ لَيْلَةَ البَدْرِ». متفق عليه، أخرجه البخاري برقم (6543)، ومسلم برقم (219)، واللفظ له.
ความว่า : ประชาชาติของฉันจะได้เข้าสวรรค์อย่างแน่นอนเป็นจำนวนเจ็ดหมื่นหรือเจ็ดแสนคน พวกเขาจะได้เข้าไปด้วยความสุขุมเรียบร้อย ต่างเกาะเกี่ยวซึ่งกันและกัน คนลำดับแรกจะไม่ได้เข้าจนกว่าคนลำดับสุดท้ายจะเข้าไป (หมายถึงทุกคนต่างเข้าประตูสวรรค์เป็นแถวเดียวแบบเรียงหน้ากระดานไม่มีใครอยู่ข้างหลังคนอื่น ผู้แปล) ใบหน้าของพวกเขางดงามคล้ายกับดวงจันทร์ในคืนจันทร์เพ็ญ (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หมายเลข 3543 และมุสลิมตามสำนวนนี้ หมายเลข 219)
3. อับดุลลอฮฺ บินอัมรฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา กล่าวว่า ฉันเคยได้ยินท่านเราะสูลุลลอฮฺศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า :
وعن عبدالله بن عمرو رضي الله عنهما قال: سمعت رسول الله صلى الله عليه وسلم يقول: «إنَّ فُقَرَاءَ المُهَاجِرِيْنَ يَسْبِقُونَ الأَغْنِيَاءَ يَومَ القِيَامَةِ إلَى الجَنَّةِ بِأَرْبَـعِينَ خَرِيفاً». أخرجه مسلم برقم (2979)..
ความว่า : แท้จริงแล้ว ชาวมุฮาญิรินที่ยากจนจะได้เข้าสวรรค์ก่อนคนที่ร่ำรวยในวันกิยามะฮฺเป็นเวลาสี่สิบเคาะรีฟ(ระยะเวลาที่ใช้นับฤดูกาล) (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 2979) (ในอีกหะดีษหนึ่งระบุว่าชาวมุฮาญิรินที่ยากจนจะได้เข้าสวรรค์ก่อนคนที่ร่ำรวยในวันกิยามะฮฺครึ่งวันอาคีเราะฮฺหรือห้าร้อยปีของโลกดุนยา ดูอิหม่ามอะหมัด 2/343 ผู้แปล)
อายุของชาวสวรรค์มีรายงานจากมุอาซ บินญะบัล เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
عن معاذ بن جبل رضي الله عنه أن النبي صلى الله عليه وسلم قال: «يَدْخُلُ أَهْلُ الجَنَّةِ الجَنَّةَ جُرْداً مُرْداً مُكَحَّلِينَ أَبْنَاءَ ثَلاثِينَ، أَوْ ثَلاثٍ وَثَلاثِينَ سَنَةً». أخرجه أحمد والترمذي حسن / أخرجه أحمد برقم (7920)، وأخرجه الترمذي برقم (2545)، وهذا لفظه.
ความว่า : ชาวสวรรค์จะได้เข้าสวรรค์ในสภาพคนเพิ่งแตกเนื้อหนุ่มที่หนวดเริ่มงอก ไม่มีเครา ไม่มีขนตามลำตัว เบ้าตาดำ วัยสามสิบหรือสามสิบสามปี (หะสัน บันทึกโดยอะหมัด หมายเลข 7920 และบันทึกโดยอัตติรมิซีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 2545)
ลักษณะใบหน้าของชาวสวรรค์1.อัลลอฮฺตะอาลาได้ตรัสว่า :
ความว่า : แท้จริงบรรดาคนดีนั้นย่อมได้อยู่ในความสุขสบายอย่างแน่นอน พวกเขาต่างพากันมอง (ความโปรดปรานที่อัลลอฮฺประทานให้) บนที่นั่งอันโอ่อ่า เจ้าจะเห็นประกายแห่งความเบิกบานฉายเด่นบนใบหน้าของพวกเขา (อัล-มุฏ็อฟฟิฟีน : 22-24)
2.อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
ความว่า : หลายใบหน้าในวันนั้นจะเปล่งปลั่งเบิกบานยิ่ง ที่ได้มองเห็นพระเจ้าของเขา (อัล-กิยามะฮฺ : 22-23)
3.อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
ความว่า : หลายใบหน้าในวันนั้นจะมีความสุขอันเนื่องมาจากกิจการงานของเขา (ที่กระทำไว้ครั้งอยู่ในโลกดุนยา) มีความพึงพอใจ (ในผลตอบแทนที่ได้รับในโลกอาคิเราะฮฺ และพวกเขาได้อยู่) ในสวรรค์อันสูงส่ง (อัล-ฆอชิยะฮฺ : 8-10)
4. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
ความว่า : หลายใบหน้าในวันนั้นแจ่มใส หัวเราะดีใจร่าเริง (อะบะซะ : 39-40)
5. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
ความว่า : และส่วนบรรดาผู้ที่ใบหน้าของเขาขาวผ่องนั้น พวกเขาจะอยู่ในความเมตตาของอัลลอฮฺ โดยพวกเขาจะอยู่ ณ ที่นั้นไปตลอดกาล (อาลิอิมรอน : 107)
6. มีรายงานจากอบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ ว่าท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
وعن أبي هريرة رضي الله عنه عن النبي صلى الله عليه وسلم : «أَوَّلُ زُمْرَةٍ تَدْخُلُ الجَنَّةَ عَلَى صُورَةِ القَمَرِ لَيْلَةَ البَدْرِ، وَالَّذِينَ عَلَى آثَارِهِـمْ كَأَحْسَنِ كَوْكَبٍ دُرِّيٍّ فِي السَّمَاءِ إضَاءَةً قُلُوبُـهُـمْ عَلَى قَلْبِ رَجُلٍ وَاحِدٍ، لا تَـبَاغُضَ بَينَـهُـمْ وَلا تَـحَاسُدَ». متفق عليه، أخرجه البخاري برقم (3254)، واللفظ له، ومسلم برقم (2834).
ความว่า : กลุ่มคนแรกที่ได้เข้าสวรรค์นั้นมีความงดงามดั่งดวงจันทร์ในคืนจันทร์เพ็ญ และคนถัดจากพวกเขางดงามเหมือนดวงดาวที่สวยงามที่สุดที่ทอแสงระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า หัวใจของพวกเขาทั้งหมดอยู่ในสภาพหัวใจของคน ๆ เดียว ไม่มีการโกรธเคืองและไม่มีการอิจฉาริษยาระหว่างกัน (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 3354 และมุสลิม หมายเลข 2834)
การต้อนรับชาวสวรรค์1.อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
ความว่า : และบรรดาผู้ยำเกรงต่อพระเจ้าของพวกเขาจะถูกนำไปยังสวรรค์เป็นกลุ่ม ๆ จนกระทั่งเมื่อพวกเขาได้มาถึงที่นั้นและประตูของมันก็ได้เปิดไว้แล้ว ผู้รักษาประตูสวรรค์จะกล่าวแก่พวกเขาว่า ความศานติจงมีแด่พวกท่าน พวกท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ ดังนั้น จงเข้าไปอยู่ในนั้นอย่างถาวรตลอดกาล (อัซซุมัร : 73)
2. อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
ความว่า : สวนสวรรค์อันสถาพรที่พวกเขาได้เข้าไปอยู่พร้อมกับคนดี ๆ ในหมู่พ่อแม่บรรพบุรุษ คู่ครอง และลูกหลานของพวกเขา ซึ่งบรรดามลาอิกะฮฺจะเข้ามาหาพวกเขาจากทุก ๆ ประตูพร้อมกล่าวอวยพรว่า ความศานติจงมีแด่พวกท่าน ด้วยเหตุที่พวกท่านได้อดทนมา มันจึงช่างเป็นที่พำนักสุดท้ายอันดีเลิศเสียเหลือเกิน (อัรเราะอฺด์ : 23-24)
3.อัลลอฮฺตะอาลาได้มีดำรัสว่า :
ความว่า : ความตื่นตระหนกโกลาหลครั้งยิ่งใหญ่ไม่ได้ทำให้พวกเขาเศร้าหมองเลย และบรรดามลาอิกะฮฺจะมาพบปะอวยพรให้แก่พวกเขาว่า นี่แหละ คือวันของพวกท่านที่พวกท่านได้ถูกสัญญาไว้ (อัลอัมบิยาอฺ : 103)
ผู้ที่ได้เข้าสรวงสวรรค์โดยไม่ต้องถูกสอบสวน หรือลงโทษ1.อิบนุอับบาส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุมา เล่าว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า :
عن ابن عباس رضي الله عنهما قال: قال النبي صلى الله عليه وسلم : «عُرِضَتْ عَلَيَّ الأُمَـمُ، فَأَجِدُ النَّبِيَّ يَـمُرُّ مَعَهُ الأُمَّةُ، وَالنَّبِيُّ يَـمُرُّ مَعَهُ النَّفَرُ، وَالنَّبِيُّ يَـمُرُّ مَعَهُ العَشَرَةُ، وَالنَّبِيُّ يَـمُرُّ مَعَهُ الخَـمْسَةُ، وَالنَّبِيُّ يَـمُرُّ وَحْدَهُ، فَنَظَرْتُ فَإذَا سَوَادٌ كَثِيرٌ، قُلْتُ: يَا جِبْريلُ، هَؤُلاءِ أُمَّتِي؟ قَالَ: لا، وَلَكِن انْظُرْ إلَى الأُفُقِ، فَنَظَرْتُ فَإذَا سَوادٌ كَثِيرٌ. قَالَ: هَؤُلاءِ أُمَّتُكَ، وَهَؤُلاءِ سَبْعُونَ أَلْفاً قُدَّامَهُـمْ لا حِسَابَ عَلَيْـهِـمْ وَلا عَذَابَ. قُلْتُ: وَلِـمَ؟ قَالَ: كَانُوا لا يَكْتَوونَ، ولا يَسْتَرْقونَ، وَلا يَتَطَيَّرُون، وَعَلَى رَبِّهِـمْ يَتَوَكَّلُونَ». متفق عليه، أخرجه البخاري برقم (6541)، واللفظ له، ومسلم برقم (220).
ความว่า : ประชาชาติต่าง ๆ ได้ถูกแสดงให้ฉันเห็น (ในคืนอิสรออฺ) ซึ่งฉันได้พบว่ามีนบีที่ผ่านไปพร้อม ๆ กับผู้ติดตามจำนวนมาก มีนบีที่ผ่านไปพร้อม ๆ ผู้ติดตามไม่กี่คน มีนบีที่ผ่านไปพร้อมกับผู้ติดตามสิบคน มีนบีที่ผ่านไปพร้อมกับผู้ติดตามห้าคน และมีนบีที่ผ่านไปอย่างโดดเดี่ยวเพียงคนเดียว แล้วฉันก็เพ่งมองไป อยู่ ๆ ก็ปรากฏฝูงชนจำนวนมาก ฉันเลยถามว่า โอ้ ญิบรีล คนเหล่านี้คือประชาชาติของฉันหรือ? เขาตอบว่า ไม่ใช่หรอก แต่ท่านลองมองไปยังที่ๆไกลลิบสุดขอบฟ้านั่นซิ ฉันเลยเพ่งมองไป ปรากฏว่ามีฝูงชนเป็นจำนวนมาก เขากล่าวว่า นั่นแหละคือประชาชาติของท่าน และนั่นอีกเจ็ดหมื่นก่อนหน้าคนเหล่านั้น จะไม่มีการตรวจสอบและการลงโทษใด ๆ ต่อพวกเขา ฉันถามว่า เป็นเพราะเหตุอันใดหรือ? เขาตอบว่า เป็นเพราะพวกเขาไม่เคยรักษาโรคด้วยวิธีที่ต้องห้าม ไม่เคยเป่าปัดบำบัดโรคด้วยคาถาที่ต้องห้าม และไม่เคยเชื่อในลางร้ายต่าง ๆ และพวกเขาต่างมอบตนต่อพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 6541 และมุสลิม หมายเลข 220)
2. อบูอุมามะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า ฉันได้ยินท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า :
وعن أبي أمامة رضي الله عنه قال: سمعت رسول الله صلى الله عليه وسلم يقول: «وَعَدَنِي رَبِّي سُبْـحَانَـهُ أَنْ يُدْخِلَ الجَنَّةَ مِنْ أُمَّتِي سَبْعِـينَ أَلْفاً لا حِسَابَ عَلَيْـهِـمْ، وَلا عَـذَابَ، مَعَ كُلِّ أَلْفٍ سَبْعُـونَ أَلْفاً، وَثَلاثُ حَثَيَاتٍ مِنْ حَثَيَاتِ رَبِّي عَزَّ وَجَلَّ». صحيح / أخرجه الترمذي برقم (2437)، وأخرجه ابن ماجه برقم (4286)، وهذا لفظه
ความว่า : พระเจ้าผู้มหาบริสุทธิ์ยิ่งของฉันได้สัญญาต่อฉันว่าพระองค์จะให้ประชาชาติของฉันจำนวนเจ็ดหมื่นคนได้เข้าสรวงสวรรค์โดยไม่มีการสอบสวนและการลงโทษใด ๆ ต่อพวกเขา โดยแต่ละหนึ่งพันคนนั้นจะสมทบด้วยคนอื่นอีกเจ็ดหมื่นคน และสามกำจากกำของพระเจ้าของฉันผู้สูงส่ง
(เศาะฮีห บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ หมายเลข 2437 และบันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺตามสำนวนนี้ หมายเลข 4286)
ลักษณะพื้นดินและสิ่งปลูกสร้างในสรวงสวรรค์1.อนัส เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า :
عن أنس رضي الله عنه أن النبي صلى الله عليه وسلم لما عُرج به إلى السماء قال: «... ثُمَّ انْطَلَقَ حَتَّى أَتَى بِي السِّدْرَةَ المنْتَـهَى، فَغَشِيَـهَا أَلْوَانٌ لا أَدْرِي مَا هِيَ، ثُمَّ أُدْخِلْتُ الجَنَّةَ، فَإذَا فِيْـهَا جَنَابِذُ اللُّؤْلُؤِ، وَإذَا تُرَابُـها المِسْكُ». متفق عليه، أخرجه البخاري برقم (3342)، واللفظ له، ومسلم برقم (163).
ความว่า : ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เมื่อครั้งที่ท่านได้ถูกนำตัวขึ้นสู่ฟากฟ้านั้น ท่านได้เล่าว่า ...แล้วเขา (ญิบรีล) ก็มุ่งหน้าไป จนกระทั่งเขาได้นำฉันมาถึงต้นสิดเราะตุลมุนตะฮา (ต้นพุทราที่เป็นจุดรวบรวมการงานของปวงมนุษย์) แล้วก็ปรากฏสีต่าง ๆ มาปกคลุมมันซึ่งฉันเองก็ไม่รู้จะบอกว่ามันช่างสวยงามอย่างไร จากนั้นฉันได้ถูกนำเข้าไปในสวรรค์ ซึ่งได้พบว่าในนั้นมีตึกไข่มุกกลม ๆ สูงตระหง่าน และได้พบว่าพื้นดินของมันนั้นคือน้ำหอมชะมดเชียง (มุตตะฟัก อะลัยฮฺ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 3342 และมุสลิม หมายเลข 163)
2.อบูฮุร็อยเราะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า :
وعن أبي هريرة رضي الله عنه قال: قلنا يا رسول الله... الجنة ما بناؤها؟ قال: «لَبِنَةٌ مِنْ فِضَّةٍ، وَلَبِنَةٌ مِنْ ذَهَبٍ، وَمِلاطُهَا المسْكُ الأَذْفَرُ، وَحَصْبَاؤُهَا اللُّؤْلُؤُ وَاليَاقُوتُ، وَتُرْبَتُـهَا الزَّعْفَرَانُ، مَنْ دَخَلَـهَا يَنْعَمُ وَلا يَبْأَسُ، وَيُـخَلَّدُ وَلا يَـمُوتُ، لا تَبْلَى ثِيَابُـهُـمْ وَلا يَفْنَى شَبَابُـهُـمْ». أخرجه الترمذي والدارمي .صحيح / أخرجه الترمذي برقم (2526)، وهذا لفظه، وأخرجه الدارمي برقم (2717).
ความว่า : พวกเราได้ถามว่า โอ้ ท่านเราะสูลัลลอฮฺ ... สรวงสวรรค์นั้น อาคารสิ่งก่อสร้างของมันทำจากอะไร? ท่านตอบว่า อิฐก้อนหนึ่งทำจากเงิน และอีกก้อนหนึ่งทำจากทองคำ (สลับกันไป) ปูนฉาบของมันคือน้ำหอมชะมดเชียงอันหอมกรุ่น ก้อนกรวดคือไข่มุกและพลอย และพื้นดินคือหญ้าฝรั่นเหลืองอร่าม ผู้ที่ได้เข้าไปในนั้นจะมีความสุขไม่เศร้าโศก จะคงอยู่ไปตลอดไม่เสียชีวิต เสื้อผ้าของพวกเขาจะไม่หมองเก่า และความหนุ่มความสาวของเขาจะไม่สิ้นสลาย (เศาะฮีห บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ตามสำนวนนี้ หมายเลข 2526 และบันทึกโดยอัดดาริมีย์ หมายเลข 2717(
3.อบูสะอีด เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮุ เล่าว่า :
وعن أبي سعيد رضي الله عنه أن ابن صياد سأل النبي صلى الله عليه وسلم عن تربة الجنة؟ فقال: «دَرْمَكَةٌ بَيْضَاءُ، مِسْكٌ خَالِصٌ». أخرجه مسلم برقم (2928).
ความว่า : อิบนุศ็อยยาดได้ถามท่านนบี ศ็อลลัลลอฮฺ อะลัยฮิ วะสัลลัม เกี่ยวกับพื้นดินของสวรรค์ว่าเป็นเช่นไร? ท่านเลยตอบว่า มันเป็นดินที่นุ่มละเอียดมาก เป็นน้ำหอมชะมดเชียงบริสุทธิ์" (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 2928 )
มุหัมมัด อิบรอฮีม อัตตุวัยญิรีย์แปลโดย : สุกรี นูร จงรักสัตย์
Islam House
Part 1 >>>>Click