ท่านอุตบะห์ บิน ฆ็อซวาน
ศ่อฮาบะห์ผู้ยิ่งใหญ่
โดย : คุณครู
ชาติตระกูล :
ท่านคือ อุตบะห์ อิบนุ ฆ็อซวาน อิบนุ ญาบิร อิบนุ วะฮ์บฺ อิบนุ ฮาริส อิบนุ มาซิน อิบนุ มันซู๊ร อิบนุ อิกริมะห์ อิบนุ ศ็อสฟะห์ อิบนุ อัยลาน มีฉายาว่า อบา อับดัลลอฮ์ บ้างก็เรียกว่า อบา ฆ็อซวาน
ชีวิตในเยาว์วัย :
ท่านอุตบะห์ใช้ชีวิตในเยาว์วัยเช่นเดียวกับลูกหลานคนอื่นของมาซิน มีอำนาจ ราชศักดิ์ ตามแบบอย่างสมัยญาฮิลียะห์ในอดีต มั่งคั่ง มีเกียรติ เป็นที่นับหน้าถือตา เป็นที่ไว้วางใจของญาติพี่น้อง มีจรรยามารยาท มีความคิดกว้างไกล รู้เท่าทัน และมีความกล้าหาญ ปฏิภาณไหวพริบดีเยี่ยม
ชีวิตในอิสลาม :
หลังจากที่ท่านรอซูลุลลอฮ์ ได้รับคำสั่งจากอัลเลาะห์ ให้ทำหน้าที่แนะนำตักเตือนผู้คนให้เข้ารับนับถือศาสนาอิสลามได้ไม่นานนัก ท่านอุตบะห์ก็ประจักษ์ชัดในความเป็นจริงแห่งสัจธรรมอิสลาม ท่านได้ชักชวนครอบครัว บุครหลาน ตลอดจนญาติพี่น้องของท่านให้เข้ารับอิสลามอย่างเงียบๆ เพราะเกรงภัยอันตรายจะประสบกับเขาเหล่านั้น จากน้ำมือของฝ่ายตรงกันข้าม
ท่านเป็นผู้ที่ต่อสู้เพื่ออิสลามมาตั้งแต่ต้น ด้วยการปกป้องช่วยเหลือผู้ถูกลงโทษทรมาน อันเนื่องมาจากการประกาศตนเข้ารับอิสลาม
ท่านเป็นหนึ่งในเจ็ดคนแรกที่ประกาศตนเข้ารับอิสลาม ซึ่งสภาพการณ์ในขณะนั้นเป็นอันรายต่ออิสลามเป็นที่สุด เปรียบเสมือนเปลวเพลิงที่กำลังรายล้อมพร้อมที่จะเผาผลาญท่านให้เป็นจุณ มีเพียงอัลเลาะห์ องค์เดียวเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งเป็นที่มอบหมาย และเป็นผู้คุ้มครองที่แท้จริง
การรวมตัวของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา ที่แสดงออกด้วยการเป็นปฏิปักษ์ต่อบรรดาผู้ศรัทธาในขณะนั้น เปรียบได้ดั่งรอยยิ้มและกำลังใจที่ผุดขึ้นกลางใจของบรรดาผู้ศรัทธา ทำให้จิตใจสงบและมั่นคงยิ่งขึ้น
ความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในจิตใจของผู้ศรัทธาในขณะนั้น ก็คือ การกำจัดรูปปั้นทั้งหลายแหล่ที่มีอยู่ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญทำให้ผู้คนหลงผิดนั่นเอง
อีกสิ่งหนึ่งที่บรรดาผู้ศรัทธาในขณะนั้นปรารถนาอย่างแรงกล้า ก็คือ การหลบหนีลี้ภัยไปให้พ้นจากการกดขี่ข่มเหงของพวกกาฟิร กุเรช ไปยังสถานที่ที่ให้ความปลอดภัย และสุขสงบ
เมื่อเป็นเช่นนี้ พลังแห่งการต่อสู้ จึงถูกปลุกให้ลุกโพลงขึ้นมา กลายเป็นพลังศรัทธาที่แข็งแกร่ง อันเนื่องมาจากการกดขี่ข่มเหง บีบคั้นทั้งร่างกายและจิตใจ ทั้งนี้เพื่อให้อุดมการณ์อิสลาม และศาสนาอันสูงส่งดำรงอยู่
การที่ญาติสนิทมิตรสหาย แสดงอาการเป็นศัตรูมุ่งร้ายต่อสัจธรรมแห่งอิสลาม นับเป็นความทุกข์ระทมที่สุดในชีวิต มิหนำซ้ำยังถูกกดดันในการดำรงชีวิตอย่างแสนสาหัสอีกด้วย
ท่านอุตบะห์ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ณ มัสยิดในเมืองบัสเราะห์ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ของชีวิตว่า :
พวกท่านน่าจะได้เห็นสภาพของฉัน ในครั้งที่ฉันเป็นหนึ่งในเจ็ดคนเท่านั้นที่เป็นผู้ศรัทธาต่อท่านรอซูลุลลอฮ์ พวกเราตกอยู่ในสภาพที่อดอยาก ไม่มีอะไรจะกิน นอกจากต้องกินใบไม้เป็นอาหารเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ มันบาดปาก บาดคอ เวลากลืนเข้าไปเป็นอย่างยิ่ง
อพยพสู่ อบิสสิเนีย (ฮะบะชะห์)
ท่ามกลางสภาวะวิกฤติ ที่มีการประจันหน้ากัน ระหว่างฝ่ายผู้ศรัทธากับบรรดาผู้บูชารูปปั้น ที่คับคั่งไปด้วยผู้คนและแสนยานุภาพ นับเป็นการทดสอบบรรดาผู้ศรัทธาที่มีจำนวนเพียงน้อยนิดว่าจะเป็นผู้ยืนหยัดศรัทธามั่นในอิสลามจริงแค่ไหน เพียงไร และฝ่ายใดกันแน่ที่จะประสบกับชัยชนะ ดังกล่าวนี้ ล้วนเป็นคำถามที่อยู่ในจิตใจของผู้อพยพทุกคน
ท่านรอซูล ทราบดีถึงสภาวะจิตใจที่บรรดาซอฮาบะห์ของท่านกำลังเผชิญอยู่ ท่านมีความอาทรห่วงใยต่อพวกเขา ยิ่งกว่าที่พ่อแม่ ญาติพี่น้องของพวกเขาที่มีต่อกันเสียอีก ท่านถามตนเองเสมอว่า หากถึงขั้นต้องสู้รบกันโดยเอาชีวิตของผู้ศรัทธาจำนวนน้อยนิดเข้าแลก กับการที่จะให้พวกเขาอดทนต่อความทุกข์ยากมากยิ่งขึ้นนั้น อะไรจะสมควรกว่ากัน พวกเขาเปรียบเสมือนต้นกล้าอ่อนๆ ที่ต้องการรดน้ำ พรวนดิน เพื่อจะได้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงในวันข้างหน้ามิใช่หรือ ?
ด้วยเหตุนี้ การอพยพจึงเป็นหนทางออกที่ดีที่สุด เพื่อมุ่งสู่แผ่นดินอันกว้างใหญ่ของอัลเลาะห์และให้การออกเดินทางในครั้งนี้เป็นข้อเตือนสติและเพิ่มความหนักแน่นอดทนในศาสนา หนักแน่นในการตัดสินใจของผู้คนในภายภาคหน้า อีกทั้งยังเป็นความดีงามในทุกย่างก้าวที่จะเดินไปข้างหน้าไม่ว่าจะบนบกหรือในน้ำ ดังที่อัลเลาะห์ทรงกำหนดไว้ด้วย
บรรดาผู้ศรัทธาต่างเชื่อฟังปฏิบัติตามท่านรอซูล เช่นเดียวกับที่พวกเขาเชื่อฟังปฏิบัติตามอัลเลาะห์ ดังนั้น พวกเขาจึงเชื่อฟังและปฏิบัติตามท่านรอซูล คำพูดของท่านรอซูล คือคำพูดของพวกเขา ดังจะเห็นได้จากรายงานของท่านอิบนิ อิสหาก ที่บันทึกเอาไว้ว่า :
ภัยพิบัติที่กำลังจะประสบกับบรรดาศอฮะบะห์ของท่านรอซูล ในดินแดนมักะห์แห่งนี้นั้น ดูเหมือนจะไม่เป็นที่ปลอดภัยแก่พวกเขาที่จะยังคงอยู่ ณ ที่นั้นอีกต่อไป
ท่านรอซูล จึงกล่าวกับบรรดาศอฮะบะห์ว่า :
พวกท่านเดินทางไปสู่ดินแดน ฮะบะชะห์ เพราะที่นั่นมีกษัตริย์ ซึ่งไม่มีคนใดจะได้รับการกดขี่ข่มเหงหรืออยุติธรรมเลย และดินแดนแห่งนั้น เป็นที่ปลอดภัย จงไปยังดินแดนแห่งนั้นเถิด จนกว่าอัลเลาะห์ จะให้ทางออกแก่พวกท่าน จากสิ่งที่พวกท่านกำลังเผชิญอยู่
บรรดาผู้อพยพจึงได้ออกเดินทางไปยัง ฮะบะชะห์(อบิซซิเนีย) และหนึ่งในบรรดาผู้อพยพในครั้งนั้น ก็มีท่านอุตบะห์ อิบนิ ฆ็อซวาน รวมอยู่ด้วย การอพยพดังกล่าวเกิดขึ้นในเดือนรอญับ เป็นปีที่ 5 นับตั้งแต่ท่านรอซูลุลลอฮ์ ทำหน้าที่เผยแพร่ศาสนาอิสลาม
โปรดติดตามตอนต่อไป
ท่านอุตบะห์ บิน ฆ็อซวาน 2 >>>Click