การละหมาดญะมาอะฮ์
โดย อ.ฏอฮา อับดุลเลาะห์
มีรายงานจากท่าน อับดุลลอฮ์ อิบนุ มัสอู๊ด กล่าวว่า
"ใครที่ต้องการกลับไปหาอัลลอฮ์ ในวันพรุ่งนี้ (วันกิยามะฮ์) ในฐานะที่เป็นมุสลิม ที่จะสร้างความปลื้มปิติยินดีให้แก่เขา ก็จงระวังรักษาการละหมาดเหล่านั้นไว้ มิให้ขาดหายไป คราใดที่เขาถูกเรียกร้องให้ไปสู่การละหมาดนั้น เพราะอัลลอฮ์ ได้ทรงกำหนดแนวทางอันถูกต้องสมบูรณ์ให้แก่ผู้เป็นนะบี ของพวกท่านแล้ว แท้จริง มันเป็นแนวทางที่ถูกต้องสมบูรณ์ หากพวกท่านทำละหมาดอยู่ในบ้านของพวกท่าน เหมือนกับผู้ที่หลบตัวละหมาดอยู่ในบ้านของเขา โดยไม่ออกมาทำละหมาดที่มัสยิด แน่นอนพวกท่านได้ละทิ้งแนวทางอันถูกต้องของผู้เป็นนะบี ของพวกท่าน ก็เท่ากับว่าพวกท่านได้หลงทางไปแล้วอย่างแน่นอน
และไม่มีผู้ใดทำการอาบน้ำละหมาดจากบ้านของเขา อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนทุกประการ หลังจากนั้นเขาก็มุ่งไปยังมัสยิดหนึ่งมัสยิดใด ในบรรดามัสยิดทั้งหลายเหล่านั้น นอกจากอัลลอฮ์ จะได้ทรงบันทึกให้แก่เขา ซึ่งแต่ละก้าวที่เขาได้เดินออกไปนั้น ล้วนเป็นความดีทั้งสิ้น และแต่ละก้าวที่เขาเดินไปนั้น อัลลอฮ์ ทรงเพิ่มให้เขามีฐานะสูงขึ้นไปอีก และพระองค์จะทรงลบล้างความผิดของเขาให้หมดไป ด้วยกับแต่ละก้าวที่เดินไปยังมัสยิด และแน่นอนยิ่ง ฉันเห็นพวกเราเป็นผู้กระตือรือร้น ไม่มีใครเลยหลบเลี่ยงการไปละหมาดที่มัสยิด นอกจากพวกกลับกลอก (มุนาฟิก) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี ที่ไม่ยอมไป ขอยืนยันว่าในพวกเรามีบางคนที่พยายามไปมัสยิด แม้จะอาศัยเกาะไหล่สองคน เพื่อพยุงตัวเองมาก็ตาม จนกระทั่งเขายืนอยู่ในแถวละหมาด เนื่องจากเขาเห็นความสำคัญของการละหมาด ญะมาอะฮ์ นั่นเอง" (บันทึกโดย มุสลิม)
พี่น้องมุสลิมทั้งหลาย จงกระตือรือร้นในการไปมัสยิดกันเถิด เมือใดที่ได้ยินเสียงอาซาน จงทิ้งการงานใดก็ตามที่ท่านกำลังทำอยู่ เพราะอัลลอฮ์ ทรงยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดทั้งสิ้น
จงอยู่ในสภาพที่มีน้ำละหมาดอยู่เสมอ พร้อมที่จะตอบรับเสียงเรียกจากพระผู้ทรงกรุณาเมตตา
จงทำน้ำละหมาดของท่านให้สมบูรณ์ครบถ้วน และจงก้าวเดินไปมัสยิดให้มากๆ และจงรอคอยการละหมาดเวลาต่อๆไป หลังจากที่ได้ทำการละหมาดเวลานั้นๆไปแล้ว
วิญญาณของการละหมาดนั้นคือ การนอบน้อม ถ่อมตน (คุชัวะอ์) ฉะนั้นจงทำการละหมาดอย่างนอบน้อมต่ออัลลอฮ์ เถิด
จงพินิจพิเคราะห์ ใคร่ครวญ อายะฮ์ อัลกุรอาน ที่ถูกนำมาอ่านในขณะทำการละหมาดเถิด
จงระวังอย่าส่ายสายตาขณะทำการละหมาด หรือมองดูนาฬิกา และเพลิดเพลินอยู่กับสีสันของเสื้อผ้า เพราะการกระทำเช่นนั้น ค้านกับความนอบน้อม
จงนอนแต่หัวค่ำ พร้อมมีน้ำละหมาดติดตัวอยู่เสมอ เพื่อจะได้ตื่นมาทำการละหมาดศุบฮิ ด้วยความกระฉับกระเฉง จงพยายามรักษาการละหมาดที่เป็นซุนนะฮ์เอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการละหมาดวิตร์ และละหมาดในยามกลางคืน (หลังละหมาอิซาอ์แล้ว) ถึงแม้จะทำการละหมาดเพีย 2 รอกอะฮ์ ก็ตาม
จงพยายามเฝ้ารอการละหมาดให้ตนเองได้อยู่ในแถวหน้า และเมื่อละหมาดเสร็จแล้ว อย่าได้รีบลุกขึ้นออกจากมัสยิด ก่อนที่ท่านจะได้กล่าว ซิกรุลลอฮ์ และกล่าววิงวอนขอดุอาร์ต่างๆ ตามแบบฉบับของท่านเราะซูล ภายหลังจากละหมาด ฟัรฏูเสียก่อน
การกล่าวซิกรุลลอฮ์ หลังละหมาดตามแบบฉบับท่านนะบีมุฮัมมัด ทุกเวลา คือ
ให้กล่าว
อัสตัฒฟิรุลลอฮ์ 3 ครั้ง
ให้กล่าว
อัลลอฮ์ ฮุมมะอันตัสลาม วะมิงกัสลาม ตะบารอกตะ ญาซัลยะลาลิวัลอิกรอม 1 จบ
ให้กล่าว
ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ วะดะฮูลาชะรีกะละ ละฮุนมุลกุ วะละฮุนฮัมดุ ยัวะยีวะยูมีท วะฮุวาอะลากุลลิชัยอิงกอฎีร์ 1 จบ
สำหรับเวลาละหมาดหลังศุบฮิ และ หลังมัฆริบ ให้กล่าว 10 จบ
ให้กล่าว
ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ มุคลิซีนะ ละฮุดดีน วะเลากาลิฮันกาฟิรูน 1 จบ
ให้กล่าว
อัลลอฮุมมะ ลามานิอะ ลิมาอะฏอยตะ วะลามัวะฏิยะ ลิมามานะอ์ฏะ วะลายัมฟะอุ ซัลญัจดิ มิงกัลญัจดุ 1 จบ
ให้กล่าว
อะอินนี อะลาซิกริกะ วะชุกริกะ วะฮุสนีอิบาดะติก์ 1 จบ
ให้กล่าว
ซุบฮานัลลอฮ์ 33 ครั้ง อัลฮัมดุลิลลาฮ์ 33 ครั้ง อัลลอฮุอักบัร 33 ครั้ง ลาอิลาฮะอิลลัลลอ วะดะฮูลาชะรีกะละ ละฮุนมุนกุ วะละฮุนฮัมดุ วะฮุวะอะลากุลลิชัยอิงกอฎีร์ 1 ครั้ง
ให้นับโดยใช้นิ้วมือ
ให้อ่าน
อายะฮ์ กุรซี 1 จบ
ให้อ่าน
ซูเราะฮ์ อัลอิคลาศ , ซูเราะฮ์ อัลฟาลัค , ซูเราะฮ์ อัลนาส อย่างละ 1 จบ
หลังละหมาดศุบฮิ และ มัฆริบ อ่านอย่างละ 3 จบ