หญิง มอง ชาย
  จำนวนคนเข้าชม  13753

 

หญิงมองชาย

โดย :  อาจารย์กอเซ็ม เดชเลย์

 

ท่านหญิงอุมมุซะละมะห์ รายงานว่า :

          ท่านอิบนุอุมมิมักตูม (ซึ่งเป็นคนตาบอด) ได้เข้ามาหาท่านรอซูล ขณะที่ฉัน(อุมมุซะละมะห์) และท่านหญิงมัยมูนะห์อยู่กับท่านรอซูล ภายหลังจากที่ได้มีบัญญัติห้ามบรรดาผู้ศรัทธาชายสนทนากับภรรยาท่านรอซูล นอกเสียจากจะมีม่านกั้น(ดูดำรัสของอัลเลาะห์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ในซูเราะห์อัลอะห์ซาบ อายะห์ที่ 53)

ท่านรอซูล จึงได้กล่าวว่า :      เธอทั้งสองจงหลบไปเสีย

ฉันได้กล่าวว่า :     โอ้ท่านรอซูลลุลลอฮ์ เขาตาบอด มองไม่เห็นเรา และก็ไม่รู้จักเราด้วยมิใช่หรือ?

ท่านนบี ได้กล่าวตอบว่า :    แล้วเธอทั้งสองตาบอดกระนั้นหรือ ? เธอทั้งสองมองเห็นเขามิใช่หรือ

บันทึกโดยอิมามอัตติรมิซีย์

 

คำอธิบาย

1. 
          คำสอนของศาสนาอิสลามนั้นครอบคลุมในทุกๆด้าน มิได้ปล่อยเว้นสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย อิสลามให้ความสำคัญและเอาใจใส่ต่อการอบรมสั่งสอน เพื่อให้ประชาชาติอิสลามได้รับความสุข และความสำเร็จทั้งในโลกดุนยาและอาคิเราะห์ หนึ่งในสิ่งที่อิสลามให้ความสนใจและให้ความสำคัญก็คือ การห้ามมิให้ชายมองดูหญิงที่ไม่ใช่มะห์รอม และการห้ามหญิงมองดูชายที่ไม่ใช่มะห์รอม เพราะการงดเว้นจากสิ่งดังกล่าวจะทำให้จิตใจบริสุทธิ์ผุดผ่อง ห่างไกลจากสิ่งยั่วยุทางด้านอารมณ์ และความใคร่ รวมทั้งความต้องการที่จะกระทำสิ่งอันเป็นที่น่ารังเกียจ ซึ่งการห้ามมองดูเพศตรงข้ามนั้นเป็นคำสั่งของอัลเลาะห์ ที่พระองค์ได้ตรัสไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานว่า :

          จงกล่าวเถิดมุ(มุฮัมหมัด) แก่บรรดาผู้ศรัทธาชาย ให้พวกเขาลดสายตาของพวกเขาลงต่ำ และให้พวกเขารักษาทวารของพวกเขา นั่นเป็นการบริสุทธิ์ยิ่งแก่พวกเขา แท้จริง อัลเลาะห์ทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเขากระทำ และจงกล่าวเถิด(มุฮัมหมัด)แก่บรรดาผู้ศรัทธาหญิง ให้พวกเธอลดสายตาของพวกเธอลงต่ำ และให้พวกเธอรักษาทวารของพวกเธอ และอย่าเปิดเผยเครื่องประดับของพวกเธอเว้นแต่สิ่งที่เปิดเผยได้
(อันนู้ร 24 : 30-31)

          อิมามอิบนุกะซีรได้อธิบายถึงความสำคัญของความหมาย และฮุก่มที่อยู่ในอายะห์นี้ โดยเน้นย้ำว่าสิ่งนี้เป็นคำสั่งของอัลเลาะห์ ต่อบรรดาบ่าวที่เป็นมุอฺมิน ซึ่งจะต้องลดสายตาของพวกเขาจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้าม ดังนั้นพวกเขา(บรรดาผู้ศรัทธา) อย่าได้มองสิ่งใดเลย เว้นแต่ในสิ่งที่พระองค์ได้ทรงอนุญาตให้พวกเขามองเท่านั้น และพวกเขาจะต้องลดสายตาจากสิ่งที่ต้องห้ามทั้งหลาย และหากว่าสายตาของพวกเขาได้เหลียวมองดูสิ่งที่ต้องห้ามโดยบังเอิญ ก็ให้เขาหันกลับมาโดยเร็ว หรือไม่ก็ลดสายตาลงต่ำ

          บรรดาอุละมาอฺจำนวนมากมีความเห็นว่า : ห้ามสตรีมองดูชายที่ไม่ใช่มะห์รอม แม้ว่าจะมีความต้องการทางเพศหรือไม่ก็ตาม โดยอ้างหลักฐานจากฮะดีษของท่านหญิงอุมมุซะละมะห์ ที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น

           อุละมาอฺบางส่วนเห็นว่า  : อนุญาตให้สตรีมองดูชายที่ไม่ใช่มะห์รอมได้หากว่าไม่มีความต้องการทางเพศ โดยใช้หลักฐานจากฮะดีษของท่านหญิงอาอิชะห์ ว่า :

          “ฉันเห็นท่านนบีปกปิดตัวฉันด้วยเสื้อคลุมของท่าน ขณะที่ฉันเฝ้าดูพวกอบิซซิเนีย(ฮะบะชะห์)เล่นกัน จนกระทั่งฉันเบื่อ(ที่จะมองดูพวกเขาต่อไป)”

2. 
          ท่านรอซูล เป็นผู้ชี้นำทางอันถูกต้องและเที่ยงตรง ได้อธิบายเกี่ยวกันอันตรายของการมองดูสิ่งที่เป็นที่ต้องห้าม และยังได้เสริมเพิ่มเติมว่า การออกห่างจากสิ่งดังกล่าวเป็นหนทางที่ดีและประเสริฐสุด ดังรายงานจากท่านอับดุลเลาะห์ อิบนิ มัสอู๊ด ว่า : ท่านรอซูล กล่าวว่า :

         “การมองเป็นลูกศรหนึ่งของอิบลีส(มารร้าย) บุคคลใดละทิ้งการมองอันเนื่องจากเกรงกลัวฉัน ฉันจะทดแทนด้วยการศรัทธาอีหม่าน เขาจะสัมผัสได้ถึงความหอมหวนของมันในหัวใจของเขา”
(บันทึกโดยอัฏฏอบรอนีย์ และอัลฮากิม ด้วยสายสืบที่ซอฮีฮฺ)

          และเช่นเดียวกัน ท่านนบี ยังได้กำชับถึงความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลดสายตา หากสายตานั้นไปประสบพบเห็นสิ่งซึ่งเป็นที่ต้องห้ามโดยบังเอิญ โดยมิต้องหันหลับไปมองซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง ดังมีรายงานจากท่านญะรี๊ร อิบนุ อับดิลลาฮ์ ว่า :

          “ฉันได้ถามท่านรอซูล ถึงการมองโดยมิได้ตั้งใจ(ไม่รู้ตัว) ท่านได้ใช้ให้ฉันลดสายตาของฉันทันที”
(บันทึกโดยอิมามมุสลิม)

มีรายงานจากท่านบุรอยดะห์ ว่า : ท่านรอซูล กล่าวว่า :

          “โอ้อาลี(ท่านอาลี อิบนิ อบีฏอลิบ) ท่านอย่ามองติดต่อกัน 2 ครั้ง เพราะการมองครั้งแรกนั้นเป็นสิทธิของท่าน แต่สำหรับครั้งที่สองนั้นไม่ใช่”
(บันทึกโดยอิมามอบูดาวู๊ด)

          และท่านนบี ยังได้เตือนบรรดาสตรีที่มักจะนำรายละเอียดเรื่องราว ตลอดจนบรรยายถึงลักษณะต่างๆของสตรีอื่นๆ ซึ่งบางครั้งอาจเป็นญาติของเธอ หรือเม้กระทั่งหญิงรับใช้ของเธอมาถ่ายทอดให้แก่สามีของเธอได้ฟังอยู่เสมอๆ ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะก่อให้เกิดความปราถนาแก่สามีของเธอ โดยที่เธอไม่รู้ตัว และโดยที่เขาไม่ได้มองด้วยซ้ำไป ดังมีรายงานจากท่านอิบนุ มัสอู๊ดว่า ท่านนบี กล่าวว่า :

          “สตรีผู้เป็ภรรยาอย่าได้เอ่ยถึงสตรีคนใด และบอกลักษณะของสตรีคนนั้นให้สามีของเธออย่างละเอียด ประหนึ่งว่าเขาได้เห็นสตรีคนนั้นกับตาตนเอง”   
(บันทึกโดยอิมามอัลบุคอรีย์)

           และท่านนบี ได้ชมเชยบุตรคนสุดท้ายของท่าน ท่านหญิงฟาติมะห์ ซึ่งนางจะระมัดระวังตัวเสมอ นางจะเก็บตัวให้พ้นจากสายตาของเพศชาย เพื่อพวกเขาจะได้ไม่เห็นนาง และนางก็จะได้ไม่เห็นพวกเขา ดังมีรายงานจากท่านอาลี ว่า :

ขณะที่ฉันอยู่กับท่านรอซูลนั้น ท่านรอซูล ได้กล่าวขึ้นว่า :
           สิ่งใดเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดสำหรับสตรี?
พวกเขา(บรรดาซอฮาบะห์) ต่างนิ่งเงียบ เมื่อฉัน(ท่านอาลี) ได้กลับมาบ้าน ฉันได้กล่าวแก่ฟาติมะห์(ภรรยาของท่านอาลี) ว่า :
          สิ่งใดเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดสำหรับสตรี?
นางตอบว่า :
          การที่นางทั้งหลายนั้นไม่ให้บรรดาชายมองเห็นนาง
ฉัน(ท่านอาลี)ได้เล่าเรื่องดังกล่าวแก่ท่านนบี(ซ.ล.)ฟัง ท่านกล่าวว่า :
          แท้จริงนางคือฟาติมะห์ ส่วนหนึ่งของฉัน
(บันทึกโดยอัลบัซซ๊าร)

          การมองอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นอันตราย และเสี่ยงต่อการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้มากที่สุดคือ การที่ชายมองดูเอาว์เราะห์(สิ่งพึงปกปิด)ของชาย และการที่สตรีมองดูเอาว์เราะห์ของสตรี ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามที่จะเปิดเผยแก่ผู้อื่น และเป็นสิ่งที่ท่านรอซูล ได้เตือนเอาไว้ ดังมีรายงานจากท่านอบีสะอี๊ด อัลคุดรีย์ว่า : ท่านนบี กล่าวว่า :

          “ชายอย่าได้มองเอาว์เราะห์ของชาย และหญิงอย่าได้มองเอาว์เราะห์ของหญิง และชายอย่าได้อยู่กับชายในผ้าผืนเดียวกัน และสตรีอย่าได้อยู่กับสตรีในผ้าผืนเดียวกัน”
(บันทึกโดยอิมามุสลิม)

3.
          บรรดาสตรีพึงระวังการจับจ่ายซื้อของตามตลาดหรือศูนย์การค้าต่างๆ อย่าได้มองชายอื่นที่ไม่ใช่มะห์รอมสำหรับเธอ ไม่ว่าจะมองด้วยความปราถนาหรือไม่ก็ตาม และให้เธอหลีกเลี่ยงออกห่างจากสถานที่ซึ่งจะทำให้เธอต้องปะปนอยู่กับดพศชาย และให้เธอเลี่ยงที่จะมองดูเพศตรงข้ามเท่าที่สามารถจะทำได้ เพราะส่วนมากผลที่จะตามมาก็คือ การทักทาย การสนทนา และการนัดแนะพบปะกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งไม่สามารถจะรับประกันได้ถึงความปลอดภัยของเธอ และการกระทำดังกล่าวจะไม่ได้รับการชมเชย อีกทั้งอารมณ์ความต้องการ และการหลงตัวเองอาจชักนำให้เธอแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม และประดับประดาด้วยเครื่องประดับที่หรูหราสะดุดตา ซึ่งท้ายที่สุด มันก็จะนำพาเธอสู่ฟิตนะห์ และความเสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้เกียรติของนาง และคุณค่าของนางหมดสิ้นไปในที่สุด

          ฉะนั้น บุคคลใดที่เชื่อฟังอัลเลาะห์ และปฏิบัติตามคำสอนของท่านรอซูล แล้วไซร้ บุคคลนั้นสมควรที่สุดที่จะได้รับความสุขสบายในบั้นปลาย และจงเกรงกลัวอัลเลาะห์ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง ดังที่พระองค์ตรัสไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานที่ว่า :

          “และผู้ใดเชื่อฟัง ปฏิบัติตามอัลเลาะห์และรอซูลของพระองค์ และเกรงกลัวอัลเลาะห์ และยำเกรงพระองค์แล้ว ชนเหล่านั้นพวกเขาเป็นผู้ได้รับชัยชนะ”
(อันนู้ร 24:52)

สาระที่ได้รับจากฮะดีษ

1. ห้ามชายมองหญิงที่ไม่ใช่มะห์รอม
2. ห้ามหญิงมองชายที่ไม่ใช่มะห์รอม แม้ว่าจะไม่มีอารมณ์หรือความต้องการทางเพศก็ตาม
3. ห้ามชายมองเอาว์เราะห์ของชายด้วยกัน และห้ามหญิงมองเอาว์เราะห์ของหญิงด้วยกัน
         

 


 

 

เผยแพร่โดย : สายสัมพันธ์