ซอลาฮุดดีน (ภูมินทร์) หวังทรงธรรม
ประวัติส่วนตัว
- เป็นคนกรุงเทพ โดยกำเนิด บ้านอยู่ที่เจริญกรุง 67 พี่น้อง 5 คน (เสียชีวิต 1 คน) ปัจจุบัน อายุ 40 ปี
- จบการศึกษา ปริญญาตรี คณะวิศวะอุตสาหการ มหาวิทยาลัย พระจอมเกล้าธนบุรี
- สถานภาพ แต่งงานแล้ว (ภรรยากำลังมีบุตร อินชาอัลลอฮ์)
- ปัจจุบัน เป็นหัวหน้างาน อยู่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
สนทนา ถาม-ตอบ
Islammore : เข้าอิสลามได้นานแค่ไหนแล้ว ?
ซอลาฮุดดีน : นับจนถึงวันนี้ ประมาณ 1 ปี 7 เดือน
Islammore : ทุกคนมีเหตุผล ของซอลาฮุดดีน อะไรคือสาเหตุที่เข้ารับอิสลาม ?
ซอลาฮุดดีน : เพราะความแตกต่างในการปฏิบัติตนของมุสลิมด้วยกันเอง ความจริงแล้ว ช่วงที่ผมทำงานได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งทำให้เห็นข้อแตกต่างในมุสลิมที่ผมเคยรู้จัก คือ ปกติมุสลิมที่ผมคบอยู่เวลาไปกินข้าว เราจะเลือกร้านข้าวมันไก่ ซึ่งร้านนั้นขายแต่ไก่อย่างแน่นอน แม้จะไม่ใช่ร้านอาหารอิสลามก็ตาม พวกเพื่อนมุสลิมที่รู้จักก็กินข้าวกับผมได้ปกติ โดยไม่มีปัญหาอะไร แต่เพื่อนคนนี้ไม่ยอมกิน บอกว่ากินไม่ได้ ผมจึงถามเพื่อหาคำตอบ แล้วจึงได้รู้คำตอบที่ไม่เคยทราบเลย
แล้วเขาเป็นคนที่ละหมาดครบ 5 เวลา ทำให้ผมรู้สึกถึงความดีที่แตกต่างจากมุสลิมคนอื่นๆ จึงทำให้มีความรู้สึกว่า "ชีวิตกับศาสนาเป็นเรื่องเดียวกัน"
การตัดสินใจของผม มีส่วนหนึ่งจากผู้หญิงคนหนึ่ง ปัจจุบัน คือ ภรรยา แต่ไม่ใช่ว่าผมเข้ารับเพราะการแต่งงานอย่างเดียว คือถ้าศึกษาแล้วไม่ใช่ ผมก็คงไม่ได้รับอิสลาม ทุกอย่างก็คงจะจบไป แต่เมื่อผมได้ศึกษา และเปรียบเทียบแล้ว ทำให้รู้สึกว่า นี่คือสิ่งที่ค้นหามาตลอด และคงไม่ยอมปล่อยให้หลุดลอยไปอย่างแน่นอน
Islammore : มุมมองมุสลิมก่อนเข้ารับอิสลาม กับหลังเข้ารับแล้ว แตกต่างกันหรือไม่อย่างไร ?
ซอลาฮุดดีน : ของผมไม่ค่อยแตกต่างเท่าไหร่ และไม่มีมุมมองในแง่ลบกับมุสลิม เพราะสมัยเป็นเด็กนักเรียน ได้เรียนในโรงเรียนที่เจ้าของเป็นมุสลิม แต่เป็นโรงเรียนสามัญนะครับ อาหารที่กินในโรงเรียนเป็นอาหารมุสลิม เพื่อนๆที่โรงเรียนก็เป็นมุสลิม จึงได้อยู่ร่วมกับสังคมมุสลิมมาโดยตลอด ฉะนั้นการที่มุสลิมจะมีทั้งดี และไม่ดี จึงเป็นเรื่องปกติของสังคมมนุษย์
ผมจะมองว่ามุสลิมที่ไม่ได้อยู่ในหลักการศาสนา เป็นเรื่องของตัวบุคคล ไม่ได้เกี่ยวกับคำสอนของศาสนา เพราะมนุษย์ในทุกศาสนา มีทั้งคนดี และคนเลว จึงเป็นเรื่องที่ผมมองว่าไม่แตกต่างและไม่ได้คาดหวังว่ามุสลิมทุกคนจะต้องเป็นคนดีทั้งหมด มุมมองก่อนและหลังรับอิสลามจึงไม่ค่อยมีผลต่อการนับถือศาสนาอิสลามของผม
Islammore : วิถีการดำเนินชีวิตต่างไปจากเดิมหรือไม่ ?
ซอลาฮุดดีน : สำหรับผม คิดว่าตนเองไม่ได้เปลี่ยนอะไร แต่คนรอบข้างจะบอกว่าเราเปลี่ยนไป อาจเป็นเพราะแต่ก่อนที่นับถือศาสนาพุทธ ผมก็ไม่ได้ไหว้รูปปั้น รูปภาพ หรือหลุมฝังศพของบรรพบุรุษที่ตายไป และศาลเจ้าต่างๆ ด้วยความเคารพ ผมไหว้และปักธูปตามที่ญาติๆสั่งให้ทำ แต่จิตใจไม่เคยมีความรู้สึกถึงความเคารพเลยแม้แต่น้อย เพราะตามหลักศาสนาพุทธที่ได้ศึกษามา แท้จริงแล้วการสร้างรูปปั้นต่างๆ เกิดขึ้นหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน ผ่านมา 500 ปี และหลักคำสอนของศาสนาพุทธไม่เคยมีการไหว้รูปปั้น หรือทำเครื่องรางของขลังแบบสมัยปัจจุบันนี้
วิถีชีวิตโดยรวมเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้ได้อยู่กับสิ่งที่เรียกว่าความดีตลอดเวลา เช่นการละหมาด 5 เวลา ชีวิตและศาสนาได้รวมมาเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะแต่ก่อนที่ผมเป็นพุทธ อยากทำวัตร 5 เวลา เมื่อเห็นมุสลิมสามารถละหมาด 5 เวลาได้ ผมเลยอยากที่จะแข่งบ้าง แต่ก็ไม่สำเร็จ มันไม่มีแรงกระตุ้นหรืออยากที่จะทำ และไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร
เมื่อก่อนคิดอยากทำความดีอยู่ในหลักของศาสนาพุทธต้องไปบวชเป็นพระ แต่เราก็อยากมีภรรยา มีครอบครัว ไม่สามารถตัดกิเลส ตัณหาได้ เลยไม่คิดที่จะบวช พอมาพบศาสนาอิสลาม เลยทำให้รู้ว่า การทำความดีสามารถทำควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตประจำวันได้ตลอดเวลา ไม่ต้องแยกศาสนาออกจากโลกแห่งความเป็นจริง ชีวิตที่แท้จริงได้อยู่ในหลักการศาสนาที่แท้จริง "ศาสนากับการดำเนินชีวิตสามารถไปด้วยกันอย่างครอบคลุม" ทำให้จิตใจอยู่ในหลักการทำความดีตลอดเวลา อย่างเช่น เมื่อจะไปไหน ต้องวางแผนมากขึ้น ทำอะไรก็ต้องวางแผน เพื่อไม่ให้สูญเสียเวลาละหมาด
Islammore : การละหมาด ทำให้เรารู้สึกอย่างไรบ้าง ?
ซอลาฮุดดีน : ทำให้จิตใจตั้งมั่นอยู่ในความดี เราเจตนาละหมาดเพื่ออัลลอฮ์ ทุกอย่างไม่ว่าจะทำการงานอะไรก็เพื่ออัลลอฮ์ เมื่อได้เรียนรู้และศึกษามากขึ้น จึงทำให้เข้าใจว่า ทำไมเราจึงต้องทำเพื่อพระองค์ เพียงองค์เดียว อัลลอฮ์เป็นผู้ให้กำเนิด ผู้บังเกิดทุกสิ่ง เพราะฉะนั้นจึงสามารถหาจุดศูนย์กลาง และมีพลังเพื่อที่จะทำความดีเพื่อพระองค์ตลอดเวลา
เมื่อก่อนเราทำความดีแต่ไม่ค่อยมีความบริสุทธิ์ใจ เพราะเราจะทำเพื่อโอ้อวด เพื่อให้มนุษย์ยกย่อง ให้เขารู้ว่าเราเป็นคนดี แต่ตอนนี้เราทำเพื่ออัลลอฮ์ มิใช่เพื่อการโอ้อวด แม้มนุษย์ไม่รู้แต่อัลลอฮ์ทรงรู้ เพื่อผลบุญที่จะได้รับการตอบแทนจากพระองค์ เมื่อเรามาสู่การละหมาด ทำให้เราได้กลับมาสู่การทำความดีเพื่ออัลลอฮ์ อีกครั้ง และเป็นอย่างนี้เรื่อยไป
Islammore : จุดแข็งของอิสลาม ?
ซอลาฮุดดีน : คือ การท่องจำอัลกุรอาน เพราะการอ่านภาษาอาหรับ ถ้าผิดแม้ตัวอักษรเดียวจะทำให้ความหมายเปลี่ยนไป และถ้าอ่านถูกต้องจะได้รับผลบุญ หนึ่งตัวอักษรเท่ากับสิบความดี และนี่เป็นอีกความดีที่เราสามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพราะฉะนั้นจึงมีนักท่องจำอัลกุรอานมาตั้งแต่ยุคของท่านนะบีมุฮัมมัด คัมภีรอัลกุรอานจึงได้รับการปกป้องรักษา การผิดเพี้ยนและบิดเบือน ทำให้แน่ใจว่า สิ่งที่สอนที่บอกกล่าวไว้ในอัลกุรอาน มาจากอัลลอฮ์ และไม่มีการเพิ่มเติมหรือเสริมแต่งอย่างแน่นอน
ตอนนี้พยายามอ่านอัลกุรอานภาษาอาหรับ และความหมายภาษาไทยด้วย เพื่อให้ทราบว่าจริงๆแล้ว อัลลอฮ์ ทรงกล่าวว่าอะไรบ้าง เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตให้ถูกต้อง
Islammore : มีปัญหากับครอบครัวเดิมไหม?
ซอลาฮุดดีน : มีบ้าง เป็นเรื่องของความรู้สึกกับคนที่เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เล็ก แต่โดยพื้นฐานจะเป็นคนทีมั่นใจตนเอง ใช้ชีวิตในทางที่เราเลือกเองมาตั้งแต่ต้น ทุกคนเลยเคารพความคิดซึ่งกันและกันและการดำเนินชีวิตของแต่ละคน ญาติพี่น้องคนอื่นจึงไม่มีปัญหาอะไร
ตอนนี้คงเหลือแต่ อา ที่เป็นคนเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เล็ก อยากให้ อา มาอยู่ด้วยกัน อยากเลี้ยงดูในยามที่ท่านแก่ชรา เพราะท่านเลี้ยงเรามาตั้ง 20 กว่าปี ทำไมแค่ช่วงเวลาอีกไม่กี่ปีที่ท่านมีชีวิตอยู่นี้เราจะเลี้ยงท่านไม่ได้
ความรู้สึกของ อา ตอนนี้ ?
เราจะไม่ค่อยพูดถึงกันในเรื่องความรู้สึก แต่จะเข้าใจกัน อา จะเสียใจและผิดหวัง สิ่งที่เกิดขึ้นจะกระทบทางจิตใจมากกว่า เพราะท่านกลัวว่า เมื่อท่านตายใครจะไหว้ ใครจะให้อาหาร ใครจะเผากระดาษเงิน กระดาษทองไปให้ท่าน ตามความเชื่อของเขา
คิดว่าสามารถที่จะดะวะฮ์ อา มาเข้าอิสลามได้ไหม ?
อินชาอัลลอฮ์ แต่ต่างคนต่างมีความคิดของตนเอง จะมีทิฐิและความเชื่อ ที่ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ดั้งเดิม แต่เราก็ต้องพยายาม อย่างน้อยก่อนที่ท่านจะตายให้ท่านได้กล่าว "ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ มุฮัมมะดุรเราะซูลลุลลอฮ์"
Islammore : มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานไหม ?
ซอลาฮุดดีน : กับเพื่อนร่วมงานไม่มีปัญหาอะไร อาจเพราะเราเป็นหัวหน้างาน และผู้ร่วมงานจะมีทั้งมุสลิม และไม่ใช่มุสลิม ที่เป็นมุสลิมเลยกลายเป็นทำให้เขาต้องละหมาด ต้องกล่าวสลาม แต่ก่อนเขาไม่ค่อยที่จะปฏิบัติอย่างที่ควรจะทำ แต่เดี๋ยวนี้ อัลฮัมดุลิลลาฮ์
เวลาละหมาด จะละหมาดที่ทำงาน ผู้ร่วมงานก็จะเห็นและจะทราบกัน แต่ผมจะพยายามเดินไปละหมาดที่มัสยิดที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน ไม่เคยขาดละหมาด และไม่ต้องใช้กอฎอ ผมจะละหมาดในเวลาตลอดและไม่มีอุปสรรคอะไรที่ทำให้ต้องขาดการละหมาด และปัจจุบันการงานของผม กลับทำให้ผมมีเวลาละหมาดมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเสียอีก อัลฮัมดุลิลลาฮ์
Islammore : ความรู้สึกในการไปทำฮัจญ์ ?
ซอลาฮุดดีน : อัลฮัมดุลิลลาฮ์ ดีใจและปลื้มใจมาก เที่ยวบินของผมเป็นเที่ยวบินที่มีปัญหาปิดสนามบิน ตอนแรกคิดว่าไม่ได้ไปแล้ว หัวใจตกหายไปที่ไหนไม่รู้ ร้องไห้เลยครับ ภรรยาบอกว่าสงสัยไม่ได้ไปแล้ว เลยพูดบอกเขาไปว่า ไม่ได้สิเราต้องได้ไป ช่วยกันขอดุอาร์ พี่น้องที่จะไปทั้งหมดช่วยกันขอดุอาร์ แล้วอัลลอฮ์ ก็เปิดทางให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี พอได้ไปรู้สึกเหมือนเราได้รับของที่มีค่า และพอไปถึงก็ไม่ผิดหวังเป็นฝันของมุสลิมทั่วโลก เป็นโอกาสที่น้อยคนจะได้รับจากพระองค์ และเป็นความภาคภูมิใจของตนเอง
จริงๆแล้วแต่ก่อนที่ยังไม่เป็นมุสลิม ก็เคยเห็นในทีวี ยังนึกว่า เขาไปเตรียมซักซ้อมกันที่ไหน คนเป็นล้านถึงได้ทำทุกอย่างพร้อมเพรียงกันหมด แล้วไปอยู่ในที่เดียวกันเวลาเดียวกัน ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา ทำไมถึงทำทุกอย่างได้เหมือนกัน ยังคิดอยากไปดูว่าเขาเตรียมพร้อมกันอย่างไร ถามเพื่อนว่าถ้าไม่ใช่มุสลิมจะไปเมืองนั้นได้ไหม เพื่อนก็บอกว่าไม่ได้ แต่ไปเมืองอื่นได้
แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า ทุกคนเตรียมพร้อมมากันเองตั้งแต่เล็ก มุสลิมทุกคนเราปฏิบัติเหมือนกันหมด ละหมาดเหมือนกัน ถือศีลอดเหมือนกัน ทำฮัจญ์ปฏิบัติเหมือนกันทั่วทั้งโลก นี่คือความยิ่งใหญ่จริงๆ แตกต่างจากศาสนาอื่น อย่างพุทธเวลากราบ จะกราบไม่เหมือนกัน คนจีนกราบอีกอย่าง คนไทยกราบอีกอย่าง คนทิเบตกราบอีกอย่าง คนอินเดียก็กราบอีกอย่าง สรุปว่าแค่กราบยังไม่เหมือนกันเลย
Islammore : เมื่อเห็นกะอ์บะฮ์ ครั้งแรก รู้สึกอย่างไร ?
ซอลาฮุดดีน : เราจะเห็นแต่ในรูปภาพ และคำบอกกล่าว พอไปเห็นกะอ์บะฮ์ รู้สึกปลื้มปิติอย่างบอกไม่ถูก ดีใจ ตื้นตันใจ ผมไป ตอวาฟ คนเดียวบ่อยมาก เพราะบางครั้งภรรยาละหมาดไม่ได้ ผมก็จะเดินไปคนเดียว
Islammore : อยากบอกอะไรกับมุสลิม ?
ซอลาฮุดดีน : อยากให้มุสลิมเข้ามาศึกษาหลักการศาสนาอิสลามอย่างแท้จริง จากคัมภีร์อัลกุรอาน และฮะดิษ ที่แปลความหมายภาษาไทย ซึ่งมีให้อ่านกันแล้ว เพราะถ้าได้ทราบหลักการอย่างแท้จริงแล้ว คิดว่าเราจะไม่มีปัญหากับคนรอบข้าง และจะทำให้คนอื่นเข้าใจในศาสนาอิสลามด้วย
เหมือนปัญหาภาคใต้ ถ้าเขารู้ว่าหลักการอิสลามคืออะไร คิดว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาแบบนี้อย่างแน่นอน และจะทำให้ภาคใต้สงบสุข และมีความจำเริญมากยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับมุลิมะฮ์ อยากให้พวกเธอคลุมฮิญาบครับ เพราะผมชอบมองคนที่คลุมฮิญาบ ตั้งแต่ก่อนที่จะเข้ารับอิสลาม ดูแล้วทำให้รู้สึกสบายตา และคิดว่าคนที่คลุมฮิญาบ อย่างน้อยเธอก็ปฏิบัติตามหลักการศาสนา และเธอต้องเข้มแข็งกว่าคนที่ไม่คลุมฮิญาบ เพราะคนที่คลุมฮิญาบ คนทั่วไปจะรู้ว่าเธอคือมุสลิม ถ้าเธอทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อาจจะแต่งตัวรัดรูป หรืออื่นๆ คนก็จะมองถึงศาสนาของเธอ แต่คนที่ไม่คลุมฮิญาบจะทำอะไรก็ไม่มีใครรู้ เพราะเธอไม่กล้าที่จะเปิดเผยตัวตนของเธอเอง
สุดท้าย อยากบอกว่า ชีวิตนี้แสนสั้นนัก เราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนโลกทั้งใบได้ แต่เราสามารถที่จะเปลี่ยนตัวเราเอง ในเมื่อมุสลิมที่ได้อิสลามมาอย่างง่ายดาย ทำไมคุณถึงไม่ทำตามหลักการของศาสนา เพราะการทำความดีในชีวิตนี้มีไม่มากนัก ขนาดวันหนึ่งเราอยากจะทำความดีมากๆ บางครั้งก็หมดวันหมดเวลาแล้ว ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นแล้ว
ขอฝากให้มุสลิมทุกคนได้เข้าใจหลักการอิสลามอย่างแท้จริง ปฏิบัติศาสนากับการดำเนินชีวิตให้ไปด้วยกัน และ ชีวิตนี้แสนสั้นนัก เราไม่สามารถเปลี่ยนโลกนี้ได้ ไม่สามารถเปลี่ยนคนอื่นได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนตนเองให้เป็นคนดี เพื่อพระองค์อัลลอฮ์ ได้
Islammore ขอขอบคุณ ซอลาฮุดดีน ที่ให้ข้อคิดดีๆ กับผู้ที่เข้ามาศึกษาในเว็บไซร์ อิสลามมอร์ ขอพระองค์อัลลอฮ์ ทรงประทานความสุข ความจำเริญให้กับครอบครัว ขอพระองค์ทรงประทานบุตรที่ซอและฮ์ ให้กับทั้งสองท่าน และขอพระองค์ทรงประทานพร และทางนำที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิต เพื่อก้าวต่อไปอย่างมั่นคง ด้วยเถิด ....อามีน
และเมื่อคุณอ่านคุณจะรู้ว่า ฮิดายะฮ์ จากพระองค์ อัลลอฮ์ มิได้ ได้มาโดยง่ายๆ และพระองค์จะมอบให้กับผู้ที่ใช้สติปัญญา ในการคิดและไตร่ตรอง ถึงการดำเนินชีวิตว่า
เส้นทางไหน คือ เส้นทางที่ทำให้มีความสุขอย่างแท้จริง
เส้นทางไหน คือ เส้นทางที่จะนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง
เส้นทางไหน คือ เส้นทางที่จะเป็นประโยชน์หรับมนุษยชาติอย่างแน่นอน
เส้นทางไหน คือ เส้นทางแห่งความจริง
เส้นทางที่จะเดินไปถึงสวรรค์ เส้นทางที่จะทำให้เราก้าวต่อไปอย่างมั่นคงโดยไม่หลงทาง ทุกคนคงจะมีคำตอบอยู่กับตัวเองแล้ว และ คำตอบนั้นจะนำคุณไปในทางที่คุณเลือกเอง นรก หรือ สวรรค์ อยู่ที่คุณเลือกเอง
Admin Islammore