เพื่อน...ในอิสลาม
คำว่า “เพื่อน” นั้นมีความสำคัญอย่างมากต่อมนุษย์ ตราบใดที่มนุษย์ยังต้องการพึ่งพาอาศัยกัน หรือยังต้องอยู่ร่วมกัน หรือต้องการความสงบสุขในชีวิต
อิสลามสนับสนุนการติดต่อสัมพันธ์กันระหว่างตัวเรากับเพื่อนมนุษย์ การติดต่อสัมพันธ์นั้นต้องเริ่มด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อให้อัลลอฮ์ ทรงตอบรับและให้ความจำเริญแก่งานนี้ ดังนั้นเราจึงสามารถคบหากับเพื่อนมนุษย์ได้ด้วยความบริสุทธิ์ใจและสนิทใจ ดังจากโองการจากอัลกุอานที่มีความว่า
“ในวันกิยามะฮ์นั้น บรรดาผู้ที่เคยเป็นเพื่อนกัน ต่างก็จะกลายเป็นศัตรูกัน นอกจากบรรดาผู้ที่มีความยำเกรงต่ออัลลอฮ์เท่านั้น”
ซูเราะฮ์ อัซ ซุครุฟ: 67
อิสลามสนับสนุนการอยู่อย่างสันโดษ เพื่อที่เราจะได้ใช้ความคิดตรึกตรองสิ่งต่างๆในโลกนี้หรือเพื่อหาความสงบทางกายและจิตใจ แต่อิสลามก็ไม่ได้ห้ามการติดต่อหรือคบค้าสมาคมกับเพื่อนมนุษย์ แต่ในทางตรงกันข้าม กลับได้ชื่อว่าเป็นมุสลิมที่มีความดี ดังฮะดีสที่มีความว่า
“มุอฺมินที่คบค้าสมาคมกับเพื่อนมนุษย์ และมีความอดทนต่อการทำร้ายของพวกเขานั้น
ย่อมดีกว่ามุอฺมินที่มิได้คบค้าสมาคมกับเพื่อนมนุษย์ และไม่มีความอดทนต่อการทำร้ายของพวกเขา”
บันทึกโดย อัตติรมีซีย์
อิสลามเน้นอยู่เสมอถึงการแสดงสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่โดยสนับสนุนการรวมตัวของมุสลิม และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ยิ่งจำนวนมุสลิมมีมากขึ้นเท่าใดก็ยิ่งเพิ่มความจำเริญจากอัลลอฮ์ มากเพียงนั้น ดังฮะดีสที่ท่านเราะซูล กล่าวไว้มีความว่า
“การละหมาดของคนคนหนึ่งร่วมกับอีกคนหนึ่งนั้น ดียิ่งกว่าการละหมาดของคนๆนั้นคนเดียว
และการที่เขาละหมาดร่วมกับคนสองคนนั้นย่อมดีกว่าการละหมาดกับคนคนเดียว
และถ้ายิ่งมีคนเพิ่มมากขึ้นเท่าใด นั่นก็คือความโปรดปรานของอัลลอฮ์ อัซซะวะญัลมากเท่านั้น”
บันทึกโดย อัตติรมีซีย์
ถ้ามุสลิมอยู่อย่างโดดเดี่ยว โดยตีตัวออกห่างจากผู้คนมากเท่าใดก็จะยิ่งพลาดโอกาสที่จะต่อสู้ในงานที่เป็นความดี หรือมีโอกาสน้อยที่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่ออิสลาม และเขาก็จะกลายเป็นผู้ที่ไม่ให้ความช่วยเหลือเพื่อนของเขาในยามคับขัน แต่โดยธรรมชาติของมนุษย์แล้วมักชอบสมาคม บางคนถึงกับวิ่งเข้าไปหา และสนทนากับผู้คนด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ทั้งสองลักษณะนี้อิสลามได้ชี้แนวทางไว้ให้โดยคำกล่าวที่ว่า
“จงคบค้าสมาคมกับเพื่อน แต่อย่าให้กระทบกระเทือนกับศาสนา”
และคำกล่าวที่ว่า “มุอฺมินคือผู้ที่อ่อนน้อม เป็นมิตรสนิทสนมกัน”
การอยู่อย่างสันโดษ และการอยู่โดยร่วมสังคมกับผู้อื่น นับเป็นสองลักษณะที่มุสลิมควรรู้จักเลือกว่า เวลาใดควรจะอยู่ในลักษณะใดจึงจะเหมาะสม เพื่อที่จะให้สองลักษณะนี้ มีประโยชน์แก่ตัวของเขาเอง และแก่สังคมรอบข้างด้วย
ในการคบค้ากับเพื่อนฝูง ขอให้มีรากฐานสำคัญคือความบริสุทธิ์ใจ และให้ทุกอย่างก้าวไปในหนทางของอีมาน และนั่นคือความหมายที่ว่า “รักกันเพื่ออัลลอฮ์ ไม่รักกันกันเพื่ออัลลอฮ์” และนี่คือความรักในแบบอิสลามที่แท้จริง เมื่อความปราถนาของมุสลิมในการคบเพื่อนเพื่ออัลลอฮ์นั้น เขาก็จะได้รับผลตอบแทนอย่างมหาศาล ดังฮะดีสกุดซีย์ ท่านเราะซูล กล่าวว่า อัลลอฮ์ ตรัสไว้มีความว่า
“บรรดาผู้ที่รักกันอันเนื่องจากความยิ่งใหญ่และเดชานุภาพของข้านั้น
เขาจะอยู่ภายใต้ร่มเงาแห่งอะรัชของข้า ในวันที่ไม่มีร่มเงาใดๆนอกจากร่มเงาของข้าเท่านั้น”
บันทึกโดย อะหฺมัด
มุสลิมนั้นจะต้องรักกันเพื่ออัลลอฮ์ และเช่นกันการไม่รักกันนั้นก็เพื่ออัลลอฮ์ เพื่อที่เขาจะได้ลิ้มรสความหวานชื่นแห่งการศรัทธา ดังฮะดีสรายงานโดย ท่านอนัส อิบนิ มาลิก เราะฏิยัลลอฮุอันฮุ แจ้งว่า ท่านเราะซูล กล่าวว่า
“มีอยู่สามอย่าง ถ้าผู้ใดมีลักษณะทั้งสามอย่างดังต่อไปนี้อยู่ในตัวของเขาแล้ว เขาก็จะต้องพบและลิ้มรสกับความหวานชื่นของการศรัทธา กล่าวคือ
1. ให้อัลลอฮ์และเราะซูลของพระองค์เป็นที่รักยิ่งแก่เขายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด
2. ให้รักเพื่อนมนุษย์เพราะอัลลอฮ์ และเกลียดกันเพื่ออัลลอฮ์
3. ให้เกลียดชังที่จะกลับไปสู่การกุฟรฺ ประดุจดังเกลียดชังที่จะถูกโยนเข้าสู่ไฟนรก”
บันทึกโดย มุสลิม อัตติรมีซีย์ และอันนะซาอีย์
เมื่อคนสองคนรักกันเพื่อที่จะเป็นเพื่อนกันในหนทางของอัลลอฮ์ ดังจะเห็นได้จากฮะดีสกุดซีย์ มีรายงานจากท่านเราะซูล แจ้งว่า อัลลอฮ์ ตรัสว่า
“ความรักของข้านั้นจะปรากฏแก่บรรดาผู้ที่รักกันเพื่อข้า และผู้ที่เยี่ยมเยือนกันเพื่อข้า และผู้ที่ให้กันเพื่อข้า และผู้ที่เป็นมิตรกันเพื่อข้า”
บันทึกโดย อะหฺมัด และอัฏฏ็อบรอนีย์
เพื่อนที่ดีนั้นย่อมจะนำพาเพื่อนของเขาสู่ชัยชนะทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ส่วนเพื่อนที่ไม่ดีนั้น กี่มากน้อยแล้วที่สร้างความเจ็บปวดให้แก่เพื่อนของเขา เพราะทั้งสองนั้นได้ตกอยู่ภายใต้การชักนำของชัยฏอน ดังที่อัลลอฮ์ ได้ตรัสไว้มีความว่า
“ในวันที่ผู้อธรรมต่อตนเองจะกัดมือของเขา (วันกิยามะฮ์) แล้วกล่าวว่า หวังว่าฉันจะได้อยู่ในหนทางของท่านเราะซูลเหลือเกิน
โอ้ความวิบัติเอ๋ย หวังว่าฉันจะไม่เอาคนๆนั้นมาเป็นเพื่อนอีก เพราะเขาทำให้ฉันหันเหออกจากอัลกุรอาน ภายหลังจากที่อัลกุรอานได้มีมายังฉันแล้ว
และแท้จริงมันนั้นเป็นผู้หลอกลวง”
ซูเราะฮ์ อัลฟุรกอน: 27-29
ท่านเราะซูล ได้เตือนเกี่ยวกับการเลือกคบเพื่อน โดยที่เราเลือกที่จะนำตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มบุคคลเหล่านั้น ดังที่ท่านเราะซูล กล่าวว่า
“อุปมาเพื่อนที่ดี อุปมัยดังคนที่มีของหอม(ชะมดเชียง) แม้ว่าจะไม่มีสิ่งใดจากของหอมนั้นมาถูกท่านเลย แต่กลิ่นของมันก็จะมาถูกท่านด้วย
และอุปมัยเพื่อนที่เลว อุปมัยดังช่างหลอมเหล็ก แม้ว่าสิ่งสกปรกจากเตาฟืนจะไม่ถูกท่าน แต่เถ้าถ่านของมันก็จะถูกท่าน”
รายงานโดย อบูดาวู๊ด
ในกลุ่มเพื่อนที่เราเข้าไปอยู่นั้น ถ้าเป็นคนไม่ดีแล้วก็จะเป็นอันตรายแก่เรา ส่วนเพื่อนที่ดีที่ฉลาดปราดเปรื่อง เขาก็จะยกฐานะของเพื่อนให้อยู่ในระดับสูงด้วยเช่นกัน เพื่อนที่ดีนั้นจะต้องตั้งมั่นอยู่บนหลักการศรัทธา และปฏิบัติงานตามที่เขาศรัทธาคือเป็นมุสลิมที่ดีทั้งดุนยาและอาคิเราะฮ์ เขามีความดีอยู่ในตัวทุกด้าน ไม่ว่าทางกายหรือวาจาที่เปล่งออกมา หรือความนึกคิดก็จะเต็มไปด้วยความยุติธรรม ดังคำกล่าวที่ว่า
“ใครที่ทำธุรกิจร่วมกับเพื่อนมนุษย์ โดยที่เขาไม่ขมเหง เมื่อพูดกับเขาก็ไม่โกหกเขา
เมื่อสัญญากับเขาก็ไม่ผิดสัญญา นับว่าเขาผู้นั้นเป็นผู้ที่มีเกียรติอย่างสมบูรณ์ มีความเป็นธรรมอย่างบริสุทธิ์”
ท่านนบี ยังได้สอนแก่เราว่า ถ้ารักเพื่อนคนใดก็ให้บอกแก่เขาว่าเรารักเขา ทั้งนี้เพื่อที่จะเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ให้กระชับยิ่งขึ้น ดังฮะดีสของท่านบี ซึ่งมีความว่า
“เมื่อคนหนึ่งคนใดในพวกเจ้ารักพี่น้องของเขา ก็จงบอกให้เขารู้ว่ารักเขา”
บันทึกโดย อะหฺมัด
ท่านนบี ยังได้เสริมอีกว่า ถ้าเราจะคบเพื่อนคนใดก็ให้ถามชื่อ สกุล และควรจะรู้ว่าเขามาจากไหน เป็นใครกัน
“เมื่อคนหนึ่งคนใดเป็นมิตรกัน ก็จงถามถึงชื่อของเขา และชื่อบิดาของเขา ว่าเป็นใคร เพราะจะทำให้กระชับความสัมพันธ์กันมากขึ้น”
บันทึกโดย อัตติรมีซีย์
ท่านนบี ได้ส่งเสริมให้เราผูกมัดจิตใจของเพื่อน เพื่อให้ความรักนั้นยาวนานโดยการให้ของขวัญ ซึ่งของขวัญนั้นไม่จำเป็นต้องมีค่าเป็นวัตถุ หรือใหญ่โต เพียงแต่ให้รู้ว่ามีค่าแห่งน้ำใจระหว่างเพื่อนก็เพียงพอแล้ว ดังถ้อยคำของท่านเราะซูล ที่ว่า
“จงให้ของขวัญกันเถิด เพราะการให้ของขวัญกันนั้น จะเป็นการขจัดความขุ่นข้องหมองใจกัน”
บันทึกโดย อัตติรมีซีย์
อิสลามสนับสนุนการคบค้าสมาคมกัน ดังนั้น คำว่า “เพื่อน” จึงมีความสำคัญต่อมนุษย์ แต่ก่อนที่เราจะคบเพื่อนคนใดก็ขอให้เราพิจารณา ตรึกตรองให้ดี แล้วเราก็จะมีความสุขอยู่ในหมู่เพื่อนฝูงเหล่านั้น คือเขาและเราต่างก็เป็นผู้ศรัทธาซึ่งกันและกัน เมื่อจะทำอะไรก็จะคิดอยู่เสมอว่าสิ่งนี้อยู่ในหนทางของศาสนาหรือไม่ เมื่อบุคคลกลุ่มใดมีความคิดเช่นนี้แล้ว อินชาอัลลอฮ์ พระองค์อัลลอฮ์คงจะโปรดให้เขาปลอดภัยจากมารร้ายต่างๆ และให้เขาเป็นมุอฺมินที่ศรัทธาอย่างแท้จริง
คัดจาก วารสารสายสัมพันธ์ (อัร รอบิเฏาะฮ์)