สิ่งที่ทำให้เสียศีลอด 2
  จำนวนคนเข้าชม  31966

ประเภทที่สอง

การหลั่งน้ำอสุจิด้วยเจตนา เช่นด้วยการจูบ จับสัมผัส การสำเร็จความใคร่

 

          เพราะว่ามันเกิดขึ้นด้วยอารมณ์ใคร่ ซึ่งการถือศีลอดจะใช้ไม่ได้นอกจากต้องงดจากสิ่งนี้ ดังที่มีปรากฏในหะดีษกุดสีย์ว่า

"เขาได้ละทิ้งอาหาร เครื่องดื่ม และอารมณ์ใคร่ของเขา เพราะข้า"

บันทึกโดยอัลบุคอรีย์

          การจูบและสัมผัสโดยไม่หลั่งนั้นไม่ทำการถือศีลอดเสีย เนื่องจากมีหะดีษในตำราหะดีษเศาะฮีหฺทั้งสองจากอาอิชะฮฺ เราะฎิยัลลอฮฺ อันฮา ว่า

"ท่านนบี  ได้จูบในขณะที่ถือศีลอด และได้คลุกคลีกับภรรยาในขณะที่ถือศีลอด แต่ท่านเป็นผู้ที่สามารถระงับอารมณ์ของท่านได้ดีที่สุด"

  

        ในเศาะฮีหฺมุสลิมมีรายงานว่า

อุมัร บิน สะละมะฮฺ ได้ถามท่านนบี  ว่า ผู้ถือศีลอดจูบได้ไหม ?

ท่านนบี  กล่าวว่า  "จงถามนางผู้นี้ – ท่านหมายถึง อุมมุ สะละมะฮฺ – "

 นางก็ได้บอกกับเขาว่า ท่านนบี  ได้เคยทำเช่นนั้น

แล้วท่านนบี ก็กล่าวว่า  "ทว่าพึงทราบเถิด ขอสาบานด้วยอัลลอฮฺ แท้จริงฉันเป็นผู้ที่ยำเกรงและหวาดหวั่นต่ออัลลอฮฺมากที่สุดในหมู่พวกเจ้า"

 

          แต่ว่า ถ้าหากผู้ถือศีลอดกลัวว่าตัวเขาจะหลั่งอสุจิด้วยการจูบของเขาหรือด้วยเหตุอื่นๆ หรืออาจจะนำพาไปถึงขั้นการมีเพศสัมพันธ์ในที่สุดเนื่องจากไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ ดังนั้นการจูบและการเล้าโลมนั้นก็หะรอมสำหรับเขาเพื่อเป็นการป้องกันสิ่งไม่พึงประสงค์ และป้องกันไม่ให้การถือศีลอดเสีย ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ ท่านนบี  จึงได้สั่งให้ผู้ที่อาบน้ำละหมาดสูดน้ำเข้าจมูกให้ลึก เว้นแต่ขณะนั้นเขาเป็นผู้ที่ถือศีลอดอยู่ ก็ไม่ต้องสูดน้ำเข้าจมูกให้ลึก เพราะกลัวว่าน้ำจะเข้าไปยังโพรงด้านใน

          ส่วนการหลั่งอสุจิเนื่องด้วยการฝันหรือคิดเฉยๆ โดยไม่ได้ลงมือกระทำใดๆ นั้น ไม่ทำให้การถือศีลอดเสียไป เพราะการฝันไม่ได้เกิดจากเจตนาของผู้ถือศีลอด ส่วนการคิดจินตนาการนั้นถูกอนุโลม ดังคำพูดของท่านนบี ที่ว่า

 

"แท้จริง อัลลอฮฺ ทรงอนุโลมแก่ประชาชาติของฉัน ในสิ่งที่ใจพวกเขาครุ่นคิด ตราบใดที่ไม่ลงมือทำหรือพูดออกมา"

เป็นหะดีษมุตตะฟะกุนอะลัยฮฺ บันทึกโดยอัล-บุคอรีย์และมุสลิม