"40 หะดีษ" สร้างครอบครัวคุณธรรม สู่สังคมอุดมสุข 1
  จำนวนคนเข้าชม  237244

<  40 หะดีษ  >
สร้างครอบครัวคุณธรรม  สู่สังคมอุดมสุข

 เรียบเรียงโดย : อาบู  อัดนาน อาหมัด  อัลฟารีตีย์

Part 1

 

 
1.ครอบครัวมุสลิมมีความภูมิใจที่มีศาสนาอันสูงส่ง

 

قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { اَلإِسْلاَمُ يَعْلُوْ وَلاَ يُعْلَى }

( صحيح الجامع: 2778)

ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า  อิสลามนั้น ( เป็นศาสนาที่ ) สูงส่งไม่มีศาสนาใดเหนือกว่าอิสลาม"

ข้อคิดจากหะดีษ
 
1. ท่านนบี ได้กล่าวยกย่องศาสนาอิสลามว่าเป็นศาสนาที่สูงส่ง ไม่มีศาสนาใดเหนือกว่าอิสลาม
2. ความสูงส่งของอิสลามนั้นก็เนื่องมาจากอัลลอฮฺและพระองค์ทรงรับรองว่าเป็นศาสนาที่ดีและสมบูรณ์ที่สุด
3. มุสลิมทุกคนต้องมีความภูมิใจและมีความซาบซึ้งในความโปรดปรานของอัลลอฮฺด้วยนิอฺมัตอัลอิสลามและ มุสลิมต้องเสียสละ ปกป้อง รักษาไว้ซึ่งความสูงส่งของอิสลามด้วยการยึดมั่นและปฎิบัติตามคำสอนของอิสลามอย่างเคร่งครัด


2.ครอบครัวมุสลิมต้องตักเตือนกันและกัน

قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { الدِّيْنُ النَّصِيْحَةُ }

( صحيح الجامع 3416  )

ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า  ศาสนา ( อิสลาม เป็นศาสนาที่ให้ ) มีการตักเตือนกันและกัน"   

ข้อคิดจากหะดีษ

1.คำว่านะศีหะฮฺหมายถึงความบริสุทธิ์ใจ หรือการตักเตือน
2.ท่านนบี ให้ความหมายอย่างหนึ่งของศาสนาอิสลาม คือ ที่มีความบริสุทธิ์ใจ ที่มีคำสอนมุ่งเน้นในการให้ตักเตือนกันและกันเพื่อสร้างปัจเจกบุคคล ครอบครัวที่มีคุณธรรมและสังคมเปี่ยมด้วยสงบสุข 
3.บุคคลใดไม่ยอมใช้นะศีหะฮฺแสดงว่าเขายังไม่เข้าใจอิสลามที่แท้จริง


3.ครอบครัวมุสลิมต้องยึดมั่นสุนนะฮฺนบี

قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { لَيْسَ مِنَّا مَنْ عَمِلَ بِسُنَّةِ غَيْرِنَا  }

( صحيح الجامع 5435 )


ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า ไม่ใช่คนในกลุ่มของพวกเรา  ผู้ที่ปฏิบัติตามสุนนะฮฺ ( แนวทาง ) คนอื่นที่ไม่ใช่สุนนะฮฺของเรา"

          ข้อคิดจากหะดีษ

1. ท่านนบี เตือนผู้ที่ยึดแนวทาง หรือ เอาวิถีชีวิตที่ไม่ใช่มาจากท่าน คนเหล่านั้นถือว่าเป็นคนที่ออกจากการเป็นสมาชิกประชาชาติของท่านเพราะเขาปฎิบัติที่ไม่ถูกต้องตามที่ท่านได้ทำแบบอย่างให้
2. สุนนะฮฺของนบี เป็นหลักการสำคัญของอิสลาม
3. ครอบครัวใดที่ประสงค์อยู่ในความถูกต้องจำเป็นต้องยึดมั่นและปฎิบัติตามแนวทางของนบี


4.ครอบครัวมุสลิมอยากเข้าสวรรค์อย่าตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ

قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { مَنْ لَقِيَ اللهَ لاَ يُشْرِكُ بِهِ شَيْئًا دَخَلَ الْجَنَّةَ }

( البخارى )


ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า  ผู้ใดที่จากโลกนี้ไปสู่อัลลอฮฺโดยไม่ตั้งภาคีต่อพระองค์กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย คนนั้นจะได้เข้าสวนสวรรค์"

          ข้อคิดจากหะดีษ

1.มนุษย์ทุกคนหลังจากโลกนี้แล้วต้องกลับไปสู่อัลลอฮฺพร้อมๆกับความเชื่อและอามัลต่างๆของเขา
2.ท่านนบี  สอนให้เรายึดมั่นในเอกภาพของอัลลอฮฺและไม่ตั้งภาคีต่อพระองค์
3.บุคคลใดที่ยึดมั่นในในเอกภาพของอัลลอฮฺ และไม่ตั้งภาคีต่อพระองค์บุคคลนั้นย่อมได้รับประกันเข้าสวรรค์ด้วยความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ
4.คนมุอฺมินจำเป็นต้องรักษาไว้ซึ่งอีหม่านที่เปี่ยมด้วยบริสุทธิ์และหลีกเลี่ยง ระมัดระวังจากพิษภัยของการตั้งภาคีต่ออัลลอฮฺ


5.ครอบครัวมุสลิมต้องไม่มีคุณลักษณะของมุนาฟิก

قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { أَيَةُ الْمُنَافِقِ ثَلاَثٌ ، إِذَا حَدَّثَ كَذِبَ،وَإِذَا وَعَدَ أَخْلَفَ، وَإِذَا اؤْتُمِنَ خَانَ }

( متفق عليه )


ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า  เครื่องหมายของผู้กลับกลอกมีอยู่สามประการ คือ เมื่อเขาพูด เขาก็โกหก เมื่อเขาสัญญา เขาก็ผิดสัญญา และเมื่อเขาได้รับความไว้วางใจเขาก็บิดพลิ้ว"

          ข้อคิดจากหะดีษ

1.ท่านนบี   ได้กล่าวถึงสามคุณลักษณะและพฤติกรรมของผู้ที่ถูกเรียกว่ามุนาฟิกหรือผู้กลับกลอก
2.การพูดโกหก การผิดสัญญา และการบิดพริ้ว หรือหลอกลวงเป็นคุณสมบัติสาคัญของมุนาฟิก
3.มุสลิมทุกคนต้องพูดจริงตรงไปตรงมา ต้องปฎิบัติตามสัญญาและต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ได้รับมอบหมาย และต้องระมัดระวัง พร้อมหลีกเหลี่ยงความประพฤติที่ไม่พึ่งประสงค์ในอิสลาม


6.ครอบครัวมุสลิมต้องเรียนและสอนอัลกุรอาน

قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : { خَيْرُكُمْ مَنْ تَعَلَّمَ الْقُرْآنَ وَعَلَّمَهُ }

( البخارى )

 

ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า  ผู้ที่ดีที่สุดในหมู่พวกท่านคือผู้ที่เรียนและสอนอัลกุรอาน"

ข้อคิดจากหะดีษ

1. อัลกุรอานเป็นพระดำรัสของอัลลอฮฺที่ทรงประทานแก่นบี เป็นคัมภีร์แห่งชีวิตของมุสลิมที่สมบูรณ์ที่สุดและครอบคลุมในทุกๆด้าน
2. มุสลิมจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาเรียนรู้ อ่าน สอนอัลกุอานและปฎิบัติตามคำสอนในอัลกุรอาน ซึ่งเป็นธรรมนูญของเขาและเขาจะได้รับผลบุญอันมากมายจากอัลลอฮฺ
3. ความประเสริฐที่สุดสำหรับผู้ที่เอาใจใส่กับอัลกุรอาน


7. ครอบครัวมุสลิมต้องเป็นผู้สร้างคุณประโยชน์ให้มากที่สุด

قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : {  مَثَلُ الْمُؤْمِنِ مَثَلُ النَّخْلَةِ، مَا أَخَذْتَ مِنْهَا مِنْ شَيْءٍ نَفَعَكَ }

( صحيح الجامع 5846 )


ความว่า  "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า  มุอฺมินผู้ศรัทธาเปรียบเสมือนต้นอินทผาลัม  สิ่งใดที่ท่านเอาจากมันมีประโยชน์แก่ท่าน"

          ข้อคิดจากหะดีษ

1. ท่านนบี   ได้เปรียบเทียบผู้ที่มีความศรัทธาเสมือนต้นอินทผาลัมที่มีรากฐานที่มั่นคง  ลำต้นที่แข็งแรง มีใบที่ร่มเงา มีผลให้ได้เก็บเกี่ยว ซึ่งทุกอย่างให้คุณประโยชน์แก่มนุษย์อย่างมากหมาย
2. ผู้ศรัทธาต้องเป็นเสมือนต้นอินทผาลัม นั้นคือสร้างคุณประโยชน์แก่ผู้อื่นอย่างเต็มความสามารถ
3. ความประเสริฐของมุอฺมินคือมีอีหม่านที่มั่นคง มีอมัลศอและหฺและได้ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอ


8.ครอบครัวมุสลิมต้องแสวงหาความรักของอัลลอฮฺ ด้วยความอดทน

قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : {  إِذَا أَحَبَّ اللهُ قَوْمًا ابْتَلاَهُ }

(صحيح الجامع  : 4013  )

ความว่า  "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า  เมื่อใดอัลลอฮฺทรงรักพวกหนึ่ง พระองค์จะทรงทดสอบพวกเขา"  

ข้อคิดจากหะดีษ

1.อัลลอฮฺทรงมีคุณลักษณะที่สูงส่ง หนึ่งในคุณษณะนั้นความรักต่อบ่าวของพระองค์
2.กลุ่มใด ครอบครัวใดที่ได้รับความรักจากอัลลอฮฺ เขาเหล่านั้นอัลลอฮทรงทดสอบความเข้มแข็งของความศรัทธา ความจริงใจ และความอดกลั่นของพวกเขาต่อสิ่งที่พระองค์ทดสอบ
3.ความประเสริฐของผู้ที่ได้รับการทดสอบจากอัลลอฮฺ


9.ครอบครัวมุสลิมต้องให้สลามกันและกัน

قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : {يَا بُنَيَّ إِذا دَخَلْتُمْ عَلَى أَهْلِكَ فَسَلِّمْ يَكُنْ بَرَكَةً عَلَيْكَ وَعَلَى أَهْلِكَ}

( رواه الترمذي وقال : حسن صحيح )


ความว่า  "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า  โอ้ ลูกรักของฉัน  เมื่อยามใดที่ลูกเข้าบ้านของครอบครัว จงกล่าวสลามเถิด เพื่อบะเราะกะฮฺ ( สิริมงคล ) จะตกเป็นของเจ้าและครอบครัวของเจ้า"

          ข้อคิดจากหะดีษ

1.สลามหมายถึงคำกล่าวขอพรต่ออัลลอฮฺเพื่อได้มาซึ่งความสันติสุขแก่ผู้ที่ถูกให้สลาม
2.ส่งเสริมการให้สลามระหว่างมุสลิมด้วยกันเนื่องจากสลามเป็นเอกลักณ์สำคัญในอิสลาม
3.ทุกครั้งที่จะเข้าพบครอบครัว หรือ เข้าบ้านควรให้สลามแก่พวกเขา หรือ ผู้อยู่ในบ้านก่อน
4.การให้สลามแก่ครอบครัวเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ได้รับความบะเราะกะฮฺในชีวิตทั้งผู้ให้สลามและผู้รับสลาม
5.อิสลามต้องการให้ครอบครัวมุสลิมเป็นครอบครัวรักสันติ


10.ครอบครัวมุสลิมต้องปกปิดสิ่งที่น่าอับอาย

قَالَ رَسُوْلُ اللهِ : {  وَمَنْ سَتَرَ مُسْلِمًا سَتَرَهُ اللهُ فِى يَوْمَ الْقِيَامَةِ}

( رواه البخارى  )

ความว่า "ท่านรสูล ได้กล่าวว่า  และผู้ใดเอื้อเฟื้อช่วยปกปิดสิ่งที่น่าอับอายของมุสลิมด้วยกัน แน่นอนพระองค์อัลลอฮฺจะทรงเกื้อหนุนปกปิดสิ่งที่น่าอับอายของเขาในวันโลกหน้า"

          ข้อคิดจากหะดีษ  

1.มุสลิมกับมุสลิมถือว่าเป็นพี่น้องกัน ต้องช่วยเหลือและต้องปกป้องซึ่งกันและกัน
2.มุสลิมที่มีคุณธรรมต้องรักษาและปิดบังสิ่งที่ทำให้เกิดความน่าอับอายแก่คนอื่น
3.ในวันอาคิเราะฮฺอัลลอฮฺทรงปกปิดความผิดของผู้ที่ปกปิดความผิดของมุสลิม
4.การตอบแทนของอัลลอฮฺในวันอะคีเราะฮฺเหมาะสมกับการกระทำของมนุษย์บนโลกนี้

   

โปรดติดตามตอนต่อไป


 "40 หะดีษ" สร้างครอบครัวคุณธรรม สู่สังคมอุดมสุข